"...พิธา : ผมยังมีความมั่นใจ 100% ที่จะได้มีโอกาสเป็นรัฐบาล และมั่นใจ 100% ที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี...แพทองธาร : ต้องให้พรรคการเมืองที่มาอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังไม่รู้ผล รออีกสักหน่อยจะได้ผลชัวร์ๆ มากกว่านี้... พล.อ.ประยุทธ์ : ก็ขึ้นอยู่กับประเทศชาติ ประเทศไทยนั่นแหละ คนไทยว่าอย่างไรก็ตามนั้นแหละ..."
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าบรรยากาศการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 ว่า ภายหลังการปิดหีบเลือกตั้งเมื่อเวลา 17.00 น. และเริ่มต้นมีการนับคะแนนผลการเลือกตั้งเป็นทางการ ปรากฏว่า พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เป็น 2 พรรคการเมือง ที่มีผลคะแนนนำพรรคการเมืองอื่น ขณะที่ก่อนหน้านั้น ผลโพลประเมินว่า พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย มีคะแนนเสียงสูสีกัน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล , น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย รวมไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ ต่างเปิดเผยความรู้สึกเกี่ยวกับผลการนับคะแนนช่วงแรกและผลโพลต่อสื่อมวลชน
มีรายละเอียดดังนี้
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
"รู้สึกดีใจที่ได้ทำงานเต็มที่ในช่วงที่ผ่านมา ถ้าย้อนกลับไปก็ไม่มีอะไรที่เสียใจหรือเสียดาย ได้ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว ต้องขอขอบคุณทีมงานทุกคนที่ช่วยกันทำงานมา100กว่าวัน ส่วนผลโพลล์ของสำนักต่างไม่ได้ดูหรือฟังอะไร รอดูผลคะแนนที่แท้จริงจะดีกว่า"
“ไม่ว่าสมการจะออกมาอย่างไรทั้งก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง เรามีจุดยืนชัดเจนมาโดยตลอดว่า การร่วมกันเป็นรัฐบาลของพรรคร่วมฝ่ายค้านน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด สำหรับความท้าทายของประเทศไทย แม้จะมีความเห็นที่แตกต่างในอดีตในบางเรื่อง แต่โอกาสที่จะร่วมมือกันมันใหญ่กว่าความแตกต่างที่เรามีอยู่แน่นอน ต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ต้องรอให้เกิดการนับคะแนนที่แท้จริงก่อน”
"จะประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคก่อนเพื่อหารือเงื่อนไขต่างๆที่จะเกิดขึ้นต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดในระบอบประชาธิปไตยคือให้พรรคอันดับหนึ่งเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลก่อน ถ้าพรรคเพื่อไทยมาอันดับหนึ่งก็ให้เพื่อไทย ถ้าพรรคก้าวไกลมาอันดับหนึ่งก็ต้องให้พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล ถ้าจะคุยกับพรรคเพื่อไทยก็คงจะคุยกับน.ส.แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หรือนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยก่อน"
“ผมยังมีความมั่นใจ 100% ที่จะได้มีโอกาสเป็นรัฐบาล และมั่นใจ 100% ที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเห็นในความตั้งใจของทีมงานที่ทำเต็มที่ มั่นใจในแคมเปญหาเสียงที่ทำมาตลอด ซึ่งได้เช็คและเข้าไปลงพื้นที่ตามยุทธศาสตร์ในการหาเสียงมาตลอด แคมเปญการเมืองเป็นวิทยาศาสตร์ เราจะดูคะแนนและดูคู่แข่ง ไม่ได้หาเสียงโดยไม่ได้วางแผน”
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
"ยังมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์"
เมื่อสื่อมวลชนถามถึงการวิเคราะห์เรื่องเดดล็อกทางการเมือง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ควรจะเคารพระบอบประชาธิปไตย ประชาชนจะเลือกออกมาอย่างไรก็ตามทุกพรรคต้องน้อมรับในสิ่งที่ประชาชนเลือก แน่นอนเราหาเสียงมาทั้งหมด ทุกพรรคหวังเต็มที่อยู่แล้วรวมถึงพรรคเพื่อไทย แต่สรุปเสียงของประชาชนก็คือคำตอบ"
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยได้เสียงอันดับหนึ่ง ควรจะมีความชอบธรรมจัดตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "ใช่ค่ะ ก็ยังคิดอย่างนั้นต่อ"
เมื่อถามถึงการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "ต้องให้พรรคการเมืองที่มาอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังไม่รู้ผล รออีกสักหน่อยจะได้ผลชัวร์ๆ มากกว่านี้"
เมื่อถามว่า หากเห็นเลข ส.ส.ของแต่ละพรรค สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เลยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “เดี๋ยวก่อนๆ อาจจะคุยคร่าวๆ เป็นแนวทาง แต่คงยังไม่มีอะไรที่ทางการต้องคุยกันก่อน”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ
เมื่อสื่อมวลชนถามว่ากำลังใจของท่านยังดีอยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ดีแน่ ดีแน่นอน ก็ขึ้นอยู่กับประเทศชาติ ประเทศไทยนั่นแหละ คนไทยว่าอย่างไรก็ตามนั้นแหละ"
เมื่อถามว่าอยากจะบอกอะไรกับพรรคผลโพลอยู่อันดับ 1-2 หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า "ไม่บอกอ่ะ จะไปบอกอะไรเขาเล่า ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอะไร"
เมื่อถามว่า จะขอบคุณอะไรประชาชนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็ขอบคุณไปแล้วไง ขอบคุณประชาชนทุกคน"