"...นายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1 ติดต่อทางโทรศัพท์นัดหมายนางประพิศให้ไปพบที่ร้านอาหาร ZEN สาขา เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ และแจ้งนางประพิศเรื่องการคืนเงินค่าข้าว ว่า ทางผู้ใหญ่ขอเรียกค่าดําเนินการ 100 ล้านบาท แต่นางประพิศบอกว่าไม่สามารถทําได้ ..หลังจากนั้น นายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1 ติดต่อนางประพิศทางโทรศัพท์นัดหมายพบกันบริเวณล็อบบี้โรงแรมริชมอนด์ เวลาบ่าย เมื่อพบกันแล้ว นายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1 แจ้งนางประพิศว่า ผู้ใหญ่เปลี่ยนใจแล้วขอเพียง 30 ล้านบาท..."
..................................
นายชนุตร์ปกรณ์ จําเลยที่ 1 อนุมัติให้คืนเงินค่าข้าว ทั้งที่ ยังไม่ผ่านการพิจารณาและเสนอความเห็นจากเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตามลําดับในสายงานในการตรวจสอบการคืนข้าวของบริษัทเจียเม้ง จํากัด ตามที่ นายชนุตร์ปกรณ์ จําเลยที่ 1 สั่งการไว้
ย่อมส่อแสดงว่า นายชนุตร์ปกรณ์ จําเลยที่ 1 รวบรัดในการสั่งอนุมัติให้คืนเงินค่าข้าวดังกล่าวโดยไม่ใส่ใจว่าเจ้าหน้าที่ ผู้เกี่ยวข้องจะมีความเห็นอย่างไร
คือ ข้อมูลที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ทิ้งท้ายเอาไว้ หลังนำรายละเอียดคำพิพากษาในคดีกล่าวหา นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กับพวก 1 ราย คือ นายอธิธัช เรือนทองคำ เรียกรับเงินจากคู่สัญญาตัวแทนจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงให้กับ อคส. โดยประวิงเวลาในการดำเนินการชำระเงินค่าข้าวคืน ซึ่งถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6 และมาตรา 11 และ พ.ร.บ. ป.ป.ช. พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86
ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำพิพากษาว่า นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล มีความผิดตาม มาตรา 6 พ.ร.บ.ป.ป.ช. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ให้ลงโทษจำคุก 17 ปี ส่วนนายอธิธัช เรือนทองคำ (ไม่ระบุสถานะตำแหน่งที่ชัดเจน) ในฐานะผู้สนับสนุนพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ ศาลฯ มีคำสั่งให้ยกฟ้อง
มาเปิดเผยให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้วว่า
1. นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ได้เรียกร้องเงินจากนางประพิศ มานะธัญญา กรรมการผู้จัดการบริษัทเจียเม้ง จํากัด จํานวน 30,000,000 บาท เป็นค่าตอบแทนเพื่อจะช่วยเหลือในเรื่องดําเนินการคืนเงินดังกล่าว และช่วยเหลือเกี่ยวกับสัญญาอื่น ๆ ที่บริษัทเจียเม้ง จํากัด ยังมีภาระผูกพันอยู่กับองค์การคลังสินค้า จนนางประพิศยินยอมให้เงินตามที่ นายชนุตร์ปกรณ์ เรียกร้อง
2. มีการจัดเตรียมสถานที่ โดยเตรียมห้องพักหมายเลข 652 โรงแรมริชมอนด์ เพื่อรับมอบเงิน เมื่อได้รับเงินแล้วนายชนุตร์ปกรณ์ จึงอนุมัติคืนเงินค่าข้าวจํานวน 131,200,000 บาท ให้แก่บริษัทเจียเม้ง จํากัด ในวันเวลาดังกล่าว โดยไม่รอผลการให้ตรวจสอบเพิ่มเติมในเรื่องการขอคืนเงินแต่อย่างใด
3. คำให้การของทีมงานเลขานุการของ นายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1 ในฐานะพยานฝ่ายโจทก์ ชี้ให้ศาลฯ เห็นถึงพฤติการณ์ของ นายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1 ในการรวบรัดสั่งอนุมัติให้คืนเงินค่าข้าว ให้กับ บริษัทเจียเม้ง จํากัด ที่กลายมาเป็นหลักฐานสำคัญในคดีนี้
(อ่านประกอบ : ใช้ห้องพัก รร.ดัง รับเงิน 30 ล.! เจาะคำพิพากษาคดีข้าวถุง อดีต ผอ.อคส. โดนคุก 17 ปี (1), คำให้การ 2 เลขาฯ มัดเจ้านาย! เจาะคำพิพากษาคดีข้าวถุง อดีต ผอ.อคส. โดนคุก 17 ปี (2))
