อดีตผู้สมัคร ส.ส.อนาคตใหม่ ร้อง ป.ป.ช. สอบ กสทช.เปิดช่อง 3 บริษัทมือถือปัดเศษค่าโทรจากวินาทีเป็นนาที ด้าน จนท.แจง เป็นทางเลือกให้ ปชช. อยากใช้เป็นนาที ย้ำทุกค่ายต้องมีโปรทางเลือกคิดเป็นวินาทีให้ ปชช.ด้วย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายปิยะชาติ อำนวยเวช อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ได้ไปยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดช่องให้บริษัทค่ายโทรศัพท์มือถือ 3 แห่ง สามารถปัดเศษค่าโทรศัพท์จากเป็นวินาทีเป็นนาทีได้ ซึ่งเป็นการดำเนินการไม่สอดคล้องกับที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)ได้มีมติไว้เมื่อปี 2558
โดยนายปิยะชาติ ได้ให้เอกสารประกอบกับสำนักข่าวอิศรา เป็นมติที่เกี่ยวข้องจำนวน 2 มติด้วยกัน คือ มติที่ 10/2559 และมติที่ 1/2560 เพื่อประกอบข้อมูล
นายปิยะชาติ อำนวยเวช อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่
นายปิยะชาติ ระบุว่า มติที่ 10/2559 ที่มาจากการประชุมของสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ระบุตอนหนึ่งว่าการให้บริการบนคลื่นความถี่ 1400 MHz และ 900 MHz จะต้องคิดอัตรา ค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นวินาทีทุกรายการส่งเสริมการขาย ตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สําหรับกิจการ โทรคมนาคม ย่าน 1800 MHz (ดูเอกสารประกอบ)
นายปิยะชาติ กล่าวย้ำว่า ทุกอย่างนั้นควรจะต้องจบลงแค่นั้น เพราะมติที่ 10/2559 มีความสอดคล้องกับมติของ สปช. แต่ปรากฏว่า มีมติที่ 1/2560 ที่มีลักษณะเหมือนจะหักล้างมติที่ 10/ 2559 ซึ่งระบุว่ามีเหตุจําเป็นและมีเหตุผลอันสมควร กทค. เสียงข้างมาก (ประธาน กทค พันเอก ดร. เศรษฐพงค์ฯ กสทช. รศ. ประเสริฐฯ และ กสทช. พลเอกสุกิจฯ) จึงมี มติให้ทบทวนมติ กทค. ครั้งที่ 10/2559 จากเดิมที่ได้มีการกําหนดให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่คิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงในหน่วยวินาทีเท่านั้น เป็นการกําหนดเพิ่มให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่คิดอัตราค่าบริการตามการใช้งานจริงในหน่วยวินาทีและนาที อนึ่งการทบทวนมติดังกล่าวไม่ใช่เป็นการยกเลิกมติที่ประชุมเดิมแต่อย่างใด แต่เป็นการเพิ่มเติมมติที่ประชุมให้เกิดทางเลือกเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนได้ใช้งานตามจริงทั้งหน่วยวินาทีและหน่วยนาที (ดูเอกสารประกอบ)
นายปิยะชาติ กล่าวอีกว่า การออกมติ 1/2560 นั้นถือเป็นการเอื้อให้ผู้บริการคิดค่าโทรเป็นนาทีได้ โดยจะตีความตามที่ กสทช.ได้เปิดช่องทางไว้ให้ ถือว่ามติ 1/2560นั้นเป็นเอื้อประโยชน์ให้กับทางบริษัทมือถือทั้ง 3 แห่ง และยังขัดต่อเงื่อนไขใบอนุญาตของตัว กสทช.ข้อ 8.5 ที่มอบให้กับบริษัทมือถือทั้ง 3 แห่งอีกด้วยที่ระบุว่าต้องคิดค่าโทรเป็นวินาทีเท่านั้น
นายปิยะชาติ กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ตนได้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับมติดังกล่าว ได้ไปยื่นเรื่องเพื่อให้ กสทช. ตอบข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเมื่อประมาณเดือน มิ.ย. 2563 กสทช.ได้มีคำตอบกลับมาตอนหนึ่งว่า
“ขอเรียนว่า ผู้ให้บริการจะต้องปฏิบัติตามมติ กทค. ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ มติ กทค. ครั้งที่ 10/2559 และมติ กทค. ครั้งที่ 1/2560 ทั้งนี้ มติ กทค. ครั้งที่ 1/2560 เป็นการเพิ่มเติมการคิดอัตราค่าบริการ ตามการใช้งานจริงในหน่วยวินาทีและนาทีจากที่เคยได้มีมติ กทค. ครั้งที่ 10/2559 ไปแล้ว เพื่อให้เกิด ทางเลือกที่จะก่อประโยชน์สูงสุดกับประชาชนได้ใช้งานตามจริงทั้งหน่วยวินาทีและหน่วยนาที” (ดูเอกสารประกอบ)
นายปิยะชาติ กล่าวย้ำว่า จากคำตอบดังกล่าวของ กสทช.นั้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่า กสทช.ไม่ได้ตอบตรงคำถามที่ว่า กสทช.ได้มีการดำเนินการให้ทั้ง 3 บริษัทค่ายมือถือนั้นคิดค่าโทรเป็นวินาทีหรือไม่ แต่กลับอ้างว่าเป็นการให้ทางเลือกแก่ประชาชน เลยเปิดช่องทำให้บริษัทค่ายมือถือนั้นดำเนินการคิดค่าโทรเป็นนาทีได้ผ่านการปัดเศษที่มีในโปรโมชันต่าง ๆ ดังนั้น จึงได้มีการนำเรื่องไปร้องต่อกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) และเมื่อประมาณเดือน ก.พ. 2564 ทาง ปปป. ก็ได้มีการยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อไปแล้ว นอกจากนี้ ยัง มีการไปร้องต่อคณะกรมการตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เพื่อให้ดำเนินการกับทั้ง 3 บริษัทด้วยเช่นกัน (ดูเอกสารประกอบ)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ติดต่อไปยังนายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการ กสทช.สายงานโทรคมนาคมเพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว และต่อมาไม่นานมีเจ้าหน้าที่ กสทช.ได้ติดต่อกลับมายังสำนักข่าวอิศราเพื่อชี้แจงข้อมูล ระบุว่า ที่ผ่านมานั้นมีหนังสือจากทาง ป.ป.ช.ส่งมายัง กสทช.เพื่อเชิญไปให้ถ้อยคำแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้ไป ต้องเลื่อนไปก่อนเพราะเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ที่มีส่วนในการนัดหมายนั้นต้องกักตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้น จึงยังไม่ได้มีการนัดหมายใหม่
เมื่อถามถึงประเด็นที่ต้องไปหาชี้แจงกับ ป.ป.ช. ทางเจ้าหน้าที่ กสทช.กล่าวว่า "จะมีในเรื่องของกระบวนการร้องเรียน ประกาศรองรับและมติที่ กสทช.ได้ใช้วินิจฉัยในช่วงเวลาที่ผ่านมา"
เมื่อถามถึงหนังสือตอบกลับของ กสทช.ต่อนายปิยะชาติเมื่อช่วงเดือน มิ.ย. 2563 ที่ทำให้นายปิยะชาติ กล่าวหาว่าคำตอบของ กสทช.นั้นเป็นการเอื้อทำให้ 3 บริษัทสามารถคิดค่าโทรเป็นนาทีได้ จนนำไปสู่การร้องถึง ป.ป.ช.
เจ้าหน้าที่ กสทช. กล่าวว่า "กรณีที่ทางสำนักงานนั้นมีการประชุมเพื่อให้ความเห็น และให้บริษัทออกโปรโมชันให้เป็นการคิดค่าโทรเป็นวินาทีและค่าบริการเป็นนาทีดังกล่าวนั้นก็เป็นการเอื้ออำนวยให้ทางประชาชนตามที่ได้เคยเรียนให้กับนายปิยะชาติไปแล้ว เพราะประชาชนที่อยากใช้บริการเป็นวินาทีก็มี และเป็นนาทีก็มี โปรโมชันพวกนี้นั้นเรามีแบ่งอยู่แล้วว่า ถ้าผู้ใช้งานอยากจะใช้โปรนาที เขาก็ไปสมัครโปรนาที ถ้าอยากจะใช้โปรวินาที ก็มีให้เลือกเช่นกัน"
“ถ้าหากไม่พอใจในการถูกคิดเป็นนาที แบบถูกปัดเศษ ก็สามารถใช้เป็นวินาทีได้ แล้วในกรณีที่บริษัทได้ดำเนินการตามมติให้คิดค่าโทรเป็นวินาทีและนาทีได้นั้นถือว่าเป็นมติครั้งแรก ซึ่งในตอนนั้นทางบริษัทดีแทคไตรเนทเขายังไม่ได้รับใบอนุญาตตัวดีแทคไตรเนท ภายหลังพอเขาได้รับใบอนุญาตมันก็เป็นมติรอบที่ 2 แล้วที่ระบุว่าให้ผู้ประกอบการนั้นตั้งโปรโมชันมา ซึ่งสามารถคิดค่าโทรเป็นวินาทีและนาทีเพื่อเป็นทางเลือกกับประชาชน"
"ประเด็นคือว่าเนื่องจากบริษัทดีแทคนั้นเพิ่งจะได้รับใบอนุญาตตอนมีมติตัวที่ 2 ออกมา เขาก็เลยทำตามแค่มติตัวที่ 2 ที่บอกว่าให้ออกโปรโมชันคิดค่าโทรได้ทั้งนาทีและเป็นวินาทีเพื่อเป็นทางเลือกแก่ประชาชน” เจ้าหน้าที่ กสทช.กล่าว
เมื่อถามย้ำว่าหมายความว่ามติ กสทช.ที่ออกมาบังคับว่าบริษัทค่ายมือถือนั้นต้องมีโปรโมชั่นเป็นวินาทีให้เลือกและต้องคิดเป็นวินาที ไม่ปัดเศษ ใช่หรือไม่ เจ้าหน้าที่ กสทช.กล่าวว่า "ใช่ และโปรชันที่ว่าเป็นตัวเลือกให้ประชาชนแล้วด้วย"