"...สิ่งที่ต่างกันระหว่าง ไข้เลือดออก และ Covid19 คือ ช่องทางที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่ง เป็นเหตุให้ร่างกายตอบสนองต่างกัน และมีอาการต่างกัน ... ไข้เลือดออกเข้าจากถูกยุงกัน เข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง คนเป็นไข้เลือดออก จึงมีไข้สูงมาก เพราะ เชื้อเข้าถึงในร่างกายได้ตรงๆ และ เพิ่มจำนวนขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และ อาการครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดเมื่อยมากกว่า เพราะ ไปตามกระแสเลือด ... ส่วน Covid19 เข้าสู่ร่างกายผ่านทางเดินหายใจ ดังนั้น ส่วนใหญ๋จึงมีอาการของระบบทางเดินหายใจ เช่นคัดจมูก น้ำมูกไหล ไม่ได้กลิ่น เจ็บคอ ไอ มีเสมหะ และ กรณีเป็นมาก ก็ถึงกับปอดอักเสบ และ ค่าออกซิเจนลดลง..."
มีคนออกมาเตือนว่า ถ้ามีไข้ แต่ ATK เป็นลบ ให้ระวังไข้เลือดออก .... มาดูกันว่า 2 โรคนี้เหมือนหรือต่างกันอย่างไรครับ
สิ่งที่เหมือนกันคือ ทั้ง 2 โรคเกิดจากไวรัส ซึ่ง โรคที่เกิดจากไวรัส จะมีอาการเร็ว และ อาการส่วนใหญ่เป็นอาการที่เกิดจากปฏิกริยาของร่างกายเรา ... อาการร่วมของโรคจากเชื้อไวรัส แบบนี้ คือมีไข้ ... การมีไข้ เป็นวิธีการอย่างหนึ่งของร่างกาย ในการควบคุมกำจัดเชื้อโรค(โดยเฉพาะเชื้อไวรัส) เพราะ ในภาวะไข้สูง เชื้อโรคจะเติบโตได้ไม่ดี มีเวลาให้ร่างกายกำจัดเชื้อโรคได้ ... (แต่ไม่ควรปล่อยให้ไข้สูงมากหรือสูงนานครับ เพราะ ร่างกายเราก็ทนพิษไข้ไม่ได้เช่นกัน บางคนอาจมีอาการมากจนเกิดการชักจากภาวะไข้สูง ได้)
สิ่งที่ต่างกันระหว่าง ไข้เลือดออก และ Covid19 คือ ช่องทางที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่ง เป็นเหตุให้ร่างกายตอบสนองต่างกัน และมีอาการต่างกัน ... ไข้เลือดออกเข้าจากถูกยุงกัน เข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง คนเป็นไข้เลือดออก จึงมีไข้สูงมาก เพราะ เชื้อเข้าถึงในร่างกายได้ตรงๆ และ เพิ่มจำนวนขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และ อาการครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดเมื่อยมากกว่า เพราะ ไปตามกระแสเลือด ... ส่วน Covid19 เข้าสู่ร่างกายผ่านทางเดินหายใจ ดังนั้น ส่วนใหญ๋จึงมีอาการของระบบทางเดินหายใจ เช่นคัดจมูก น้ำมูกไหล ไม่ได้กลิ่น เจ็บคอ ไอ มีเสมหะ และ กรณีเป็นมาก ก็ถึงกับปอดอักเสบ และ ค่าออกซิเจนลดลง
เมื่อโรคเป็นรุนแรง ไข้เลือดออก จะมีอาการรุนแรงหลังวันที่ 3 เนื่องจากเชื้อเข้าสู่ร่างกายทางกระแสเลือด หลังวันที่ 3 ไข้ลด แต่ เส้นเลือดเสียหาย เกิดภาวะที่สารน้ำในเส้นเลือด รั่วออกไปยังอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย ที่ถูกเรียกว่าไข้เลือดออก เพราะ เมื่อผนังเส้นเลือดรั่ว หากมีเม็ดเลือดซึมออกไปก็จะพบเป็นจุดที่ใต้ผิวหนัง เรียกไข้เลือดออก และเมื่อมีน้ำในเส้นเลือดน้อย ความดันโลหิตจะตก เกิดอาการหน้ามืด คลื่นไส้ ปวดท้อง และถ้าเป็นมาก เกิดภาวะช๊อค ดังนั้น ลักษณะเด่นที่จำง่ายๆ ของไข้เลือดออก คือ ไข้สูง 3 วัน พอไข้ลง ก็เกิดช็อค ความดันตก ... ส่วน Covid19 ที่มีอาการรุนแรง ก็หลัง 3 -5 วัน คือเมื่อเชื้อเข้าถึงปอดได้แล้ว ปอดก็อักเสบ ผนังเยื่อหุ้มปอดทำงานได้ไม่ดี น้ำในเส้นเลือด ออกมาอยู่ในถุงลมของปอด เกิดภาวะปอดบวม พอปอดบวม การแลกเปลี่ยน ออกซิเจนทำไม่ได้ เกิดภาวะค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ ลักษณะเด่นของ Covid19 ที่จำง่ายๆ คือ มีอาการทางเดินหายใจ ถ้าลงปอด จะหอบเหนื่อย ค่าออกซิจนต่ำ
ทั้ง 2 โรค ถ้าผ่านช่วง peak ของ โรค หลัง 3-5 วันไปได้ โรคจะค่อยๆดีขึ้น ร่างกายจะกำจัดเชื้อได้ และ เริ่มซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย ดังนั้น แนวทางการรักษา คือ ต้องรู้ว่าเป็นโรคอะไร และ เฝ้าระวังช่วงที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ วันที่ 3-5 ถ้าดีขึ้น ก็รอด ถ้าแย่ลง ก็รีบให้การรักษา ช่วยเหลือ ประคองให้ร่างกายรอดช่วงวิกฤต และฟื้นคืนครับ
ฝากเป็นความรู้นะครับ