ต่อไปนี้ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการเจรจาต่อรองเรียกรับเงินระหว่าง นายชนุตร์ปกรณ์ จําเลยที่ 1 กับผู้บริหารบริษัท เจียเม้ง จํากัด ที่พบว่า ตัวเลขวงเงินที่ขอเรียกรับในครั้งแรกสูงถึง 100 ล้านบาท โดยนายชนุตร์ปกรณ์ อ้างว่าเป็นคำสั่งของผู้ใหญ่รายหนึ่ง ก่อนจะมีการเจรจาต่อรองเหลือแค่ 30 ล้านบาทในภายหลัง
มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ในการไต่สวนพยานหลักฐานคดีนี้ นางประพิศ มานะธัญญา กรรมการผู้จัดการบริษัทเจียเม้ง จํากัด เบิกความเป็นพยานโจทก์ ยืนยันข้อเท็จจริงตามบันทึกถ้อยคํา ได้ความว่า เมื่อประมาณปลายเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนมิถุนายน 2557 ซึ่งเป็นวันเสาร์
นายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1 ติดต่อทางโทรศัพท์นัดหมายนางประพิศให้ไปพบที่ร้านอาหาร ZEN สาขา เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ และแจ้งนางประพิศเรื่องการคืนเงินค่าข้าว ว่า ทางผู้ใหญ่ขอเรียกค่าดําเนินการ 100 ล้านบาท
แต่นางประพิศบอกว่าไม่สามารถทําได้
จากนั้นแยกย้ายกันกลับไป
@ อ้างอิงภาพจาก https://eatigo.com/th/bangkok/th/r/zen-central-rattanathibet-1322
หลังจากนั้น นายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1 ติดต่อนางประพิศทางโทรศัพท์นัดหมายพบกันบริเวณล็อบบี้โรงแรมริชมอนด์ เวลาบ่าย
เมื่อพบกันแล้ว นายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1 แจ้งนางประพิศว่า ผู้ใหญ่เปลี่ยนใจแล้วขอเพียง 30 ล้านบาท
ระหว่างนั้น มีผู้ใหญ่ติดต่อทางโทรศัพท์ของ นายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1
นายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1 จึงบอกว่ากําลังคุยอยู่กับนางประพิศ
จากนั้นบุคคลทั้งสองพูดคุยกันต่อ นายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1 แจ้งนางประพิศว่าหากยินยอมมอบเงิน 30 ล้านบาท จะจัดการคืนเงินค่าข้าว และเรื่องที่บริษัทเจียเม้ง จํากัด มีอยู่ที่องค์การคลังสินค้าซึ่งเป็นอํานาจของนายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1 ประมาณ 2 ถึง 3 เรื่อง เช่น การจ่ายคืนเงินค้ำประกัน ค่าปรับคลังสามัคคี 100 ล้านบาทเศษ
แต่นางประพิศแจ้งว่ายังให้คําตอบไม่ได้พร้อมกับต่อรองเหลือ 10 ล้านบาท
แต่นายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1 แจ้งว่าไม่ได้
นางประพิศจึงขอกลับไปหารือกับผู้เกี่ยวข้องก่อน
และในคืนวันนั้น นางประพิศแจ้งทางโทรศัพท์ไปยัง นายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1 ว่า ยินยอมที่จะมอบเงิน 30 ล้านบาท แลกกับการที่ นายชนุตร์ปกรณ์ จำเลย ที่ 1 จะอนุมัติคืนเงินค่าข้าว จํานวน 131,200,000 บาท และแจ้งว่าได้มอบหมายให้ นางสาว ก. เลขานุการของนางประพิศเป็นผู้ติดต่อพูดคุยในรายละเอียดต่อไป
*********
ทั้งหมดนี้ เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการเจรจาต่อรองเรียกรับเงิน ของ นายชนุตร์ปกรณ์ จากบริษัท เจียเม้ง จํากัด ซึ่งมีการกล่าวอ้างว่า เป็นคำสั่งของผู้ใหญ่รายหนึ่ง แต่ในรายละเอียดคำพิพากษาไม่ได้มีการระบุถึงข้อมูล ผู้ใหญ่ รายนี้เอาไว้ ว่ามีตัวตนจริงหรือไม่? เป็นใครมาจากไหน?
จากนั้น เริ่มเข้าสู่ข้อมูลกระบวนการรวบรวมเงิน ของ บริษัทเจียเม้ง จํากัด เพื่อนำไปส่งมอบให้กับ นายชนุตร์ปกรณ์ และพวก ต่อไป ซึ่งมีตัวละครอีกหลายส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
รายละเอียดทั้งหมด สำนักข่าวอิศรา จะนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบในตอนต่อไป
อ่านประกอบ :
คุก 17 ปี! อดีต ผอ.อคส. เรียกรับเงินคู่สัญญาขายข้าวถุง ยุค 'ยิ่งลักษณ์'
พลิกปูมคดีเรียกเงินข้าวถุง 30 ล้าน โดนคุก 17 ปี - กรณีถุงมือยางแสนล. ใครจะเป็นรายต่อไป
ใช้ห้องพัก รร.ดัง รับเงิน 30 ล.! เจาะคำพิพากษาคดีข้าวถุง อดีต ผอ.อคส. โดนคุก 17 ปี (1)
คำให้การ 2 เลขาฯ มัดเจ้านาย! เจาะคำพิพากษาคดีข้าวถุง อดีต ผอ.อคส. โดนคุก 17 ปี (2)
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage