"...ทั้ง 9 ประการนี้ เชื่อมโยงและถักทอกันเป็นโครงสร้างที่หนาแน่น ที่กักขังประเทศไทยไว้จากความเจริญ ทำให้คนไทยเป็นประดุจ “ไก่อยู่ในเข่ง” ที่จิกตีกันร่ำไป แต่ถึงจะจิกตีกันจนเลือดตกยางออกหรือล้มตายอย่างไรๆ ก็ออกจากเข่งไม่ได้ ถ้าไม่ทำความเข้าใจว่า “เข่ง” หรือโครงสร้างที่จะขังคนไทยและประเทศไทยไว้คืออะไร..."
..........................................
วิกฤตการณ์คลื่นลูกที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
เมื่อกว่า 20 ปีมาแล้ว ผมเตือนว่าเรากำลังเผชิญวิกฤตการณ์รูปที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่กรุงรัตนโกสินทร์ประเทศไทยเผชิญวิกฤตการณ์ใหญ่และยากมา 3 คลื่น ซึ่งก็เอาตัวรอดมาได้ แต่วิกฤตการณ์คลื่นลูกที่ 4 ยากกว่า 3 ลูกแรก เพราะเป็นวิกฤตการณ์ความซับซ้อน (Complexity crisis) ที่อยากเข้าใจ และไม่มีใครเข้าใจ ในคลื่นวิกฤตการณ์ 3 ลูกแรก เป็นวิกฤตการณ์ที่เข้าใจได้ง่ายว่าศัตรูคือใครหรืออะไร ถ้ากำหนดศัตรูหรือสาเหตุของปัญหาได้ ก็สามารถกำหนดยุทธศาสตร์เอาชนะได้ในที่สุด แต่ในวิกฤตการณ์ความซับซ้อนทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมโยงกันอย่างยาวไกลและซับซ้อน ทำให้ไม่สามารถกำหนดศัตรูได้ เมื่อกำหนดไม่ได้ก็ไม่สามารถกำหนดยุทธศาสตร์ที่จะเอาชนะได้ ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถก้าวข้ามวิกฤตการณ์เรื้อรัง ไม่ว่าจะมีรัฐบาลแบบใดๆ จนกระทั่งวิกฤตโควิดมาเยือน ซึ่งสะเทือนประเทศอย่างรุนแรงในทุกมิติ แต่พร้อมๆ กันนั้นวิกฤตโควิดได้เผยให้เห็นว่า
ประเทศไทยมีความอ่อนแอในตัวเองหลายอย่าง
ผมจึงได้กล่าวในบทความเรื่องคลื่นลูกที่ 4 ว่า ที่ว่าไม่รู้ว่าศัตรูคือใครนั้น เผลอๆ ศัตรูคือ ตัวเราเอง ซึ่งหมายถึงความอ่อนแอในตัวเอง
ภูเขา 9 ลูกที่ขวางกั้นประเทศไทย
(ความอ่อนแอภายในหรือศัตรูต่อตัวเอง)
ภูเขา 9 ลูกที่ขวางกั้นประเทศไทย มีดังต่อไปนี้
1. นิสัยประจำชาติบางอย่างที่เกิดจากที่ตั้งของประเทศ
2. วัฒนธรรมอำนาจ
3. โครงสร้างอำนาจรัฐรวมศูนย์
4. ขาดการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน หรือศีลธรรมพื้นฐาน
5. ติดกับดักวิธีคิด ขาดสมรรถนะในการคิดเชิงระบบและการจัดการ
6. ระบบการศึกษาที่ทำให้ด้อยสมรรถนะของชาติ
7. วิธีการพัฒนาแบบสร้างพระเจดีย์จากยอด
8. มีความเหลื่อมล้ำอย่างสุดๆ หรือขาดความเป็นธรรม
9. ระบบการเมืองไม่มีสมรรถนะ
ทั้ง 9 ประการนี้ เชื่อมโยงและถักทอกันเป็นโครงสร้างที่หนาแน่น ที่กักขังประเทศไทยไว้จากความเจริญ ทำให้คนไทยเป็นประดุจ “ไก่อยู่ในเข่ง” ที่จิกตีกันร่ำไป แต่ถึงจะจิกตีกันจนเลือดตกยางออกหรือล้มตายอย่างไรๆ ก็ออกจากเข่งไม่ได้ ถ้าไม่ทำความเข้าใจว่า “เข่ง” หรือโครงสร้างที่จะขังคนไทยและประเทศไทยไว้คืออะไร
แต่ละเรื่องของทั้ง 9 เรื่อง มีรายละเอียดมาก แต่ขยายความและสรุปเพียงสั้นๆ ดังต่อไปนี้
ภูเขาลูกที่ 1
นิสัยประจำชาติบางอย่างที่เกิดจากที่ตั้งของประเทศ
ประเทศไทยตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่มีอาหารสมบูรณ์ มีภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น ไต้ฝุ่น แผ่นดินไหวน้อย และอากาศอบอุ่น ไม่มีใครหนาวตาย หรืออดตาย ในด้านที่ดี คือ ทำให้คนไทยเป็นคนมีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใส จิตใจโอบอ้อมอารี ดังที่ใครๆ ก็อยากมาเที่ยวเมืองไทย
แต่อีกด้านหนึ่งทำให้คนไทยตั้งอยู่ในความประมาท ไม่ตื่นตัว กระตือรือร้น ไม่แสวงหาความรู้ ไม่ต้องคิดมากหรือวางแผนอะไร ก็อยู่ได้ไม่อดตายหรือหนาวตาย แต่บัดนี้สังคมเปลี่ยนไปแล้ว สถานการณ์ใหม่ที่ยาก เช่น เรื่องเศรษฐกิจ สังคม โรคระบาดอย่างโควิค นิสัยประจำชาติที่ขาดความรู้ความสามารถเป็นอุปสรรคที่ขวางกั้นประเทศไทย อะไรที่เป็นนิสัยประจำชาติแก้ไขได้ยาก แต่ก็ต้องแก้
ภูเขาลูกที่ 2
วัฒนธรรมอำนาจนิยม
อย่างน้อยตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมา ที่สังคมมีความสัมพันธ์เชิงนายกับไพร่ เราจะเห็นความสัมพันธ์ทางดิ่ง หรือความสัมพันธ์เชิงอำนาจอยู่ทั่วไปในสังคม เป็นสัมพันธภาพแบบ top-down ที่ใช้อำนาจจากบนลงล่าง หรือสัมพันธภาพที่ไม่เท่าเทียมกัน เช่น ระหว่างพ่อแม่กับลูก ครูกับนักเรียน นายจ้างกับลูกจ้าง นายกับลูกน้อง ข้าราชการกับราษฎร พระสงฆ์กับแม่ชี หรือแม้ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย
สัมพันธภาพเชิงอำนาจก่อให้เกิดความบีบคั้น พฤติกรรมเบี่ยงเบน และมีการเรียนรู้น้อย ทำให้ด้อยปัญญาทั้งสองฝ่าย ทั้งภูเขาลูกที่ 1 และภูเขาลูกที่ 2 ทำให้สังคมโดยรวมเป็นสังคมที่ขาดการเรียนรู้ ขาดความรู้ ไม่เป็นสังคมอุดมปัญญา วิกฤตโควิดเห็นได้ชัดว่า สังคมที่ขาดความรู้ไม่สามารถเผชิญสิ่งยากได้.