ชาวบ้านร้องเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา บางบัวทอง จ.นนทบุรี แจกถุงยังชีพ ให้กรอกแบบฟอร์มเอกสารละเอียดยิบ คนในบ้าน รายได้ อาชีพ การศึกษา เก็บสำเนาบัตรประชาชน-ทะเบียนบ้าน หวั่นเอาใช้ผิดวัตถุประสงค์ ให้เดินทางไปรับนอกสถานที่หวั่นเสี่ยงโควิด ต่างจากแห่งอื่น ขณะที่รองปลัดฯ แจงทำตามระเบียบฯ ป้องกันคนสวมสิทธิ์
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการร้องเรียนกรณี การบริหารจัดการของเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา (ยกฐานะจากองค์การบริหารส่วนตำบลหรือ อบต.บางรักพัฒนา ) ในการแจกถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชน กล่าวคือ ทางเขตเทศบาลฯ แจกแบบฟอร์มในชาวบ้านกรอกข้อมูลรายละเอียดส่วนบุคคลผู้ยื่นขอ ข้อมูลของสมาชิกภายในบ้าน อาชีพ รายได้ การศึกษา ข้อมุลสิทธิ์อื่นๆ จะต้องถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน ลงนามรับรองถูกต้อง ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านรับรอง ไปยื่นให้ที่ทำการหมู่บ้าน และนัดวันให้ไปรับถุงยังชีพ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยาก สร้างภาระให้แก่ประชาชน ขัดกับนโยบายของรัฐบาลในการเลิกใช้เอกสารในการติดต่อราชการ อีกทั้งการนัดไปรวมตัวของคนจำนวนมาก เพื่อรับถุงยังชีพ สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อโรคโควิด-19 หากมีบุคคลหนึ่งบุคคลใดติดเชื้อแล้วไม่แสดงอาการ ทำให้เกิดการแพร่กระจาย ขณะที่องค์การส่วนท้องถื่นหรือหน่วยงานอื่นใช้วิธีการเดินแจกตามบ้านโดยตรง ไม่ต้องให้สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน ไม่เกิดปัญหาตามมา
ชาวบ้านเกรงว่า การนำเอกสารส่วนบุคคลไปมอบให้ผู้นำ หรือหน่วยงาน จะเกิดปัญหานำไปใช้วัตถุประสงค์อื่น เพราะในอดีต เคยมีอดีตนายก อบต. เคยนำสำเนาบัตรประชาชนของลูกบ้านไปทำเรื่อง ยกถนนในหมู่บ้านเป็นทางสาธารณะ จนเกิดปัญหามาแล้วในหมู่ 12 และ หมู่ 13
ช่วงสายวันที่ 19 พ.ค. 2563 สำนักข่าวอิศราติดต่อไปยัง ว่าที่ร้อยตรี วีรศักดิ์ ปฐมกนก ปลัดเทศบาลปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองบางรักพัฒนา ได้มอบให้ น.ส.บุญสม ถึงถิ่น รองปลัดเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา ชี้แจงแทนสรุปว่า
1.การให้เจ้าหน้าที่นำเอกสารไปแจกให้ชาวบ้านในพื้นที่ เป็นการบริการประชาชนให้เกิดความสะดวกอีกช่องทางหนึ่ง ไม่ต้องเดินทางเข้ามา เพราะตามระเบียบแล้วชาวบ้านจะต้องเดินทางมายื่นคำร้องด้วยตนเองที่สำนักงานเทศบาล
2.การจัดเก็บข้อมูล เอกสาร สำเนา บัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน เป็นไปตามระเบียบราชการ ในการบริหารงบประมาณให้เกิดความโปร่งใส หรือเกิดปัญหาการสวมสิทธิ์ เนื่องจากในเขตเทศบาลมีประชากรประมาณ 2 หมื่นคน และมีประชากรแฝงจำนวนมาก การแจงถุงยังชีพ เกี่ยวพันกับการใช้งบประมาณซึ่งทางเทศบาลต้องถูกตรวจสอบจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
3.การแจกถุงยังชีพ ดำเนินการในรูปคณะกรรมการ มีตัวแทนจากหลายภาคส่วน ตอนนี้มีผู้มายื่นคำร้องประมาณ 7,000 ราย จากทั้งหมดประมาณ 27,000 ราย แจกให้ครัวเรือนละ 1 ชุด ตามขั้นตอนจะต้องมีการกลั่นกรองว่า ใครอยู่ในข่ายเข้าเกณฑ์ได้รับสิทธิ์ อาทิ ไม่เป็นลูกจ้างหน่วยงานรัฐ ใครมีสิทธิ์ ไม่มีสิทธิ์ที่ โดยทางคณะกรรมการในเรื่องนี้จะนัดประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 22 พ.ค.นี้ และอาจเร็วกว่านี้ และเมื่อได้ข้อสรุป จะประชาสัมพันธ์ผ่านตัวแทนในพื้นที่ นัดวันแจก และการแจกก็ต้องไปตามมาตรการทางด้านสาธารณสุข เช่น การเข้าแถว การเว้นระยะห่าง เป็นต้น
“กรณีการแจกถุงยังชีพ องค์กรท้องถิ่นอื่นทำ หากเทศบาลเมืองบางรักพัฒนาไม่ทำ ก็จะถูกร้องเรียนว่าไม่ช่วยเหลือประชาชน แต่เมื่อเราทำก็ต้องให้เกิดความรอบคอบ รัดกุม โปร่งใส แม้จะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากบ้าง ขอให้เข้าใจคนทำงานด้วย” รองปลัดเทศบาลเมืองบางรักพัฒนากล่าว
ทั้งนี้ถุงยังชีพ มูลค่าชุดละประมาณ 550 บาท อาทิ ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น
หมายเหตุ : ภาพประกอบเทศบาลบางรักพัฒนาจาก https://www.bangrakpattana.go.th/home