"...กล้ามาก..การที่ผู้ว่าฯ กทม. ออกประกาศแบบเข้มข้น ห้ามข้าราชการรับเลี้ยงรับกินฟรี ห้ามรับของขวัญของกำนัลจากพ่อค้าและชาวบ้าน เพราะไม่มีทางเป็นจริงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่นี่คือก้าวสำคัญที่พิสูจน์ถึงบทบาทของ 'ผู้นำ..กับการปราบโกง' ที่ทุกองค์กรทำได้และต้องทำ หากยังต้องการพูดกับประชาชนได้เต็มปากว่า ตนเกลียดคอร์รัปชัน..."
ได้เวลากำจัดพวกชอบกินฟรี
กล้ามาก..การที่ผู้ว่าฯ กทม. ออกประกาศแบบเข้มข้น ห้ามข้าราชการรับเลี้ยงรับกินฟรี ห้ามรับของขวัญของกำนัลจากพ่อค้าและชาวบ้าน เพราะไม่มีทางเป็นจริงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่นี่คือก้าวสำคัญที่พิสูจน์ถึงบทบาทของ 'ผู้นำ..กับการปราบโกง' ที่ทุกองค์กรทำได้และต้องทำ หากยังต้องการพูดกับประชาชนได้เต็มปากว่า ตนเกลียดคอร์รัปชัน
เหตุที่บอกว่าเข้มข้น เพราะมีหลายข้อจริงจังและตรงจุดกว่าที่ทำกันทั่วไปตามกระทรวง รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ จนต่างก็ล้มเหลวในการป้องกันคอร์รัปชัน กล่าวคือ
1. นอกจากกำหนดว่า ข้าราชการต้องไม่แสวงหาผลประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่ ต้องไม่ให้ ไม่รับของขวัญของกำนัล ยังเจาะจงอีกว่า 'ห้ามรับเลี้ยงรับกินฟรีจากพ่อค้าประชาชน' เพราะที่ผ่านมามีการเลี้ยงดูปูเสื่อกันตามภัตตาคาร ผับ บาร์ สนามกอล์ฟ ซาวน่าและอาบอบนวด
2. กำหนดให้ 'ผู้บังคับบัญชา' ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีและรับผิดชอบมิให้เกิดคอร์รัปชันในหน่วยงานของตน เป็นวิธีที่ถูกต้องในการป้องกันคอร์รัปชันที่ต้นตอ คือ 'ปัญหาเกิดที่ไหนก็แก้ที่นั่น' และเรื่องนี้เป็นไปตามมติ ครม. เมื่อเดือน มีนาคม 2561 แต่หลังจากนั้นก็เงียบหายไป
3. ประกาศนี้ไม่มีการชี้ช่องข้อยกเว้น เช่น การให้หรือรับของในช่วงเทศกาล หรือรับได้หากมูลค่าไม่เกิน 3 พันบาทตามเงื่อนไข ป.ป.ช.
4. เผยแพร่เป็นภาษาไทยและอังกฤษพร้อมกัน โดยหวังว่านอกจากข้าราชการและคน กทม. รับรู้แล้ว สื่อมวลชนต่างชาติและชาวต่างชาติทั้งนักธุรกิจ ผู้อยู่อาศัย นักท่องเที่ยว ยังได้รับรู้ไปพร้อมกัน ทุกคนจึงรู้สิทธิ์และปกป้องตนเองจากพฤติกรรมชั่วของคนคดโกงได้ (น่าแปลกใจว่า การสื่อสารสองภาษาเช่นนี้ ทำไมหน่วยงานอื่นๆ ไม่ค่อยทำกัน แม้เรื่องสำคัญก็รอให้กระทรวงการต่างประเทศช่วยสื่อสารให้)
การควบคุมให้ข้าราชการและนักการเมืองทำหน้าที่โดยไม่เห็นแก่ได้ ไม่เบียดเบียนคนอื่นเช่นนี้ คือนโยบาย No Gift Policy ที่นานาชาติยอมรับและภาคเอกชนชั้นนำของไทยปฏิบัติอยู่ มีกำหนดในแผนปฏิรูปประเทศด้านการต่อต้านคอร์รัปชัน แต่ไม่เคยมีผู้นำของหน่วยงานใดใส่ใจจริงจังมาก่อน
แน่นอนว่า เมื่อทุกคนปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมาย่อมเกิดประโยชน์กับบ้านเมือง ประชาชนสบายใจ ไม่มีภาระเรื่องส่วยสินบน สังคมเป็นธรรม ส่งผลดีต่อภาพพจน์และทัศนคติต่อประเทศไทย ช่วยยกระดับคะแนนดัชนีคอร์รัปชัน (CPI) และการประเมินความพึงพอใจอื่นๆ ให้ดีขึ้น
'ผู้นำ' ที่มีวิสัยทัศน์ กล้า ชัดเจนและรู้จักใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ไม่ยึดติดอยู่ในกรอบกฎระเบียบราชการและธรรมเนียมปฏิบัติที่ชักช้าล้าสมัย จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการต่อต้านคอร์รัปชัน
สุดท้าย มาตรการนี้จะสำเร็จมากน้อย จึงขึ้นอยู่กับว่า พ่อค้าประชาชนจะทำอย่างไรเมื่อพบเห็นข้าราชการและนักการเมืองทำผิด จะตามน้ำหรือต่อต้านร้องเรียนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง..ต้องเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วครับ
ดร.มานะ นิมิตรมงคล
เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)
เอกสารประกอบ :
- ประกาศ No gift Policy กทม. (https://circular.bangkok.go.th/doc/20220810/7040.pdf)
- 5 มาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาคอร์รัปชันของ กทม. ตามที่ ACT เสนอต่อผู้ว่าชัชชาติ (https://www.isranews.org/article/isranews-article/110716-mana-html)