"...ทั้งสองได้ฝากข้อคิดในการดำเนินชีวิตไว้ว่า การทำธุรกิจหรือลงทุนย่อมมีความผิดพลาดเหมือนกับบ้านตนเองที่มีต้นไม้ติดบ้าน เมื่อได้รับแสงแดดเต็ม ๆ ทำให้โตเร็วกว่าต้นไม้ริมรั้วที่ไม่โต ลำต้นเล็ก แต่ไม่ยอมตาย วันหนึ่งมีงูเข้ามาที่บ้าน กังวลว่าจะเป็นอันตรายกับลูก จึงตัดสินใจตัดต้นไม้ใหญ่ออก เหลือเพียงต้นไม้ริมรั้ว ซึ่งในที่สุดต้นนั้นกลับเติบโตสูงใหญ่รอดอยู่เพียงต้นเดียว ทำให้ได้ข้อคิดว่า ความสำเร็จต้องรอเวลาที่เหมาะสม ถ้าคุณเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ สักวันหนึ่งก็ต้องเติบโต ผู้ที่อยู่รอดคือผู้ไม่ยอมแพ้ ค้นคิดหาทางรอด พร้อมปรับตัวตลอดเวลา ถือได้ว่าเป็นผู้ชนะที่แท้จริง..."
ด้วยสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายลง ทำให้พวกเราสามารถกลับเข้ามาทำงานที่ office ได้มากขึ้น ได้พบกับเพื่อนร่วมงานที่ไม่ได้พบปะกันนาน รวมถึงน้องใหม่ตัวจริงเสียงจริงหลังจากได้เพียงเห็นหน้าตาผ่านการประชุมออนไลน์ พร้อมบรรยากาศภายในสโมสรแบงก์ชาติที่เริ่มครึกครื้น ร้านอาหารประจำและร้านค้าหมุนเวียนเริ่มกลับมาให้บริการ และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ร้านไอศกรีม ‘Gumpun’ ที่หลายคนจดจำได้ดีจากรสชาติช็อกโกแลตและนมสดฮอกไกโดที่เนียนนุ่ม และสีธรรมชาติสดใสของเนื้อไอศกรีม ได้กลับมา
ให้พวกเราได้ลิ้มลองอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ผมยังจำวันแรกที่ร้านไอศกรีม Gumpun เข้ามาขายเมื่อต้นปี 2562 ได้ดี เพราะในเช้าวันนั้น เจ้าของร้านยกกล่องโฟมขนาดใหญ่บรรจุไอศกรีมมาตั้งวางขายบริเวณใต้บันได จนเป็นที่สังเกตของผู้เข้ามาภายในสโมสร แต่เมื่อพนักงานเข้าไปซื้อปรากฏว่าไอศกรีมกลับยังแข็งอยู่ เจ้าของร้านใช้ความพยายามตักเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ แต่แทนที่จะทำให้ลูกค้าเดินกลับไปด้วยความผิดหวัง เจ้าของร้านกลับใช้ช่วงเวลานั้นอธิบายถึงคุณสมบัติของไอศกรีมของตน ทำให้หลายคนอยากกลับมาทดลองชิมในช่วงเที่ยง ทำให้ขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็ว เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ค่อยพบเห็นมากนักจากร้านค้าหมุนเวียนที่มาขายในวันแรก
ผมได้มีโอกาสรับประทานไอศกรีม Gumpun ในสัปดาห์ต่อมา สังเกตว่ามีพนักงานเข้าแถวรอซื้อเป็นจำนวนมาก หลายคนยอมเข้าแถวซื้อก่อนทานอาหารคาว เพราะกลัวหมด เรียกว่ามีแฟนคลับภายในระยะเวลาอันสั้น จากทั้งคุณภาพไอศกรีมที่เอร็ดอร่อยและเจ้าของที่มีอัธยาศัยดี ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้ทานกันอีกเมื่อหมุนเวียนมาขายในทุกสองสัปดาห์ แต่น่าเสียดายในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิดในช่วงต้นปี 2563 ทำให้ต้องหยุดให้บริการไปโดยปริยาย
การกลับมาขายอีกครั้งตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าของร้าน คุณธันย์ชนก ชูกุล (คุณนก) และคุณสรรค์ เวสสุนทรเทพ (คุณโจ้) สองสามีภรรยา พบว่ามีเรื่องราวที่น่าสนใจถึงวิธีคิด และความมุ่งมั่น ที่ทำให้ทั้งสองมาถึงจุดนี้
คุณโจ้และคุณนกพบกันเมื่อเรียนด้วยกันที่มหาวิทยาลัยศิลปากร คุณโจ้เรียนจบปริญญาโทด้านสถาปัตยกรรม ในขณะที่คุณนกเรียนจบด้านออกแบบผลิตภัณฑ์ คณะมัณฑนศิลป์ หลังจากเรียนจบ ทั้งสองได้เข้าทำงานในบริษัทเอกชน แต่คิดกันอยู่เสมอว่าสักวันหนึ่งอยากออกมาทำธุรกิจส่วนตัว แม้ว่าคุณโจ้จะลาออกมารับงานอิสระออกแบบและเป็นอาจารย์พิเศษ แต่ทั้งสองยังไม่สามารถจะก้าวออกจาก comfort zone ได้ แต่จุดเปลี่ยนคือเมื่อทั้งสองมีลูกชาย ทำให้คุณนกตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และหันมาลองทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับลูกเป็นหลัก เริ่มต้นด้วยการขายเสื้อผ้าสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่เมื่อทำไปสักพักหนึ่งก็พบว่า ‘ไม่ใช่ทางเรา’ เปลี่ยนมาทำอาหารที่ยึดลูกเป็นตัวตั้งว่าลูกจะต้องชอบทาน แต่ก็ยังไม่สามารถค้นหาคำตอบได้ จนมาวันหนึ่งได้ลองทำนามะช็อกโกแลต คาดหวังว่าจะนุ่มเข้มข้นละลายในปาก ปรากฏว่าเก็บไว้ตอนเย็นกลับมารสชาติกลับเหมือนไอศกรีม จนได้ความคิดว่า ต้องทำไอศกรีมที่ตอบโจทย์สุขภาพลูก เป็นไอศกรีมสดไม่ใส่สารกันบูด และใช้เวลากว่า 1 ปี ในการลองผิดลองถูก เพื่อให้ไอศกรีมถูกปากผู้บริโภคก่อนเริ่มนำมาขายในช่องทางออนไลน์โดยใช้ชื่อไอศกรีมว่า ‘Gumpun’ ตามชื่อเล่นของลูกชาย แสดงถึงความพยายามของชาวจีนโพ้นทะเลที่ลงเรือกำปั่นออกมาสู้ชีวิต
จุดพลิกผันเกิดขึ้นเมื่อได้รับทราบจากเพื่อนบ้านว่า สโมสรแบงก์ชาติเปิดให้ร้านค้าหมุนเวียนเข้ามาขายได้ จึงตัดสินใจเดินทางมาสมัคร แต่เมื่อมาแบงก์ชาติครั้งแรกกลับต้องเดินทางกลับไป เพราะเห็นประตูรั้วที่ปิดป้องกันอย่างแน่นหนาจนไม่กล้าเข้ามา แต่พอวันรุ่งขึ้น ตั้งตัวได้จึงประสานกับผู้ดูแลสโมสรจนได้รับอนุญาตให้เข้ามาขายได้ตามวันและเวลาที่กำหนด
คุณโจ้กับคุณนกยอมรับว่าตื่นเต้นมาก เพราะเป็นการนำไอศกรีมออกมาขายนอกสถานที่เป็นครั้งแรก ไปศึกษาถึงวิธีการที่จะนำไอศกรีมมาขายโดยไม่ให้ละลายเสียก่อน เดินไปตามท้องถนนเพื่อดูแบบอย่างจากรถเข็นขายไอติมว่าทำอย่างไรถึงเก็บความเย็นได้ จนค้นพบว่าใช้น้ำแข็งแห้งประกบล้อมไอศกรีมไว้ จึงเกิดความคิดในการนำน้ำแข็งแห้งใส่โฟมสีดำขนไอศกรีม แต่ด้วยความกลัวว่าไอศกรีมจะละลายจึงใส่น้ำแข็งแห้งในปริมาณมากเกินไป ทำให้ในช่วงเช้าไม่สามารถตักไอศกรีมขายได้ โดยไม่คาดคิดว่าจะมีพนักงานมารอซื้อตั้งแต่เช้า ในขณะที่ตอนขนมารู้สึกมึนงง ซึ่งตอนหลังรับทราบว่าน้ำแข็งแห้งระเหิดกลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
อย่างไรก็ตาม คุณโจ้และคุณนกไม่คาดคิดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด ในขณะที่ได้พบเห็นบรรยากาศการทำงานของพนักงานแบงก์ชาติ ที่ดูมีความภูมิใจกับงานที่รับผิดชอบ ทำให้ทั้งสองคิดว่าต้องพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพราะหากคุณภาพไม่ดี คนแบงก์ชาติคงจะไม่ซื้อ ทั้งสองได้ปรุงแต่งรสชาติไอศกรีมจากที่เริ่มต้นจากรสช็อกโกแลตและนมฮอกไกโด จนปัจจุบันเพิ่มมาเกือบ 10 รสชาติ และได้นำมาขายทุกสองสัปดาห์ จนเมื่อเกิดสถานการณ์โควิดจึงต้องหยุดให้บริการลง แต่ยังโชคดีมีช่องทางการขายออนไลน์ที่ทำไว้ก่อนหน้านั้นพร้อมกับหาทางล้างสต๊อกไอศกรีมที่เหลืออยู่ด้วยการจัดโปรโมชั่น นำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายบริจาคให้กับโรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยโควิด ในขณะที่คุณนกเปิดขายผลิตภัณฑ์ packaging ออนไลน์ ด้วยการนำความรู้จากประสบการณ์ในการทำ packaging จากการขายไอศกรีม มาประยุกต์ใช้นั่นเอง
เรื่องราวของคุณโจ้และคุณนกอาจจะไม่แตกต่างจากนักธุรกิจหน้าใหม่ทั่วไป แต่ความแตกต่างที่ผมสัมผัสได้คือ ความมุ่งมั่น เพื่อค้นหาคำตอบให้กับตนเอง ทั้งสองกล่าวว่า การทำธุรกิจต้องคิดแบบไม่หยุดนิ่ง เพื่อปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ พร้อมต่อยอดไปเรื่อย ๆ ทั้งที่ทั้งสองไม่เคยทำอาหารหรือทำขนมกันมาก่อน เช่น ค้นคิดทำเบเกอรี่ และครอฟเฟิล เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับไอศกรีม ถือเป็นความสนุก รู้สึกว่าชีวิตตัวเองมีค่า เพราะได้ทำสิ่งที่อยากทำจริง ๆ ในขณะเดียวกัน ต้องพยายามก้าวข้ามอุปสรรคต่าง ๆ ให้ได้ เช่น ในช่วงที่ยอดขายลดลง แต่ก่อนอาจเน้นแก้ไขด้วยการพัฒนาตัวสินค้า แต่ช่วงหลังหันมาโฟกัสที่ ‘คำตอบ’ โดยเฉพาะในช่วงโควิด แก้ไขด้วยการต่อยอดธุรกิจจากการขาย packaging ออนไลน์ นอกจากนั้น การทำธุรกิจส่วนตัวทำให้ทั้งสองคนให้ความสำคัญกับวินัยทางการเงิน การต้องมีเงินทุนสำรอง พร้อมกับเงินออมเพื่อใช้ในวัยเกษียณ
ทั้งสองได้ฝากข้อคิดในการดำเนินชีวิตไว้ว่า การทำธุรกิจหรือลงทุนย่อมมีความผิดพลาดเหมือนกับบ้านตนเองที่มีต้นไม้ติดบ้าน เมื่อได้รับแสงแดดเต็ม ๆ ทำให้โตเร็วกว่าต้นไม้ริมรั้วที่ไม่โต ลำต้นเล็ก แต่ไม่ยอมตาย วันหนึ่งมีงูเข้ามาที่บ้าน กังวลว่าจะเป็นอันตรายกับลูก จึงตัดสินใจตัดต้นไม้ใหญ่ออก เหลือเพียงต้นไม้ริมรั้ว ซึ่งในที่สุดต้นนั้นกลับเติบโตสูงใหญ่รอดอยู่เพียงต้นเดียว ทำให้ได้ข้อคิดว่า ความสำเร็จต้องรอเวลาที่เหมาะสม ถ้าคุณเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ สักวันหนึ่งก็ต้องเติบโต ผู้ที่อยู่รอดคือผู้ไม่ยอมแพ้ ค้นคิดหาทางรอด พร้อมปรับตัวตลอดเวลา ถือได้ว่าเป็นผู้ชนะที่แท้จริง