"...วันที่ 5 มิถุนายน 2557 นายอธิธัช เรือนทองคำ จําเลยที่ 2 ร่วมกับพวกจัดเตรียมสถานที่โดยเตรียมห้องพักหมายเลข 652 โรงแรมริชมอนด์ เพื่อรับมอบเงินที่ นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล จําเลยที่ 1 เรียกร้อง และได้รับมอบเงินจากพวกของนางประพิศที่นํามาส่งมอบให้แก่พวกของจําเลยทั้งสองที่ห้องพักดังกล่าว จํานวน 30,000,000 บาท ไปเป็นประโยชน์แก่ นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล จําเลยที่ 1 กับพวก แล้วนายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล จําเลยที่ 1 จึงอนุมัติคืนเงินค่าข้าวจํานวน 131,200,000 บาท ให้แก่บริษัทเจียเม้ง จํากัด ในวันเวลาดังกล่าว โดยไม่รอผลการให้ตรวจสอบเพิ่มเติมในเรื่องการขอคืนเงินแต่อย่างใด ..."
.............................
กรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำพิพากษาตัดสินในคดีกล่าวหา นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กับพวก 1 ราย คือ นายอธิธัช เรือนทองคำ เรียกรับเงินจากคู่สัญญาตัวแทนจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงให้กับ อคส. โดยประวิงเวลาในการดำเนินการชำระเงินค่าข้าวคืน ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6 และมาตรา 11 และ พ.ร.บ. ป.ป.ช. พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ ป.อ.มาตรา 86
โดยศาลฯ พิพากษาว่า นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล มีความผิดตาม มาตรา 6 พ.ร.บ.ป.ป.ช. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ให้ลงโทษจำคุก 17 ปี
ส่วนนายอธิธัช เรือนทองคำ (ไม่ระบุสถานะตำแหน่งที่ชัดเจน) ในฐานะผู้สนับสนุนพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ ศาลฯ มีคำสั่งให้ยกฟ้อง
(อ่านประกอบ : คุก 17 ปี! อดีต ผอ.อคส. เรียกรับเงินคู่สัญญาขายข้าวถุง ยุค 'ยิ่งลักษณ์')
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำข้อกล่าวหาในดคีนี้ มาเปิดเผยไปแล้วว่า เป็นการเรียกรับเงินจำนวน 30 ล้านบาท จากบริษัท เจียเม้ง จำกัด เพื่อแลกเปลี่ยนกับกับการคืนเงินที่ชำระค่าข้าวเป็นจำนวนกว่า 131,200,000 บาท
(อ่านประกอบ : พลิกปูมคดีเรียกเงินข้าวถุง 30 ล้าน โดนคุก 17 ปี - กรณีถุงมือยางแสนล. ใครจะเป็นรายต่อไป)
ต่อไปนี้ เป็นข้อมูลในคำพิพากษาคดีนี้ ที่อัยการสูงสุด โดยพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 ยื่นฟ้องเป็นคดีความอาญา ซึ่งมีการระบุพฤติการณ์กระทำความผิดของ นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ในการเรียกรับเงินจากผู้บริหารบริษัท เจียเม้ง จำกัด โดยนัดหมายรับเงินที่ห้องพักหมายเลข 652 โรงแรมริชมอนด์ ให้แก่ นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล และพวก
มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
เรื่อง ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
โจทก์ฟ้องว่า องค์การคลังสินค้าจัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การคลังสินค้า พ.ศ. 2498 เป็นองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ
ขณะเกิดเหตุ นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล จําเลยที่ 1 ดํารงตําแหน่งผู้อํานวยการองค์การคลังสินค้า เป็นพนักงานตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 และเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มีอํานาจและหน้าที่จัดการและดําเนินกิจการขององค์การให้เป็นไปตามนโยบายและข้อบังคับที่คณะกรรมการองค์การคลังสินค้าวางไว้ และมีอํานาจบังคับบัญชาพนักงานทุกตําแหน่ง นายอธิธัช เรือนทองคำ จําเลยที่ 2 ไม่ได้เป็นพนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐ องค์การคลังสินค้า
ทําสัญญาแต่งตั้งบริษัทเจียเม้ง จํากัด เป็นผู้จําหน่ายสินค้าของ อคส. ในลักษณะซื้อสินค้า จาก อคส. และนําไปขายต่อ โดยจะซื้อข้าวสารบรรจุถุงน้ำหนักรวมถุงบรรจุ 5 กิโลกรัม ในราคาถุงละ 65.60 บาท จํานวน 40,000,000 ถุง
ต่อมาวันที่ 21 มิถุนายน 2556 บริษัทเจียเม้ง จํากัด ขอซื้อข้าวบรรจุถุง 2 รายการ คือ ข้าวขาว 6,000,000 ถุง เป็นเงิน 393,600,000 บาท และข้าวเหนียว 4,000,000 ถุง เป็นเงิน 262,400,000 บาท รวมเป็นเงิน 656,000,000 บาท และได้รับการอนุมัติจากองค์การคลังสินค้าให้ซื้อได้ บริษัทเจียเม้ง จํากัด จึงชําระค่าข้าวดังกล่าวให้แก่องค์การคลังสินค้าเรียบร้อยแล้ว
ต่อมา วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 บริษัทเจียเม้ง จํากัด ขอรับเงินค่าข้าวคืน จํานวน 131,200,000 บาท เนื่องจากองค์การคลังสินค้าไม่สามารถส่งมอบข้าวเหนียวให้แก่บริษัทเจียเม้ง จํากัด ได้ครบตามสัญญา คงขาดข้าวเหนียว 2,000,000 ถุง เป็นเงิน 131,200,000 บาท
เมื่อระหว่างวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 5 มิถุนายน 2557 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน จําเลยทั้งสองกระทําความผิด
กล่าวคือ นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล จําเลยที่ 1 พิจารณาให้คืนเงินค่าข้าวเหนียวที่องค์การคลังสินค้าไม่สามารถส่งมอบให้แก่บริษัทเจียเม้ง จํากัด จํานวน 131,200,000 บาท ในวันที่ 10 เมษายน 2557
แต่เมื่อถึงวันนัดคืนเงินดังกล่าว นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล จําเลยที่ 1 ระงับการคืนเงินและสั่งการให้เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้าตรวจสอบการขอคืนเงินดังกล่าวเพิ่มเติม
อันเป็นการประวิงการกระทําโดยมิชอบ และ นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล จําเลยที่ 1 เรียกร้องเงินจากนางประพิศ มานะธัญญา กรรมการผู้จัดการบริษัทเจียเม้ง จํากัด จํานวน 30,000,000 บาท เป็นค่าตอบแทนเพื่อจะช่วยเหลือในเรื่องดําเนินการคืนเงินดังกล่าว และช่วยเหลือเกี่ยวกับสัญญาอื่น ๆ ที่บริษัทเจียเม้ง จํากัด ยังมีภาระผูกพันอยู่กับองค์การคลังสินค้า จนนางประพิศยินยอมให้เงินตามที่ นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล จําเลยที่ 1 เรียกร้อง
ต่อมาวันที่ 5 มิถุนายน 2557 นายอธิธัช เรือนทองคำ จําเลยที่ 2 ร่วมกับพวกจัดเตรียมสถานที่โดยเตรียมห้องพักหมายเลข 652 โรงแรมริชมอนด์ เพื่อรับมอบเงินที่ นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล จําเลยที่ 1 เรียกร้อง และได้รับมอบเงินจากพวกของนางประพิศที่นํามาส่งมอบให้แก่พวกของจําเลยทั้งสองที่ห้องพักดังกล่าว จํานวน 30,000,000 บาท ไปเป็นประโยชน์แก่ นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล จําเลยที่ 1 กับพวก แล้วนายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล จําเลยที่ 1 จึงอนุมัติคืนเงินค่าข้าวจํานวน 131,200,000 บาท ให้แก่บริษัทเจียเม้ง จํากัด ในวันเวลาดังกล่าว โดยไม่รอผลการให้ตรวจสอบเพิ่มเติมในเรื่องการขอคืนเงินแต่อย่างใด
อันเป็นการเรียกหรือรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากนางประพิศ สําหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยมิชอบเพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในหน้าที่ ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างได้ในตําแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อํานาจ ในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ บริษัทเจียเม้ง จํากัด
ทั้งนี้ นายอธิธัช เรือนทองคำ จําเลยที่ 2 เป็นผู้สนับสนุน นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล จําเลยที่ 1 การกระทําจึงเป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทําการ หรือไม่กระทําการอย่างใดในหน้าที่ ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ฐานเป็นผู้สนับสนุนพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ อย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความ เสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
เหตุเกิดที่ตําบลบางกระสอ และตําบลรัตนาธิเบศร์ อําเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 6, 11 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172, 192 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
เบื้องต้น จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ก่อนที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จะพิเคราะห์พยานหลักฐาน และมีคำพิพากษาว่า นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล มีความผิดให้ลงโทษจำคุก 17 ปี ให้ยกฟ้อง นายอธิธัช เรือนทองคำ จําเลยที่ 2
อย่างไรก็ดี คดียังไม่สิ้นสุด นายชนุตร์ปกรณ์ มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
แต่จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกของสำนักข่าวอิศรา พบว่า ในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการเจรจาต่อรองเรียกรับเงิน ของ นาย ชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล จากบริษัทเจียเม้ง จํากัด นั้น มีข้อมูลเบื้องลึกที่สำคัญอีกหลายส่วน รวมถึงตัวละครที่เข้ามาเกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก
รายละเอียดเป็นอย่างไร จะนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
อ่านประกอบ :
คุก 17 ปี! อดีต ผอ.อคส. เรียกรับเงินคู่สัญญาขายข้าวถุง ยุค 'ยิ่งลักษณ์'
พลิกปูมคดีเรียกเงินข้าวถุง 30 ล้าน โดนคุก 17 ปี - กรณีถุงมือยางแสนล. ใครจะเป็นรายต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage