เผยมติ ป.ป.ช.เสียงเอกฉันท์ตีตกคดี 'อัยยณัฐ ถินอภัย' อดีตผู้ว่าฯการทางพิเศษ อนุมัติให้พนักงานเดินทางไปศึกษาดูงานเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในงานบริหารการก่อสร้างทางพิเศษประเทศญี่ปุ่น โดยบมจ.ทางด่วนกรุงเทพคู่สัญญาสัมปทานรับผิดชอบค่าใช้จ่าย หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนข้อเท็จจริงไม่ปรากฏพฤติการณ์พยานหลักฐานเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่ากระทำผิด เห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสียงเอกฉันท์ตีตกคดีกล่าวหา นายอัยยณัฐ ถินอภัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณี อนุมัติให้พนักงานเดินทางไปศึกษาดูงานเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในงานบริหารการก่อสร้างทางพิเศษ ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม 2556 ถึง 4 กันยายน 2556 ณ ประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัททางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) คู่สัญญาสัมปทานการลงทุนออกแบบก่อสร้างบริหารจัดการและบำรุงรักษาโครงการทางพิเศษสายศรีรัช - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายโครงการ โดยทุจริต
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้น พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่ากระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักงาน ป.ป.ช.ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2555 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ลงนามในสัญญาสัมปทานการลงทุนออกแบบก่อสร้างบริหารจัดการและบำรุงรักษาโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร กับบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ต่อมาบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มีหนังสือที่ บทก.204/A103.001/56 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2556 ถึงผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยแจ้งว่ามีความประสงค์จะเชิญพนักงานในสังกัดฝ่ายก่อสร้างทางพิเศษ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย จำนวน 8 - 13 คน ไปศึกษาดูงานด้านการบริหารโครงการและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้ในงานก่อสร้างทางพิเศษ ณ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม 2556 ถึงวันที่ 4 กันยายน 2556 โดยบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย และผู้ถูกกล่าวหาในฐานะผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย อนุมัติให้พนักงานจำนวน 13 คน ไปศึกษาดูงานดังกล่าวซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อมาตรฐานจริยธรรมของพนักงานและผู้บริหารของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เนื่องจากเป็นการรับผลประโยชน์จากคู่สัญญาของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ระบุว่า คณะไต่สวนเบื้องต้น พิจารณาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวนแล้ว มีความเห็นว่าการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาไม่มีมีมูลความผิดทางอาญาและไม่มีมูลความผิดทางวินัย มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป
ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 6 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนเบื้องต้น พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่า นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป