'สมพงษ์ ปรีเปรม' ผู้ว่าการ กฟภ. แจงปม 2 เอกชนกลุ่ม IAM Consortium ขอความเป็นธรรมโครงการติดตั้งอุปกรณ์ระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟ 1.2 พันล. ยันไม่มีธงใช้ดุลยพินิจกีดกันสินค้าจีน แต่เป็นฝ่ายเอกชนผิดสเปคเองค่อนข้างมาก ชี้โครงการมีความสำคัญจะดูราคาอย่างเดียวไม่ได้ ส่วนรองผู้ว่าฯ เผยเข้าชี้แจงเรื่องอุทธรณ์กรมบัญชีกลางหลายครั้งจนเข้าใจชัดเจนแล้ว
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานความคืบหน้ากรณีเอกชน 2 ราย ในกลุ่ม IAM Consortium ได้แก่ บริษัท DONGFANG ELECTRONICS จากประเทศจีน และบริษัท ไอเจน เอนจิเนียริ่ง ที่เข้าร่วมประกวดราคาโครงการประกวดราคาจ้างงานจัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ Hardware และ Software ระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟ (SCADA/TDMS) วงเงิน 1.2 พันล้านบาท ด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ของ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (กฟภ.) พร้อมขออุทธรณ์ผลการประกวดราคาต่อกรมบัญชีกลาง ว่า การจัดประกวดราคาโครงการนี้ มีลักษณะเอนเอียงเพื่อกีดกันสินค้าจากประเทศจีน เนื่องจากมีการเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจตัดสินให้คะแนนถึง 70 เต็ม 100 หวั่นมีธงกีดกันไม่เอาสินค้าจีน เพราะต้องการสินค้าจากยุโรปมากกว่า ซึ่งอาจจะทำให้ราชการต้องเสียประโยชน์ในการซื้อสินค้าที่มีราคาแพงกว่า 300-400 ล้านบาท (อ่านประกอบ:หวั่นมีธงกีดกันสินค้าจีน! 2 บ.ร้อง'อนุพงษ์-กฟภ.'สอบประมูลระบบศูนย์สั่งจ่ายไฟ1.2 พันล.,กรมบัญชีกลางเรียกตัวแทน3ฝ่ายให้ข้อมูล! ปม 2 บ.ร้องสอบซื้อระบบศูนย์สั่งจ่ายไฟ 1.2 พันล.)
ล่าสุด นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการ กฟภ. ให้สัมภาษณ์ชี้แจงสำนักข่าวอิศราว่า กรณีข้อร้องเรียนดังกล่าว ทาง กฟภ. ได้เข้าไปชี้แจงกับกรมบัญชีกลางหลายครั้งแล้ว ซึ่งทางกรมบัญชีกลางก็ไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างนั้น พบว่า กลุ่ม IAM Consortium มีประเด็นที่ผิดสเปคค่อนข้างมาก
“เรื่องนี้ผ่านคณะกรรมการ กฟภ. แล้ว โดยเป็นเรื่องของระบบการควบคุมการจ่ายไฟที่ต้องการเสถียรภาพการจ่ายไฟสูง ขอยืนยันว่าตรงนี้ทางเราไม่ได้กีดกันบริษัทจีนแต่อย่างใด แต่พบข้อมูลว่ารายละเอียดนั้นผิดสเปคเป็นหน้าๆเลย”นายสมพงษ์ระบุ
นายสมพงษ์ ยังกล่าวต่อว่า "การพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างที่มีเรื่องทางเทคนิคเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น มันไม่ใช่ว่าจะต้องดูเรื่องของราคาอย่างเดียว แต่มีเรื่องของคำว่า Price Performance (หลักเกณฑ์การประเมินค่าประสิทธิภาพต่อราคา) เพื่อให้เราได้ของดีที่มีคุณภาพมากที่สุด โดยจะมีการกำหนดหลักเกณฑ์ว่าจะต้องผ่านคะแนนเทคนิคเท่าไร คะแนนด้านราคาเท่าไร แต่ถ้าหากไม่ผ่านเกณฑ์เทคนิคนั้นเราก็ไม่ต้องไปพูดถึงอะไรแล้ว"
นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (กฟภ.)
ขณะที่นายวัลลภ กิตติวิวัฒน์ รองผู้ว่าการ กฟภ.ด้านการปฏิบัติการและบำรุงรักษา ชี้แจงสำนักข่าวอิศราเพิ่มเติมว่า โครงการนี้เป็นโครงการปรับปรุงศูนย์สั่งการจ่ายไฟ ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 13 แห่ง ศูนย์นี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นการควบคุมระบบการจ่ายไฟที่จะส่งไปยังผู้ที่ใช้ไฟฟ้าของ กฟภ.ทั้งหมดที่มีอยู่ทั่วประเทศ จึงเป็นเหตุให้การประมูลจะต้องไม่มุ่งเน้นแค่ราคาอย่างเดียว แต่ไปมุ่งเน้นในเชิงประสิทธิภาพต่อราคาด้วยหรือที่เรียกว่า Price Performance นั่นเอง ซึ่งตรงนี้ก็เป็นหลักเกณฑ์ที่กรมบัญชีกลางกำหนดว่าให้ใช้ได้
“คิดเหมือนตัวเรา เวลาเราซื้อของ ถ้าเรามีเงินสักหน่อย เราก็จะไม่ซื้อของที่ถูก เพราะเราคิดว่าจะต้องใช้งานได้นานและตอบสนองต่อความต้องการของเราได้ ซึ่งนี่เป็นของที่เป็นของรัฐ แล้วเราจะเอาแค่ว่าราคาเพื่อได้ของถูกมา แล้วถ้าเกิดเหตุไฟดับ เสียบ่อย กฟภ.ก็ตกเป็นจำเลยอีก และมันก็ไม่มีความคุ้มค่าเลยด้วยจากการที่ประชาชนต้องมารับผลกระทบจากการที่เราพิจารณาอะไรไม่ถี่ถ้วน” นายวัลลภกล่าว
นายวัลลภ กล่าวต่อว่า "ก่อนที่จะมีการประกวดราคาเกิดขึ้นนั้นมีการทำประชาพิจารณ์ในกลุ่มผู้ที่เสนอราคาว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกรณีที่เราจะมุ่งเน้นการคิดคะแนนในเชิงเทคนิค โดยมีการทำประชาพิจารณ์ไปทั้งสิ้นจำนวน 3 ครั้ง เพื่อจะปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกวดราคาตามคำประชาพิจารณ์ แต่ก็ปรากฏว่าแม้แต่กลุ่มบริษัทที่ร้องเรียนเรื่องนี้มา ก็ไม่เคยมาอุทธรณ์ในขั้นตอนของการทำประชาพิจารณ์ว่าไม่เห็นด้วยแต่อย่างใด"
เมื่อถามถึง ที่ไปที่มาของข้อครหาเรื่องธงกีดกันสินค้าจีน นายวัลลภกล่าวว่า "การประกวดราคาในครั้งนี้นั้นมีกลุ่มบริษัทจีนเข้ามาอยู่ 2 เจ้าที่เสนอราคาเข้ามา และก็มีบริษัทไทยที่ร่วมกับบริษัทในยุโรปเสนอราคาเข้ามา ซึ่งกลุ่มบริษัทจีนนั้นไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาและไม่ได้งานทั้ง 2 เจ้า ซึ่งสาเหตุก็คือว่าทั้ง 2 เจ้านั้นเขาก็ไม่ผ่านจริงๆ"
“ในการพิจารณามี 2 ส่วน คือส่วนของเอกสาร และการสาธิตให้ดู ซึ่งเรียกกันว่า Live Demo ปรากฏว่าเขา(บริษัทจีน) ไม่ผ่าน Live Demo หลายอันมาก ทำให้เขาไม่ได้คะแนนตรงนี้”นายวัลลภกล่าว
นายวัลลภ ยังกล่าวต่อว่า ดังนั้นที่มีการบอกว่าเจ้าหน้าที่ใช้ดุลยพินิจ 70 เปอร์เซ็นต์จึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่ามีหัวข้อบอกชัดเจนว่าจะให้คะแนนในเรื่องนี้เท่าไรและเท่าไร
“เราได้ชี้แจงข้ออุทธรณ์ของทางกลุ่มบริษัทไปต่อกรมบัญชีกลางแล้ว และกรมบัญชีกลางก็เรียกทั้ง 2 ฝ่ายไปคุยกันวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทางกรมบัญชีกลางก็ได้ถามในประเด็นที่ทางบริษัทสงสัยแล้วให้กฟภ.เป็นคนชี้แจง กรมบัญชีกลางก็เป็นคนนั่งฟัง ปรากฏว่าทางกลุ่มบริษัท IAM Consortium ก็เตรียมตัวมาไม่ดี พอเราชี้แจงไปเขาก็ไม่เข้าใจ ทางเราก็ส่งเอกสารเพิ่มเติมไปอีก แต่ทางกรมบัญชีกลางเขาเข้าใจข้อชี้แจงเราตรงนี้แล้ว”นายวัลลภกล่าว
นายวัลลภ กล่าวอีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ทาง กฟภ.ไม่สามารถที่จะเปิดเผยในสิ่งที่ทางกลุ่มบริษัทจีนได้เสนอมาแล้วไม่ผ่านการพิจารณาได้ เพราะมีประเด็นเรื่องของความลับและความได้เปรียบเสียเปรียบทางการค้าในอนาคตเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งทางด้านของ กฟภ.ก็ได้ชี้แจงให้กรมบัญชีกลางได้เข้าใจครบถ้วนแล้วในฐานะที่กรมบัญชีกลางเป็นหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องโดยตรง"
นายวัลลภ กิตติวิวัฒน์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (กฟภ.)ด้านการปฏิบัติการและบำรุงรักษา
อ่านประกอบ:
หวั่นมีธงกีดกันสินค้าจีน! 2 บ.ร้อง'อนุพงษ์-กฟภ.'สอบประมูลระบบศูนย์สั่งจ่ายไฟ1.2 พันล.
กรมบัญชีกลางเรียกตัวแทน3ฝ่ายให้ข้อมูล! ปม 2 บ.ร้องสอบซื้อระบบศูนย์สั่งจ่ายไฟ 1.2 พันล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/