"...ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า บริษัท ทราโฟพาร์ท จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงแบบระบายความร้อนด้วยน้ำมัน ภายใต้แบรนด์สินค้าของ บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด แต่เพียงผู้เดียว เพิ่งได้รับงานจัดซื้อหม้อแปลง จำนวน 2 รายการ จาก กฟภ. หลังจากที่ บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด และนายประภาส จันทรังษี จะถูกแจ้งเวียนเป็นผู้ทิ้งงาน แค่เพียง 1 วันเท่านั้น ..."
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เคยนำเสนอข่าวได้รับการร้องเรียนจากแหล่งข่าวในการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เกี่ยวกับปัญหาความล่าช้าในการแจ้งเวียนรายชื่อ บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด และกรรมการผู้จัดการ คู่สัญญาซื้อขายหม้อแปลงชนิดคอนเวนชันนัล 3 เฟส 4 สาย 24 กิโลโวลต์ 500 กิโลโวลต์แอมแปร์ จำนวน 201 ชุด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 119,997,000 บาท กับ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา ตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน 2563 ให้เป็นผู้ทิ้งงานตามขั้นตอนของกรมบัญชีกลาง ซึ่งมีความล่าช้ามาเป็นเวลากว่า 1ปีเศษ
ขณะที่ นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง ในขณะนั้น ให้สัมภาษณ์ชี้แจงสำนักข่าวอิศราว่า กรณีนี้ได้มีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา มติที่ประชุมเห็นว่า บริษัทฯ ฟ้องร้อง กฟน. ต่อศาลปกครองกลางอยู่ ต่อมาผู้ฟ้องคดีถอนคำฟ้อง ที่ประชุมจึงมอบให้ฝ่ายเลขาฯ สอบถามเพิ่มเติมว่ามีการฟ้องต่อศาลแพ่งหรือไม่ และให้นำเสนอเรื่องที่ประชุมในคราวต่อไป
เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา กระทรวงการคลัง ได้ออกหนังสือลงวันที่ 19 สิงหาคม 2564 แจ้งเวียน รายชื่อ บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด และนายประภาส จันทรังษี กรรมการผู้จัดการ เป็นผู้ทิ้งงานเป็นทางการแล้ว (ดูเอกสารประกอบ)
อย่างไรก็ดี แม้ว่า บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด และนายประภาส จันทรังษี จะถูกแจ้งเวียนเป็นผู้ทิ้งงานไปแล้ว
แต่ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า บริษัท ทราโฟพาร์ท จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงแบบระบายความร้อนด้วยน้ำมัน ภายใต้แบรนด์สินค้าของ บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด แต่เพียงผู้เดียว เพิ่งได้รับงานจัดซื้อหม้อแปลง จำนวน 2 รายการ จาก กฟภ. หลังจากที่ บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด และนายประภาส จันทรังษี จะถูกแจ้งเวียนเป็นผู้ทิ้งงาน แค่เพียง 1 วันเท่านั้น
โดยสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กฟภ. ได้ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างวัสดุอุปกรณ์กับ บริษัท ทราโฟพาร์ท จำกัด ด้วยวิธีการเฉพาะเจาะจง มาโดยตลอด รวมมูลค่างานที่ได้รับไปกว่าร้อยล้านบาท
ขณะที่เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2564 หลังกระทรวงการคลังการออกหนังสือแจ้งเวียน ให้บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด เป็นผู้ทิ้งงาน ตามหนังสือลงวันที่ 19 สิงหาคม 2564 เพียง 1 วัน
กฟภ.ได้อนุมัติจัดซื้อหม้อแปลงจำนวน 2 รายการ จากบริษัท ทราโฟพาร์ท จำกัด รวมวงเงิน กว่า 4.2 แสนบาท และมีการแนบเอกสารแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสินค้าหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงแบบระบายความร้อนด้วยน้ำมัน ภายใต้แบรนด์สินค้าของ บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด แต่เพียงผู้เดียวด้วย
แหล่งข่าวจาก กฟภ. ให้ความเห็นสำนักข่าวอิศรา ว่า ไม่แน่ใจว่า การที่ บริษัท ทราโฟพาร์ท จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนขายสินค้าหม้อแปลง บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด ที่ถูกแจ้งเวียนรายชื่อเป็นผู้ทิ้งงานราชการไปแล้ว นำสินค้าของ บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด มาขายให้กับ กฟภ. ดังกล่าว จะถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายหรือไม่ เพราะไม่เคยมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้
ขณะที่ บริษัท ทราโฟพาร์ท จำกัด ก็เป็นเพียงแค่ตัวแทน ไม่ได้ถูกแจ้งเวียนรายชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานด้วยแต่อย่างใด
แหล่งข่าวจาก กฟภ. กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับเรื่องนี้ คงต้องรอฟังนโยบายจากผู้บริหาร กฟภ.อีกครั้ง ว่าจะดำเนินการอย่างไรหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อ ผู้บริหาร บริษัท ทราโฟพาร์ท จำกัด ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ 08297012XX เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้
ด้านนายนุกูล ตูพานิช อดีตรองผู้ว่าการก่อสร้างและบริหารโครงการ กฟภ. ให้สัมภาษณ์ชี้แจงทางโทรศัพท์สำนักข่าวอิศราว่า ส่วนตัวไม่ได้ดูแลและรับผิดชอบงานหม้อแปลงตรงนี้ก็เลยบอกอะไรมากไม่ได้ แต่พอจะให้ข้อมูลได้บ้างว่าเท่าที่ฟังมานั้น บริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค จำกัด ไม่ได้มีการตั้งให้บริษัท ทราโฟพาร์ท จำกัด มาเป็นตัวแทนแต่อย่างใด แต่ปรากฏว่าบริษัท ทราโฟพาร์ทนั้นมีของอยู่ในสต็อก และไปให้อีกบริษัทหนึ่งไปขาย โดยมีการเปลี่ยนชื่อผลิตภัณฑ์แต่ผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมก็มาจากของบริษัท สหภัณฑ์ อิเลคทริค
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้ติดต่อไปยังผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อของ กฟภ.ด้วยเช่นกัน แต่ผู้อำนวยการ ระบุว่า ขอให้ผู้สื่อข่าวทำหนังสือสอบถามมายัง กฟภ.เป็นทางการจะดีกว่า
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage