"...นอกจากปัญหาที่เกิดขึ้นในจังหวัดอุบลราชธานีแล้ว นายวัทธิกร ได้กระทำความผิดเชื่อมโยงมาถึงขณะดำรงตำแหน่งพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ด้วย ในการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ปีงบประมาณ 2558 จำนวน 7 โครงการ โดยดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างไม่ถูกต้องตามระเบียบและมีพฤติการณ์ที่เอื้อประโยชน์แก่ผู้รับจ้าง เช่น สั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดทำเอกสาร ปรับเปลี่ยนเอกสาร แก้ไขเพิ่มเติมเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างให้ผู้รับจ้าง ใช้วัสดุสำนักงานจัดทำเอกสารเสนองานและส่งมอบงานให้ผู้รับจ้าง..."
ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก!
กรณี นายกิตติทัศน์ วิศาลนพศักดิ์ หรือ นายวัทธิกร หรือมังกร ใสงาม อดีตพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี และพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดคดีร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ คิดเป็นมูลค่ากว่า 81 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า ก่อนหน้าที่ นายกิตติทัศน์ วิศาลนพศักดิ์ หรือ นายวัทธิกร หรือมังกร ใสงาม จะถูกชี้มูลคดีร่ำรวยผิดปกติ ในช่วงปี 2565 นายกิตติทัศน์ วิศาลนพศักดิ์ หรือ นายวัทธิกร หรือมังกร ใสงาม พร้อมพวก ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางอาญากรณีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปีงบประมาณ 2554-2557 และเอื้อประโยชน์แก่ผู้รับจ้างจำนวน 26 โครงการ ไปแล้ว โดยมีพฤติการณ์ใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ และใช้ห้างหุ้นส่วนซึ่งตนเองเป็นเจ้าของในทางพฤตินัยมาเป็นผู้รับจ้าง เป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ
โดยเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาตัดสินคดีนี้ไปแล้ว นายกิตติทัศน์ วิศาลนพศักดิ์ หรือ นายวัทธิกร หรือมังกร ใสงาม ถูกพิพากษาลงโทษจำคุกร้อยกว่าปี รับสารภาพได้ลดโทษ รวมลงโทษจำคุก 50 ปี แต่ได้รอลงอาญา รวมถึงพวกอีกหลายราย
- ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตพณ.อุบลฯ-สุรินทร์ คดีร่ำรวยผิดปกติ 81 ล.-โดนไล่ออกราชการแล้ว
- เปิดหมด! ทรัพย์สิน 81 ล. อดีตพณ.อุบลฯ โดนชี้มูลคดีร่ำรวยผิดปกติ ขอศาลยึดเป็นของแผ่นดิน
- จากอุบลฯ ถึงสุรินทร์! เปิดพฤติการณ์ทุจริต 'อดีตพณ.จว.' ก่อนโดนชี้มูลคดีร่ำรวย 81 ล.
- เบื้องหลัง 'อิศรา' เจาะข่าว คดีทุจริต 'อดีตพณ.อุบล' เอื้อปย.เครือข่ายเอกชนจัดอีเวนต์ร้อยล.
