"...กระต่ายมีปฏิกิริยาเริงร่า เมื่อได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในฝูง เหมือนกับเรื่องราวความทรงจำดี ๆ ที่เราได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและคนใกล้ชิด และทำให้อดยิ้มไม่ได้ทุกครั้งไป ในขณะที่กระต่ายถือเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด และใส่ใจต่อสุขภาพ มีการตกแต่งและทำความสะอาดตัวเองตลอดเวลา..."
Weekly Mail ฉบับแรกของปี 2566 ปีเถาะ ขอเขียนถึง 'กระต่าย' ในฐานะนักษัตรสำหรับปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์ที่อ่อนโยนน่าทะนุถนอมมากที่สุดในบรรดา 12 นักษัตร และมีความเป็นมงคล เพราะกระต่ายในตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น สื่อถึงการรอดพ้นจากโชคร้ายและภัยพิบัติต่าง ๆ ในขณะที่หูที่ยาวเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี และการเก็บรวมสิ่งดีมาสู่ชีวิต ในขณะที่ความคล่องแคล่วและขาที่แข็งแรง สื่อถึงการมีพละกำลัง มีความสามารถที่จะฝ่าฟันอุปสรรคความยากลำบากไปสู่ความสำเร็จได้1 นอกจากนั้นยังเป็นสัญลักษณ์ของความเมตตากรุณา อ่อนหวานและเป็นที่รักของผู้อื่น กระต่ายจึงถือเป็นสัตว์มงคลที่ผู้คนหลงรัก แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเทใจให้เจ้ากระต่ายน้อย เรามาทำความรู้จักสัตว์ตัวนี้ให้ถ่องแท้กันก่อนครับ
กระต่ายเป็นสัตว์ที่สืบพันธุ์เร็วมาก สามารถเริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุเพียง 3 เดือน และใช้เวลาตั้งครรภ์ 30 วัน แต่เป็นสัตว์ที่อายุขัยสั้น หากอยู่ตามธรรมชาติจะอยู่โดยเฉลี่ยไม่เกิน 3 ปี แต่กระต่ายเลี้ยงกลับมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 7-12 ปี เพราะได้รับการทนุถนอมมากกว่า และด้วยกระต่ายกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์ จึงถูกนำมาพัฒนา สายพันธุ์มากกว่า 45 สาย นอกจากนั้น กระต่ายถือเป็นสัตว์สังคมที่ชอบรวมตัวกันหลาย ๆ ตัว ดังนั้น การนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงเพียงลำพังจึงเป็นเรื่องที่ฝืนธรรมชาติ
ความพิเศษของกระต่ายคือ โสตในการได้ยินและการมองเห็น เพราะสามารถบิดหูตัวเองให้ได้ยิน 180 องศา ในขณะที่สายตาสามารถมองได้รอบตัว 360 องศา ซึ่งมองเห็นได้เพียง 2 สีเท่านั้นคือ สีเขียวและสีน้ำเงิน แต่กลับมองชัดเจนเมื่ออยู่ในที่มืด ในขณะที่มีความสามารถในการใช้ขาหลังที่แข็งแรงกระโดดได้สูง 1 เมตร และพุ่งไปไกลกว่า 3 เมตร2 กระต่าย
มีนิสัยร่าเริง ถ้าช่วงใดมีความสุข จะออกอาการคึกคะนองให้เห็น เช่น กระโดดโลดเต้น พร้อมบิดตัวแบบดุ๊กดิ๊ก อย่างไรก็ดีกระต่ายเป็นสัตว์ที่เครียดง่ายมาก มีความขี้ระแวง แต่ฉลาดและมักเอาตัวรอดได้ดี จะป้องกันตัวเองก่อนเสมอ ด้วยการใช้เท้าหลังเคาะพื้นให้เกิดเสียงและเตือนภัยศัตรู และชอบขดตัวหรือนอนซุกตัวอยู่ในที่ปลอดภัยหรือในสถานที่ที่เป็นจุดหลบซ่อนที่ดี
พฤติกรรมที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวกระต่ายน้อย ทำให้เราสามารถเรียนรู้และนำมาประยุกต์กับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน โดยเฉพาะการเข้าสังคม มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี และรู้จักวางตัว อารมณ์เย็น โอบอ้อมอารี ซึ่งเป็นเสน่ห์ของการอยู่ในสังคมเดียวกัน
กระต่ายมีปฏิกิริยาเริงร่า เมื่อได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในฝูง เหมือนกับเรื่องราวความทรงจำดี ๆ ที่เราได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและคนใกล้ชิด และทำให้อดยิ้มไม่ได้ทุกครั้งไป ในขณะที่กระต่ายถือเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด และใส่ใจต่อสุขภาพ มีการตกแต่งและทำความสะอาดตัวเองตลอดเวลา ด้วยการยกเท้าขึ้นมาเลีย และลูบหน้า ทำให้ขนตัวเองนุ่มขาวสะอาดตลอดเวลา ดูแลฟันตัวเองด้วยการแทะสิ่งรอบข้าง เพื่อให้ฟันที่ขบกันมีการสึก และฟันไม่งอกยาวจนเกินไปขบเคี้ยวของ ในขณะที่การเลือกทานผักหญ้า และพืชต้นเตี้ย (ไม่ได้ชอบทานแครอทเหมือนกับคนเลี้ยงคิด เพราะมีปริมาณน้ำตาลสูง) และเลือกรับประทานมูลตัวเองในช่วงเช้าเพราะมูลดังกล่าวมีแบคทีเรียชนิดดี มีวิตามินบี ช่วยให้ภาวะในลำไส้เป็นปกติ สะท้อนกลับมาที่ตัวเราที่ควรจะใส่ใจดูแลสุขภาพให้ไม่น้อยหน้าจากกระต่ายน้อย
กระต่ายเลี้ยงที่ถูกเลี้ยงอยู่ในกรง หากได้มีโอกาสออกมานอกกรง จะดูมีความสุข และวิ่งพล่านไปทั่วบ้าน เพื่อสำรวจสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ทำให้เราต้องย้อนกลับไปคิดถึงครั้งสุดท้ายที่เราออกจาก comfort zone ไปยังสิ่งแวดล้อมที่แปลกใหม่เพราะนั่นคือโอกาสที่ทำให้เราได้ออกจากวัฏจักรและวังวนเดิม ได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ที่ท้าทายขึ้น
กระต่ายจะมีเวลาให้ตนเองได้พักผ่อนและนอนหลับอย่างเต็มอิ่ม จึงไม่แปลกที่มันจะหลบไปตามโพรงต้นไม้หรือที่เงียบ ๆ เพื่อหาเวลางีบแบบไม่มีเสียงรบกวน มนุษย์ก็เช่นกัน การทำงานที่หนักหน่วง จำเป็นต้องหาช่วงเวลาในการพักผ่อน เพื่อร่างกายจะได้กลับมาสดชื่นพร้อมกับการทำงานในวันต่อไป
ด้วยอายุขัยที่สั้นเหลือเกิน กระต่ายจึงแสดงออกถึงความสุขอย่างไม่อายใคร และมอบความรักและความอบอุ่นกับคนใกล้ชิดในทุกโอกาส ดังนั้น เราจึงควรที่จะใช้ชีวิตให้มีความสุข อยู่กับปัจจุบัน หากไม่กล้าที่จะแสดงออกแบบกระต่ายก็สามารถเต้นแบบลิงโลดแบบไม่มีคนอื่นเห็น แต่ที่สำคัญให้ความรัก และไม่อายที่จะบอกให้คนใกล้ชิดได้รับรู้3
ผมหวังว่าปีเถาะ 2566 จะเป็นปีที่พวกเราได้เป็นกระต่ายน้อยที่เริงร่า พบเจอแต่สิ่งดี ๆ รักษาสุขภาพให้แข็งแรงทำงานด้วยความราบรื่น ปราศจากอุปสรรคใด ๆ และที่สำคัญให้ความรัก และเป็นที่รักของทุก ๆ คน ครับ
รณดล นุ่มนนท์
เขียนเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566
แหล่งที่มา:
1/ https://prakumkrong.com/37459/
2/ http://rtbcenter.com/new/th/2017/04/04/14-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2-2/
3/ https://oxbowanimalhealth.com/blog/ten-life-lessons-you-can-learn-from-your-rabbit/