"...ผมอยากลองถามผู้บริหารวิกฤติครั้งนี้ว่า ท่านคิดว่า ผู้ติดเชื้อในวันนี้ (21,379 ราย) ได้ติดเชื้อมาจากใครและเมื่อไหร่? คำตอบคือ ติดเชื้อมาจาก"ผู้ติดเชื้อเงียบที่ไม่มีอาการ"ที่ปะปนในสังคมเราเมื่อ 5-10 วันที่แล้ว ซึ่งมีจำนวนเป็นหลักแสน..."
.............................
(1) ตามรายงานเช้านี้ (ภาพ 2 และ 3) กราฟผู้ติดเชื้อสะสมของไทย ยังไม่เกิดจุดหักเห จำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน (21,379 ราย) ยังเดินหน้าเป็นขาขึ้นต่อบนส่วนโค้งที่เป็น exponential ภายใต้บริบทปัจจุบันนี้ peak สูงสุดน่าจะอยู่ปลายเดือนสิงหาคม ในระดับ 25,000-30,000 รายต่อวัน
(2) ผมอยากลองถามผู้บริหารวิกฤติครั้งนี้ว่า ท่านคิดว่า ผู้ติดเชื้อในวันนี้ (21,379 ราย) ได้ติดเชื้อมาจากใครและเมื่อไหร่? คำตอบคือ ติดเชื้อมาจาก"ผู้ติดเชื้อเงียบที่ไม่มีอาการ"ที่ปะปนในสังคมเราเมื่อ 5-10 วันที่แล้ว ซึ่งมีจำนวนเป็นหลักแสน (ดูตารางในภาพ 1)
(3) สมมติว่า ถ้า 5-10 วันที่แล้ว เราสามารถตรวจวัดเชื้อประชากรทุกคนแบบปูพรมได้ และสามารถกักกันผู้ที่ตรวจเชื้อที่เป็นบวกทุกคน ไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่มีอาการก็ตาม ถามว่าเราจะมีผู้ติดเชื้อถึง 21,379 รายในวันนี้หรือไม่ คำตอบ คือไม่มี เพราะไม่มีคนแพร่เชื้อ
(4) ดังนั้น มาตรการที่ประเทศไทยควรจะต้องรีบทำตั้งแต่วันนี้ (ภาพที่ 4) เพื่อให้มีผลต่อการลดเชื้อใน 7-10 วันข้างหน้า คือ Mass Testing and Quarantine ได้แก่ การปูพรมตรวจเชื้อเชิงรุกแบบสุดๆ ในบริเวณที่กำหนดเป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยง ตรวจผู้ใหญ่ทุกคนโดยใช้ Rapid Test ใครที่มีผลเป็นบวก (ไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่ก็ตาม) ต้องให้เขากักกันตัวเองอย่างเคร่งครัด อาจทำโดยวิธี home isolation ก็ได้ แต่ต้องมีมาตรการตรวจตราห้ามออกนอกบ้านเด็ดขาดจนพ้น 14 วันแล้ว
(5) ในเบื้องต้น เราอาจเริ่มจากกรุงเทพก่อน โดยแบ่งกรุงเทพออกเป็นโซนๆ และเริ่มจากโซนที่มีผู้ติดเชื้อสูงก่อน ปูพรมตรวจวัดให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 ล้านราย ใช้เวลา 4-5 วันก็จะเพียงพอสำหรับประชากรผู้ใหญ่ในกรุงเทพทั้งหมด ถ้าทำได้ ผมเชื่อว่าอีก 7 วันต่อมา ผู้ติดเชื้อรายวันจะลดลงได้อย่างทันใจ
แหล่งที่มา : https://www.facebook.com/100005249319513/posts/1772137389637888/
เขียนโดย
ศ.ดร.วรศักดิ์ กนกนุกุลชัย ราชบัณฑิต
ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมบูรณาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เขียนเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2021