"...สาเหตุสำคัญคาดว่าน่าจะเกิดจากความไม่รู้, ความไม่เชี่ยวชาญระบบปรับอากาศที่มีซับซ้อนดังกล่าว ส่งผลให้เกิดปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีกจนถึงปัจจุบัน เนื่องจาก TOR บริหารงานอาคารและดูแลบำรุงรักษาระบบต่างๆภายในอาคารกรมสรรพากร เป็นการรวมทุกระบบอยู่ในสัญญาเดียว ซึ่งยากที่บริษัทเพียงบริษัทเดียวจะสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกระบบของอาคารดังกล่าวได้..."
สืบเนื่องจาก สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานกรณีสรรพากร ดำเนินโครงการจัดซื้อจัดจ้าง ปรับปรุงเปลี่ยนระบบเครื่องปรับอากาศใหม่ทั้งอาคารสำนักงานใหญ่ วงเงินเกือบ 200 ล้านบาท โดยได้ผู้ชนะประมูลเป็นบริษัท ซัยโจ เด็นกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยตรวจรับแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2561 แต่ใช้งานได้เพียง 2 สัปดาห์ ระบบทำความเย็นก็เริ่มขัดข้อง จนถึงตอนนี้ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่กรมฯ กว่าร้อยละ 80 ต้องทำงานในสภาพอากาศร้อน บางส่วนจึงต้องนำพัดลมมาใช้เอง
ล่าสุด นายสมศักดิ์ จิตติพลังศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัยโจ เด็นกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ชี้แจงว่า จากกรณีปัญหาการติดตั้งระบบปรับอากาศภายในอาคารกรมสรรพากร บริษัทฯ ขอชี้แจง ดังนี้
1. สภาพอาคารกรมสรรพากรมีข้อจำกัดมาก เนื่องจากอาคารไม่มีที่วางเครื่องระบายความร้อน (Outdoor Unit) โดยต้องวางเครื่องทั้งหมดอยู่ในห้องระบายความร้อนที่อยู่ภายในอาคาร ซึ่งมีบริเวณติดกับห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกชั้น ห้องระบายความร้อนภายในอาคารดังกล่าวมีสภาพแออัดและมีช่องตะแกรงให้ลมเข้าออกเพียงจุดเดียว รวมถึงตำแหน่งห้องระบายความร้อนดังกล่าวยังถูกจัดให้อยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งทิศดังกล่าวจะมีลมธรรมชาติพัดสวนทางเข้ามาในอาคาร ทำให้ลมร้อนที่ระบายจากเครื่องระบายความร้อนบางส่วนสวนกลับเข้ามาในอาคารอยู่เสมอ ทำให้การระบายความร้อนออกจากอาคารดังกล่าวทำได้ยาก และกรมสรรพากรทราบถึงปัญหาดังกล่าวตั้งแต่ต้น จึงกำหนดอุณหภูมิรอบเครื่องระบายความร้อนใน TOR ไว้ที่ 43 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิรอบเครื่องระบายความร้อนโดยทั่วไปจะมีอุณหภูมิเพียง 35 องศาเซลเซียสเท่านั้น
2. บริษัทฯ ยื่นประมูลงานปรับปรุงระบบปรับอากาศในอาคารดังกล่าวในราคา 191,844,975.85 บาท ต่ำกว่าราคากลางซึ่งกำหนดไว้ที่ 321,374,755 บาทประหยัดงบประมาณให้แก่ราชการถึง 130,000,000 บาท ซึ่งสเหตุที่ลงทุนไปในราคานั้น ทั้งที่เป็นงานยาก เพราะอยากให้อาคารกรมสรรพากรเป็นโชว์เคสว่า และก็ช่วยประหยัดเงินราชการ
3. ต่อมา บริษัทฯ เข้าดำเนินการปรับปรุงระบบปรับอากาศตามสัญญา โดยติดตั้งตามข้อกำหนดใน TOR แต่ระหว่างทดสอบระบบการใช้งาน รองศาสตราจารย์ สุรชัย บวรเศรษฐนันท์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ จากคณะวิศกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และวิศวกรผู้ควบคุมงาน พบว่า อุณหภูมิรอบเครื่องระบายความร้อนในห้องดังกล่าวสูงถึง 56 องศาเซลเซียส (ขณะที่ TOR กำหนดไว้ที่ 43 องศาเซลเซียส) โดยเครื่องปรับอากาศแม้ติดตั้งตรงตามสัญญาและตาม TOR แต่เมื่อเปิดใช้งานในภาวะที่ผิดปรกติดังกล่าวมีผลให้คอมเพรสเซอร์ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ต่างๆเสียหายเป็นจำนวนมาก สาเหตุหลักเกิดจากพื้นที่ในการตั้งเครื่องระบายความร้อนตามข้อจำกัดของอาคาร
บริษัทฯ จึงแก้ไขตามคำแนะนำของวิศวกรผู้ควบคุมงาน โดยเพิ่มระบบอุปกรณ์เกินกว่าที่กำหนดใน TOR รวมเป็นเงินกว่า 20,000,000 บาท คือ ระบบมอเตอร์พัดลมขนาดใหญ่ เพื่อผลักอากาศร้อนออกจากอาคารทุกชั้น และระบบลดความร้อนด้วยน้ำ (Spray Evaporative Cooling) ระบบจึงจะสามารถทำความเย็นได้สำเร็จ รวมถึงสามารถผ่านการทดสอบในภาวะวิกฤติ คือทำอุณหภูมิภายในห้องได้ต่ำถึง 15 องศาเซลเซียส ขณะที่ตั้งอุณหภูมิภายนอกสูงถึง 60 องศาเซลเซียส ติดต่อกันนานถึง 2 เดือน จนกระทั่งข้าราชการที่ปฏิบัติงานในอาคารกรมสรรพากรมีหนังสือร้องขอให้บริษัทฯ พิจารณาปรับอุณหภูมิภายในห้องในสูงขึ้นจาก 15 องศาเวลเซียส เป็น 25 องศาเซลเซียลในหลาย ๆ ชั้น และบริษัทฯ ได้ส่งมอบงานแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ในวันที่ 31 พ.ค. พ.ศ. 2562
4. ทั้งนี้ ระบบปรับอากาศดังกล่าวเป็นระบบปรับอากาศที่มีความละเอียดอ่อนทางเทคโนโลยีเนื่องจากเป็นระบบที่ถูกออกแบบเป็นพิเศษเพื่อแก้ปัญหาข้อจำกัดของอาคารกรมสรรพากรโดยเฉพาะ รวมถึงเป็นระบบปรับอากาศอัจฉริยะ (IoT) โดยบริษัทฯ สามารถพัฒนาระบบซอฟท์แวร์ให้ทำงานเชื่อมระบบปรับอากาศทั้งระบบ เพื่อแก้ปัญหาความร้อนในอาคารนี้ได้สำเร็จ ยืนยันโดยผู้บริหารผู้อำนวยการระดับภูมิภาค Asia-Pacific จากบริษัท เดลล์ฯ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอทีอันดับต้นๆของโลก เดินทางมาร่วมดูงานในอาคารกรมสรรพากรนี้ ดังนั้น ระบบปรับอากาศดังกล่าวจึงจำเป็นต้องใช้วิศวกรที่มีความรู้ความเข้าใจในระบบดังกล่าวเป็นผู้ดูแลบำรุงรักษา
5. เมื่อเกิดปัญหาระบบปรับอากาศ หลังจากที่บริษัทฯ ได้ส่งมอบงานราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบริษัทฯ ไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบในการบำรุงรักษาระบบปรับอากาศดังกล่าวส่วนสัญญาบำรุงรักษาในส่วนของระบบปรับอากาศ กรมสรรพากรได้ทำสัญญากับอีกบริษัทหนึ่ง ซึ่งดูแลระบบอาคารทั้งหมด ประกอบไปด้วย ระบบไฟฟ้า ประปา ลิฟท์ ดับเพลิง กำจัดน้ำเสีย ระบบบันไดเลื่อน ระบบระบายอากาศ ระบบทำความสะอาด แม่บ้าน,รปภ ฯลฯ และมีระบบปรับอากาศอยู่ในส่วนประกอบหนึ่งใน TOR ดังกล่าว
ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นภายหลัง ทางบริษัทฯ เข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่า มีการดัดแปลงอุปกรณ์สำคัญของระบบปรับอากาศที่ใช้ในการระบายความร้อน เช่น ปั๊มน้ำถูกตัดออก การบำรุงรักษาที่ผิดวิธี/ไม่ตรงตามคู่มือใช้งาน เช่น ปรับตำแหน่งวาล์วน้ำ ไม่ตรงกับลูกศรที่ระบุไว้ ทำให้ปั๊มน้ำทำงานหนัก น้ำท่วมคอยล์ร้อน และพื้นห้อง, ระบบลดความร้อนด้วยน้ำไม่ทำงานเนื่องจากปิดวาล์วน้ำทั้ง ๆ ที่มีป้ายบอกห้ามปิด, ไม่ปิดตู้คอนโทรลเครื่องระบายความร้อน ทั้ง ๆ อยู่ชิดกับช่องลมเข้า ซึ่งทำให้น้ำฝนเข้าโดยง่าย จนทำให้แผงวงจรเสียหาย, ไม่ปิดฝาตู้คอนโทรล Timer ทั้ง ๆ อยู่ชิดกับช่องลมเข้า ซึ่งทำให้น้ำฝนเข้าไปโดยง่าย จนทำให้เบรกเกอร์เสีย ปั้มไม่ทำงาน เกิดความร้อนสูง จนคอมเพรสเซอร์และแผงวงจรเสียหายได้ และถอดสายเซนเซอร์ที่แผนวงจร แทนที่จะซ่อมบำรุงให้ถูกต้องแต่กลับแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการตัดระบบควบคุมออก อีกทั้งยังขาดการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เช่น คอยล์ร้อน คอยล์เย็น อุดต้นจากการไม่บำรุงรักษา, การไม่บำรุงรักษา ทำให้ความร้อนเกิดขึ้น มากกว่าปกติ เห็นได้ชัดจากเบรกเกอร์ทริปหลาย ๆ ชิ้นที่ตรวจพบ และมีการพบตะกรับน้ำเกาะโซลินอยล์วาล์วรั่ว วอล์วปิดไม่สนิท ทำให้ปั้มทำงานตลอดเวลา
อย่างไรก็ดี ตามสัญญา 57/2561 ปรับปรุงระบบปรับอากาศ ความรับผิดชอบของ บริษัทฯ ตามสัญญาข้อ 6 คือ หากมีเหตุชำรุดบกพร่องหรือเสียหายเกิดขึ้นจากงานจ้างนี้ ภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถัดจากวันที่ได้รับมอบงานตังกล่าว ซึ่งความชำรุด บกพร่อง หรือเสียหายนั้นเกิดจากความบกพร่องของผู้รับจ้างอันเกิดจากการใช้วัสดุที่ไม่ถูกต้อง หรือทำไว้ไม่เรียบร้อย หรือทำไม่ถูกต้องตามมาตรฐานแห่งหลักวิชา ผู้รับจ้างจะต้องรีบทำการแก้ไขให้เป็นที่เรียบร้อยโดยไม่ชักช้า โดยผู้ว่าจ้างไม่ต้องออกเงินใด ๆ ในการนี้ทั้งสิ้น หากผู้รับจ้างบิดพลิ้วไม่กระทำการดังกล่าวภายในกำหนด 3 วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจากผู้ว่าจ้างหรือทำการแก้ไขให้ถูกต้องเรียบร้อยภายในเวลาที่ผู้ว่าจ้างกำหนดให้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะทำการจ้างผู้อื่นให้ทำงานนั้น โดยผู้รับจ้างต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย
ในอดีตที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงให้การช่วยเหลือซ่อมแซมระบบปรับอากาศให้อาคารดังกล่าวหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2565 บริษัทฯ ได้เสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมระบบปรับอากาศเกือบทั้งอาคารร่วม 10 ล้านบาท รวมถึงการติดตั้งระบบไฮบริดและปั๊มน้ำที่สูญหายหรือถูกดัดแปลงเป็นส่วนใหญ่การตัดต่อดัดแปลงอุปกรณ์ที่เป็นสาระสำคัญดังกล่าว แม้จะทำให้ความรับผิดชอบในการรับประกันอะไหล่อุปกรณ์ตามสัญญาสิ้นสุดลงก็ตาม แต่บริษัทฯ ยังคงให้การช่วยเหลือจนถึงครั้งสุดท้ายในเดือนมิถุนายน ปีที่ผ่านมา
