“...นี่คือข้อมูลทรัพย์สินของ พล.อ.ประยุทธ์ และนายวิษณุ เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ช่วงเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกอบข้อมูลธุรกิจของ ‘ภริยา-บุตร’ ในช่วงปี 2564 ก่อนคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร สาขาสังคมฯ คณะที่ 3 มีคำวินิจฉัยว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของทั้ง 2 รายในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบ 2 เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา...”
............................................................................
“...แม้บัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะยื่นไว้เพื่อเป็นหลักฐานก็ตามแต่จุดมุ่งหมายสำคัญที่กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินก็เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารราชการแผ่นดินตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตลอดจนเป็นการป้องกันปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบและการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม
ข้อมูลข่าวสารดังกล่าว จึงเป็นข้อมูลข่าวสารสาธารณะ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ช. มีหน้าที่โดยตรงในการเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบตามมาตรา 243(3) ประกอบมาตรา 59 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกอบประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อง หลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน พ.ศ. 2561 ข้อ 7 กำหนดว่า ภายหลังจากพ้นกำหนดระยะเวลาการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน หากมีการร้องขอเป็นหนังสือเพื่อขอตรวจดูบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ให้สำนักงาน ป.ป.ช. ที่ครอบครองดูแลเอกสารดังกล่าวจัดให้ผู้ร้องขอเข้าตรวจดูสำเนาบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ได้แต่มิให้คัดถ่ายสำเนาเอกสาร ดังนั้น ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวเปิดเผยโดยให้ผู้อุทธรณ์เข้าตรวจดูได้ตามคำร้องขอ…”
เป็นสาระสำคัญจากคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร สาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดิน และการบังคับใช้กฎหมาย คณะ 3 ครั้งที่ 12/2564 กรณีพิจารณาประเด็นการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ภายหลังสำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่ง ยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอตรวจดูบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในการดำรงตำแหน่งครั้งที่ 2 (ครม.ประยุทธ์ 2/1) แต่สำนักงาน ป.ป.ช. มิได้เปิดเผยให้ อ้างว่ากฎหมายไม่ให้อำนาจ และขัดต่อ พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 36 (อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ต้องโชว์ทรัพย์สิน‘บิ๊กตู่-วิษณุ’รอบสอง! กก.ข่าวสารฯชี้เป็นเรื่องสาธารณะ)
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เคยรายงานบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.อ.ประยุทธ์ และนายวิษณุ กรณีเข้ารับตำแหน่งใน ครม.ประยุทธ์ 1 เมื่อปี 2557 ไปแล้ว รายละเอียดดังนี้
โดย พล.อ.ประยุทธ์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2557 มีทรัพย์สินรวมคู่สมรสทั้งสิ้น 128,664,535 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 654,745 บาท
เป็นของ พล.อ.ประยุทธ์ 102,317,152 บาท (เงินฝาก 6 บัญชี 58,967,022 บาท, เงินลงทุน 9 แห่ง 23,072,380 บาท, ที่ดิน 2 แปลง 2,284,750 บาท, โรงเรือนฯ 2 ล้านบาท, ยานพาหนะ 4 คัน 11.8 ล้านบาท, ทรัพย์สินอื่นฯ 4 รายการ 4,193,000 บาท)
ส่วนนางนราพร จันทร์โอชา คู่สมรส มีทรัพย์สิน 26,347,382 บาท (เงินฝาก 6 บัญชี 7,977,382 บาท, ที่ดิน 3 แปลง (1 แปลงร่วมกรรมสิทธิ์กับผู้อื่น) 5,350,000 บาท, โรงเรือนฯ 2 ล้านบาท, ยานพาหนะ 1 คัน 3.5 ล้านบาท, ทรัพย์สินอื่นฯ 1 รายการ 7,520,000 บาท)
พล.อ.ประยุทธ์ แจ้งต่อสำนักงาน ป.ป.ช. เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี (สมัยแรก) เมื่อปี 2557 ว่า พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา (บิดา) อายุ 89 ปี มอบเงินจำนวน 540 ล้านบาทในการขายที่ดิน (จากยอดการขาย 600 ล้านบาท) ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากเป็นบุตรชาย มีสิทธิอย่างสมบูรณ์ในการดูแลเงินจำนวนนี้ ให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องของผู้รับ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้แบ่งเงินก้อนนี้ให้กับบุตรสาว 2 ราย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชาย อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม รวมถึงพี่น้องรายอื่น ๆ (นายประคัลภ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ต.ประกายเพชร จันทร์โอชา)
สำหรับบริษัทรับซื้อที่ดินของบิดา พล.อ.ประยุทธ์ วงเงิน 600 ล้านบาท คือ บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทเครือของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าสัวเครือช้าง (อ่านประกอบ : เปิดหนังสือ“ประยุทธ์”รับเงินขายที่ดินพ่อ 9 โฉนด 540 ล้าน, เผยโฉมที่ดิน"พ่อประยุทธ์"ขาย 600 ล.ให้ บ.เครือข่ายเสี่ยเจริญ-ห้ามบุกรุก, เบื้องหลังข่าวเจาะ“ประยุทธ์”ขายที่ดิน 600 ล. โยงใย 22 บ.ลับ 7 หมื่นล.“เสี่ยเจริญ”)
ขณะที่สำนักข่าวอิศราตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อปี 2564 พบว่า น.ส.ธัญญา จันทร์โอชา และ น.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา หรือพลอย-เพลิน บุตรสาว พล.อ.ประยุทธ์ ร่วมกันทำธุรกิจอย่างน้อย 1 แห่ง ได้แก่ บริษัท พอว์พอว์ อีโคเพ็ท จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2561 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 3/66 หมู่บ้าน เศรษฐสิริ ประชาชื่น ถนนประชาชื่น ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด การขายทิชชู่เปียกสำหรับสัตว์เลี้ยง
ปรากฏชื่อ นางสาววัฒนา เกษภู นางสาวธัญญา จันทร์โอชา นางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา เป็นกรรมการ
แจ้งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2562 น.ส.ธัญญา จันทร์โอชา ถือหุ้นใหญ่สุด 40% น.ส.นิฏฐา จันทร์โอชา ถือ 35% และ น.ส.วัฒนา เกษภู ถือ 25%
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 โดยมีสินทรัพย์รวม 706,925 บาท หนี้สินรวม 217,961 บาท ขาดทุนสะสม 11,036 บาท รายได้รวม 1,363,999 บาท รายจ่ายรวม 1,249,006 บาท กำไรสุทธิ 114,993 บาท
ส่วนนายวิษณุ เครืองาม แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2557 มีทรัพย์สินรวมคู่สมรส 117,947,795 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 1,100,450 บาท
เป็นของ นายวิษณุ 78,975,643 บาท (เงินฝาก 36,931,529 บาท, เงินลงทุน 13,563,313 บาท, ที่ดิน 21,450,000 บาท, โรงเรือนฯ 7,030,800 บาท)
ส่วนนางวัชราภรณ์ เครืองาม คู่สมรส มีทรัพย์สิน 38,972,152 บาท (เงินฝาก 15,305,802 บาท, เงินลงทุน 12,566,349 บาท, ที่ดิน 6.6 ล้านบาท, โรงเรือนฯ 1.5 ล้านบาท, ยานพาหนะ 3 ล้านบาท)
สำหรับนายวิษณุ เคยเป็นกรรมการบริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (ก่อนแปรสภาเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เมื่อปี 2555)
สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2564 พบว่า ปัจจุบัน นางวัชราภรณ์ เครืองาม คู่สมรสนายวิษณุ ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 1 แห่ง ได้แก่ บริษัท เล็กซ์คลูซิฟ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2555 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 211 ซอยสายสิน ถนนประชาชื่น 30 วงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย บัญชี การค้าการลงทุน
ปรากฏชื่อ นางวัชราภรณ์ เครืองาม นายสรวิชญ์ วรทัต นายกิตตินันต์ เข็มกาญจน์ นายวิชญะ เครืองาม เป็นกรรมการ
นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีสินทรัพย์รวม 47,488,114 บาท หนี้สินรวม 680,279 บาท รายได้รวม 13,906,002 บาท รายจ่ายรวม 8,860,543 บาท กำไรสุทธิ 5,045,459 บาท
ขณะที่นายวิชญะ เครืองาม บุตรชายของนายวิษณุ ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 7 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) แบ่งเป็นบริษัทมหาชนจำกัด (บมจ.) 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) บริษัท ศครินทร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)
บริษัทจำกัด 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด ทำธุรกิจศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลและโทเคนดิจิทัล บริษัท เล็กซ์คลูซิฟ จำกัด ทำธุรกิจให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย บัญชี การค้าการลงทุน และบริษัท เอส.เอ.เอส. แอดไวเซอรี พลัส (2018) จำกัด ทำธุรกิจบริการให้คำปรึกษา
นี่คือข้อมูลทรัพย์สินของ พล.อ.ประยุทธ์ และนายวิษณุ เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ช่วงเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกอบข้อมูลธุรกิจของ ‘ภริยา-บุตร’ ในช่วงปี 2564 ก่อนคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร สาขาสังคมฯ คณะที่ 3 มีคำวินิจฉัยว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของทั้ง 2 รายในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองรอบ 2 เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา
ท้ายที่สุดสำนักงาน ป.ป.ช. จะเปิดเผยหรือไม่ คงต้องรอดูกันต่อไป!
อ่านประกอบ : กาง กม.ป.ป.ช.-ตามไปดูสมบัติ ‘บิ๊กตู่-3 รองนายกฯ-3 รมต.’ ไม่ต้องยื่นทรัพย์สินรอบใหม่?
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/