- เปิดชัดๆ ข้อมูลรอลงอาญาคุกร้อยปี สารภาพเหลือ 50 คดีทุจริตพาณิชย์อุบลฯ-เมีย 2 คน รอดด้วย
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลพบว่า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาตัดสินคดีกล่าวหา นายกิตติทัศน์ วิศาลนพศักดิ์ หรือ นายวัทธิกร หรือมังกร ใสงาม ในส่วนคดีทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ปีงบประมาณ 2558 จำนวน 7 โครงการ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 152 , 157 ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) พ.ศ.2542 มาตรา 4, 7 , 10 , 11 และ 12 และตามพ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็น ความผิดตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 172 ) ประกอบมาตรา 91 และประกอบ ป.อ.มาตรา 86 ตั้งแต่ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2565
คดีนี้ ถูกระบุว่ามีจำเลยที่ถูกตัดสินโทษ จำนวน 4 ราย คือ นางวรรณกร หรือสุภาเพ็ญ วรรณแก้ว จำเลยที่ 2, ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนกรวรรณ จำเลยที่ 4 , นางประไพพรรณ ไชยศรีษะ จำเลยที่ 5 และ นางสาวศุภลักษณ์ ปัจฉิม จำเลยที่ 6
ไม่ปรากฏข้อมูล นายกิตติทัศน์ วิศาลนพศักดิ์ หรือ นายวัทธิกร หรือมังกร ใสงาม ถูกตัดสินลงโทษคดีนี้ด้วย
โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาดังนี้
1. นางวรรณกร หรือสุภาเพ็ญ วรรณแก้ว จำเลยที่ 2, ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนกรวรรณ จำเลยที่ 4 , นางประไพพรรณ ไชยศรีษะ จำเลยที่ 5 และ นางสาวศุภลักษณ์ ปัจฉิม จำเลยที่ 6 มีความผิดตามกฏหมาย
2. ลงโทษจำคุก นางวรรณกร หรือสุภาเพ็ญ วรรณแก้ว จำเลยที่ 2 มีกำหนด 3 ปี 6 เดือน และปรับ 68,000 บาท รวม 7 กระทง เป็นจำคุก 21 ปี 42 เดือน และปรับ 476,000 บาท
3. ลงโทษปรับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนกรวรรณ จำเลยที่ 4 เป็นเงิน 68,000 บาท รวม 5 กระทง เป็น 340,000 บาท
4. ลงโทษจำคุก นางประไพพรรณ ไชยศรีษะ จำเลยที่ 5 และ นางสาวศุภลักษณ์ ปัจฉิม จำเลยที่ 6 คนละ 3 ปี 6 เดือน และปรับคนละ 68,000 บาท รวม 5 กระทง เป็นจำคุกคนละ 15 ปี 30 เดือน และปรับคนละ 340,000 บาท
5. นางวรรณกร หรือสุภาเพ็ญ วรรณแก้ว จำเลยที่ 2 ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนกรวรรณ จำเลยที่ 4 นางประไพพรรณ ไชยศรีษะ จำเลยที่ 5 และ นางสาวศุภลักษณ์ ปัจฉิม จำเลยที่ 6 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
คงลงโทษจำเลยที่ 2 จำคุก 10 ปี 27 เดือน และปรับ 238,000 บาท
คงลงโทษจำเลยที่ 4 ปรับ 170,000 บาท
คงลงโทษจำเลยที่ 5 และที่ 6 จำคุกคนละ 7 ปี 21 เดือน และปรับคนละ 170,000 บาท
สำหรับจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 5 และที่ 6 โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ 5 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยที่ 2 ที่ 5 และที่ 6 ไว้มีกำหนดคนละ 3 ปี โดยให้จำเลยทั้ง 3 ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน ต่อครั้งตลอดระยะเวลาที่คุมความประพฤติ
ให้ทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์เป็นเวลาคนละ 72 ชั่วโมง และให้ละเว้นการประพฤติใดอันอาจนำไปสู่การกระทำความผิดในทำนองเดียวกันอีก
หากจำเลยผิดเงื่อนไขให้พนักงานคุมประพฤติรายงานศาลเพื่อเปลี่ยนโทษจำคุก ที่รอไว้เป็นโทษจำคุกทันที ตาม ป.อ. มาตรา 56,57 หากจำเลยที่ 4 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ. มาตรา 29 หากจำเลยที่ 2 ที่ 5 และที่ 6 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ. มาตรา 29, 30
ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 4 พ.ย.2567 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นควรที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 กรณีรอการลงโทษจำเลยที่ 2 ที่ 5 และที่ 6 ดังกล่าวต่อไป
สำหรับนางวรรณกร หรือสุภาเพ็ญ วรรณแก้ว , ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนกรวรรณ , นางประไพพรรณ ไชยศรีษะ , และ นางสาวศุภลักษณ์ ปัจฉิม นั้น ปรากฏชื่อเป็นจำเลยในคดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปีงบประมาณ 2554-2557 และเอื้อประโยชน์แก่ผู้รับจ้างจำนวน 26 โครงการ ด้วย
โดยนางวรรณกร หรือสุภาเพ็ญ วรรณแก้ว ถูกลงโทษ จำคุก 24 ปี 48 เดือน และปรับ 544,000 บาท
ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนกรวรรณ ถูกลงโทษ ปรับ 34,000 บาท
นางประไพพรรณ ไชยศรีษะ ถูกลงโทษ จำคุก 1 ปี 9 เดือน และปรับ 34,000 บาท
นางสาวศุภลักษณ์ ปัจฉิม ถูกจำคุก 1 ปี 9 เดือน และปรับ 34,000 บาท
แต่โทษจำคุกได้รับการรอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ 5 ปี เช่นกัน
เท่ากับว่าทั้ง 2 คดี นางวรรณกร หรือสุภาเพ็ญ วรรณแก้ว นางประไพพรรณ ไชยศรีษะ และนางสาวศุภลักษณ์ ปัจฉิม ได้รับการรอการลงโทษทั้งหมด
ส่วนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ นางวรรณกร หรือสุภาเพ็ญ วรรณแก้ว นั้น สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ในสำนวนการไต่สวนคดีระบุว่า เป็นภรรยาของนายวัทธิกร ใสงาม ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒนกรวรรณ มีหุ้นส่วนผู้จัดการที่เป็นลูกน้องหรือลูกจ้างของนางสุภาเพ็ญ จากการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร พบว่า นางสุภาเพ็ญ มีบุตรกับนายวัทธิกร 1 คน
ขณะที่จากการไต่สวนคดีพบว่า นอกจากปัญหาที่เกิดขึ้นในจังหวัดอุบลราชธานีแล้ว นายวัทธิกร ได้กระทำความผิดเชื่อมโยงมาถึงขณะดำรงตำแหน่งพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ด้วย ในการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ปีงบประมาณ 2558 จำนวน 7 โครงการ โดยดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างไม่ถูกต้องตามระเบียบและมีพฤติการณ์ที่เอื้อประโยชน์แก่ผู้รับจ้าง เช่น สั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดทำเอกสาร ปรับเปลี่ยนเอกสาร แก้ไขเพิ่มเติมเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างให้ผู้รับจ้าง ใช้วัสดุสำนักงานจัดทำเอกสารเสนองานและส่งมอบงานให้ผู้รับจ้าง
ในคดีกล่าวหาทุจริตจัดซื้อจัดจ้างของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปีงบประมาณ 2554-2557 และเอื้อประโยชน์แก่ผู้รับจ้างจำนวน 26 โครงการ นายกิตติทัศน์ วิศาลนพศักดิ์ หรือ นายวัทธิกร หรือมังกร ใสงาม ถูกตัดสินลงโทษจำคุก 5 ปี 3 เดือนและปรับ 102,000 บาท รวม 26 กระทงเป็นจำคุก 130 ปี 78 เดือน และปรับ 2,652,000 บาท
ให้การรับสารภาพ ลดโทษเหลือ 65 ปี 39 เดือน และปรับ 1,326,000 บาท รวมลงโทษจำเลยที่ 1 จำคุก 50 ปี และปรับ 1,326,000 บาท
โทษจำคุกได้รับการรอลงอาญาไว้ 5 ปี เหมือนจำเลยรายอื่นๆ
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันประเทศไทย ได้ทำจดหมายเปิดผนึกเสนอความเห็นต่ออัยการสูงสุดโปรดพิจารณาใช้สิทธิอุทธรณ์โต้แย้งดุลยพินิจในการกำหนดโทษของศาลในคดีนี้โดยขอให้ลงโทษหนักขึ้นและไม่รอลงอาญา เพื่อให้เกิดการสร้างมาตรฐานการลงโทษคดีทุจริตที่สังคมยอมรับ