6. สาเหตุสำคัญคาดว่าน่าจะเกิดจากความไม่รู้, ความไม่เชี่ยวชาญระบบปรับอากาศที่มีซับซ้อนดังกล่าว ส่งผลให้เกิดปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีกจนถึงปัจจุบัน เนื่องจาก TOR บริหารงานอาคารและดูแลบำรุงรักษาระบบต่างๆภายในอาคารกรมสรรพากร เป็นการรวมทุกระบบอยู่ในสัญญาเดียว ซึ่งยากที่บริษัทเพียงบริษัทเดียวจะสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกระบบของอาคารดังกล่าวได้ เพื่อการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ กรมสรรพากรควรจะแยกงานระบบต่างๆของอาคารออกจากกัน เพื่อให้กรมสรรพากรได้ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านมาช่วยดูแลงานบำรุงรักษาอาคาร จะสามารถบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และร้องขอให้กรมสรรพากรแก้ปัญหาดังกล่าวที่ต้นเหตุ แต่ทางบริษัทฯก็ยินดีให้การสนับสนุนและแนะนำเพื่อการแก้ปัญหาโดยเร็วต่อไป
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ยืนยันว่าทั้งหมดได้รับการตรวจสอบการทำงานเครื่องปรับอากาศทุก ๆ เครื่อง โดยวิศวกรผู้ควบคุมงาน และกรรมการตรวจรับมอบจากมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ บริษัท ซัยโจ เด็นกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ทำมากกว่าข้อตกลงในสัญญา ดังนี้
1. ประหยัดงบประมาณกว่า 130 ล้านบาท บริษัทฯ ยื่นประมูลงานปรับปรุงระบบปรับอากาศในอาคารดังกล่าวในราคา 191,844,975.85 บาท ต่ำกว่าราคากลางซึ่งกำหนดไว้ที่ 321,374,755 บาท ประหยัดงบประมาณให้แก่ราชการถึง 130,000,000 บาท
2. ประหยัดค่าเช่าอาคารสำหรับข้าราชการช่วงติดตั้ง บริษัทฯ ทำงานปรับปรุงระบบปรับอากาศทั้งหมดในเวลากลางคืน เพื่อไม่รบกวนการทำงานของราชการ โดยเริ่มงานเวลา 18.00น. และเลิกงานในเวลา 6.00น. ทุกวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 15 เดือน
3. เพิ่มอุปกรณ์โดยไม่คิดคำใช้จ่ายเมื่อติดตั้งสมบูรณ์ตาม TOR อุณหภูมิห้องระบายความร้อนเพิ่มสูงถึง 56 C บริษัทฯ ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้านบุรี พัฒนาระบบอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มเติมมากกว่า TOR โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เป็นเงินรวมกว่า 20,000,000 บาท
4. เข้าไปช่วยเหลือซ่อมแชมหลายครั้งเมื่อเกิดปัญหา แม้อยู่ในส่วนที่เกี่ยวกับการบำรุงรักษา ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ความรับผิดชอบของบริษัทฯ แต่ บริษัทฯ เข้าไปซ่อมให้ในหลายๆครั้ง โดยไม่คิดเงิน โดยครั้งล่าสุด เดือนมิถุนายน-เดือนสิงหาคม พ.ศ.2565 รวมเป็นเงินหลาย 10 ล้านบาท
5. ระบบอาคารอัจฉริยะ ร่วมดูงานโดย DELL ระบบ VRF ซึ่งที่ถือเป็นเครื่องปรับอากาศที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน โดยบริษัทฯ พัฒนาระบบ Computer Software ให้ทำงานเชื่อมระบบปรับอากาศทั้งระบบ เพื่อแก้ปัญหาความร้อน อาคารนี้ได้สำเร็จ และได้รับคำชื่นชมจาก DELL โดยส่ง Mr.Erwin Meyer ผู้อำนวยก ภูมิภาค Asia-Pacific มาร่วมดูงานในตึกนี้เป็นพิเศษ
ส่วนความคืบหน้าจะเป็นอย่างไร ทางสรรพากรจะชี้แจงอะไรบ้าง ต้องติดตามกันต่อไป
อ่านประกอบ: