"...เมื่อพ้นคลื่นลูกนี้ไปแล้ว ไม่ว่าคุณจะมีภูมิคุ้มกันธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากที่เคยติดเชื้อมาก่อน หรือจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ก็ตาม ความเสี่ยงของทุกคนจะลดลงทันทีเหมือนๆกัน เพราะคนส่วนใหญ่รอบตัวเราที่มีภูมิคุ้มกันในตัว จะเป็นเสมือนเกราะคุ้มกันให้เราด้วย..."
บทความนี้ ตัดตอนและเรียบเรียงมาจากจดหมายข่าวฉบับวันที่ 17 มกราคม 2022 ของ Tomas Pueyo (ผู้มีชื่อเสียงด้านการวิเคราะห์สถานการณ์โควิด-19 และเจ้าของวลี 'The Hammer and Dance') ซึ่งสรุปชัดเจนว่า 'การระบาดของเชื้อโควิด-19 จบเกมลงแล้ว'
ผมเชื่อว่า ข่าวสารนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านอย่างเราๆ และต่อรัฐบาลในการพิจารณาปรับแผนตามสถานการณ์ที่คลี่คลายต่อไป
(1) สรุปสถานการณ์ปัจจุบัน (17 มค 2565)
ท่ามกลางความชุลมุนของข่าวการเกิดสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่เร็วแต่ลดความรุนแรง คือ Omicron ซึ่งมาแทนที่สายพันธุ์เดลตาอย่างรวดเร็ว ข่าวความสำเร็จของการผสมสูตรไขว้การฉีดวัคซีนต่างๆ จนถึงความเข้าใจความสำคัญของการใส่แมสก์ และการรักษาระยะห่างของประชาชนทุกระดับ ทั้งหมดนี้ Tomas Pueyo วิเคราะห์ว่า ทำให้ความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดลดลงได้ถึง 1000 เท่า
ปัจจุบัน เชื่อกันในหมู่ผู้เชี่ยวชาญว่า คลื่น Omicron จะเป็นคลื่นสุดท้ายของการระบาดของเชื้อโควิด 19 ทั้งวงจร โดยมีแนวโน้มว่า การระบาดน่าจะยุติอย่างเป็นทางการ ภายในเวลาประมาณหนึ่งเดือนสำหรับประเทศที่อยู่แนวหน้าของคลื่น และอาจใช้เวลาอีก 1-2 เดือน สำหรับประเทศที่อยู่ท้ายคลื่น อย่างเช่นกรณีประเทศไทย ที่เส้นกราฟผู้ติดเชื้อรายวันยังไม่ได้หันหัวลง เหมือนประเทศที่ได้รับมือกับคลื่น Omicron ก่อนประเทศอื่น เช่น ประเทศอัฟริกาใต้ ประเทศสหราชอาณาจักร เป็นต้น (ภาพที่ 2)
อุปสรรคของการกลับไปใช้ชีวิตตามปกติของประชากรในบางประเทศ อาจมาจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของรัฐบาล กล่าวคือ เมื่อมีแนวโน้มการเข้าสู่การสิ้นสุดของสถานการณ์ COVID 19 แล้ว รัฐบาลเหล่านี้ควรมีกรอบเวลาอย่างชัดเจนว่า เมื่อไหร่จะยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติ และเพื่อให้โอกาสระบบเศรษฐกิจกลับฟื้นคืนมา ในขณะเดียวกัน รัฐบาลต้องไม่ประมาทในการจัดการระบบสาธารณสุขให้มีความพร้อม สำหรับผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งที่ยังจะเกิดแม้จะจบเกมแล้วก็ตาม ผู้ป่วยเหล่านี้อาจมีอาการในระดับที่ต้องได้รับการรักษาอย่างทันเวลา
(2) สำหรับประชาชนกลุ่มหนึ่งที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีน หรือ ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน โดยสถิติแล้ว โอกาสที่บุคคลที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน เมื่อติดเชื้อโควิด-19 แล้ว จะมีมากมายที่จะป่วยจนถึงเสียชีวิต มากกว่าผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนแล้ว
(3) หลายประเทศกำลังจะดำเนินการฉีดวัคซีนสำหรับเด็ก เมื่อไหร่ที่ฉีดวัคซีนให้เด็กโดยเฉพาะเด็กในวัยเรียนได้ครบแล้ว จะทำให้การจบเกมของโรคระบาดสมบูรณ์ขึ้น
(4) สำหรับประชาชนกลุ่มใหญที่ฉีดวัคซีนแล้ว เราสามารถผ่อนคลายได้ระดับหนึ่ง เพียงแต่ในเดือนสองเดือนนี้ เราอาจยังต้องระมัดระวังตัว จนมั่นใจว่า คลื่นลูกสุดท้ายนี้ได้เคลื่อนผ่านไป โดยติดตามสังเกตกราฟผู้ติดเชื้อรายวัน (ภาพที่ 2) ว่า เมื่อไหร่จะกลับหัวเปลี่ยนมาเป็นขาลง เหมือนประเทศสหราชอาณาจักรหรืออัฟริกาใต้
เมื่อพ้นคลื่นลูกนี้ไปแล้ว ไม่ว่าคุณจะมีภูมิคุ้มกันธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากที่เคยติดเชื้อมาก่อน หรือจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ก็ตาม ความเสี่ยงของทุกคนจะลดลงทันทีเหมือนๆกัน เพราะคนส่วนใหญ่รอบตัวเราที่มีภูมิคุ้มกันในตัว จะเป็นเสมือนเกราะคุ้มกันให้เราด้วย
สุดท้ายแล้ว มนุษย์ควรจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ(แบบใหม่)ได้ ด้วยความระมัดระวังและมีสติในการดูแลสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ศ.ดร.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย ราชบัณฑิต
ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมบูรณาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย