อดทนมานานเดือดร้อนหนัก! ร้องเจ้าของพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง จ.นครปฐม ถมดินสูงกว่าบ้านชาวบ้าน ฝนตกน้ำไหลท่วมบ้านมานานหลายเดือน พ่อแม่สูงอายุมีโรคประจำตัวถึงกลับร้องไห้ แจ้งเทศบาลฯประสานเจรจาไม่มาตามนัด ด้านนายกเทศฯเผยเพิ่งคุยกันเรียบร้อยแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่บ้านในหมู่ที่ 1 ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้ความเดือดร้อนกรณีที่ดินข้างเคียง ซึ่งเป็นที่ดินของบริษัท พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย ได้ปรับถมที่ดินมีความสูงกว่าที่พื้นที่ของบ้านของผู้ร้องเรียน ทั้งนี้ ทางบ้านผู้ร้องเรียนได้แก้ไขปัญหา ด้วยการวางท่อระบายน้ำจากพื้นที่บ้านลงสู่คลองสาธารณะแล้ว เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังเนื่องจากพื้นที่บ้านต่ำกว่าถนนและที่ดินข้างเคียง ซึ่งเพียงพอที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝนหรือกรณีฝนตกหนักติดต่อกันเพราะมีพื้นที่บ้านประมาณ 2 งาน
ผู้ร้องเรียนระบุว่า ในช่วงฤดูฝนปี 2564 น้ำจากที่ดินของพิพิธภัณฑ์ฯได้ไหลเข้ามาในพื้นที่บ้าน ทำให้ได้รับความเดือดร้อน และทางมารดา ได้ปแจ้งผู้จัดการพิพิธภัณฑ์ฯทราบ และได้เข้ามาดูพื้นที่บ้าน และรับปากว่าจะแก้ปัญหาดังกล่าว เพราะทางพิพิธภัณฑ์ฯไม่ได้ทำรั้วหรือวางท่อระบายน้ำรอบพื้นที่ จนถึงเดือนมกราคม 2565 ทางผู้ร้องเรียนได้ประสานกับเจ้าของที่ดินอีกครั้ง เนื่องจากเห็นว่าเวลาผ่านมาเนิ่นนานและหมดช่วงฤดูฝนแล้ว หวังว่าจะมาเร่งดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใด ๆ
ผู้ร้องเรียนระบุว่า เมื่อผู้ร้องเรียนได้ร้องเรียนยัง เทศบาลขุนแก้ว ในพื้นที่รับผิดชอบ
ทางนายกเทศมนตรีได้แจ้งเจ้าหน้าที่เทศบาลประสานงานไปยังเจ้าของที่ดินทราบ ในวันต่อมาทางเจ้าชอง ได้นำรถแบคโฮมาขุดดินขึ้นติดกับรั้วบ้านผู้ร้อง โดยมิได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทำให้รั้วได้รับความเสียหาย ผู้ร้องเรียนจึงแจ้งร้องเรียนไปยังเทศบาลอีกครั้ง
ผู้ร้องเรียนระบุว่า ทางเทศบาลฯได้นัดหมายให้ทางเจ้าของที่ดินมาเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาที่สำนักงานพิพิธภัณฑ์ฯ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2565 แต่เจ้าของที่ดินไม่ยอมลงนามในบันทึกยอมแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2565 จนถึงกันยายน 2565 ซึ่งขณะนี้ทางบ้านได้รับความเดือดร้อนจากน้ำในพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ฯ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 ทางบ้านต้องเปิดเครื่องปั๊มน้ำอยู่ตลอด ทำให้สิ้นเปลืองค่าไฟฟ้า เสียสุขภาพกายและเกิดความเครียดทางจิตใจของคนในครอบครัวซึ่งเป็นผู้สูงอายุ เนื่องจากน้ำปริมาณมากที่ไหลเข้ามาจนเกิดน้ำท่วมขัง และต้องคอยปั๊มน้ำออก เป็นน้ำที่มิใช่การน้ำท่วมขังอันเกิดจากพื้นที่บ้านของตัวเอง เนื่องจาก แม้กระทั่งฝนหยุดตกแล้วทั้งวัน น้ำยึงไหลซึมเข้าในพื้นที่บ้านตลอดเวลา ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
“ในความพยายามจะเจรจาหาทางออกร่วมกัน ดิฉันได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว เสียเวลาต้องลางาน เสียความรู้สึก เสียทรัพย์สินเสียหาย รวมถึงค่าใช้จ่ายในการค่าไฟฟ้าที่ต้องปั๊มน้ำตลอด และความรู้สึกพ่อแม่ พ่ออายุ 87 ปี แม่อายุ 71 ปี มีโรคประจำตัว ต้องทุกข์มานาน ความยากลำบาก พ่อแม่ตอนน้ำท่วมเข้าบ้าน 2 รอบ ดิฉันต้องลางานกลับไป แม่ยืนร้องไห้อยู่หน้าบ้าน มันก็ที่สุดแล้ว”ผู้ร้องเรียนกล่าว
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่าได้ติดต่อไปยังนายสุธี ศรีเบญจโชติ เจ้าของพิพิธภัณฑ์แล้ว แต่ว่านายสุธียังไม่ได้รับสายโทรศัพท์
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราจึงได้ติดต่อไปยังนายนริด พินิจ นายกเทศมนตรีตำบลขุนแก้ว ซึ่งนายนริดกล่าวว่าเมื่อวาน (วันที่ 11 ต.ค.) มีการเจรจากันแล้ว ร่วมกับนายสุธี ปลัด ฝ่ายนิติกร และฝ่ายการช่าง ซึ่งชาวบ้านเขาก็พอรับได้ หลังจากที่มีการคุยกันมาสองถึงสามครั้งแล้ว