ชาวบ้านป่าโคกตาด เพชรบูรณ์ ลุยยื่นหนังสือ ป.ป.ช. สอบจนท.รัฐ ปมข้อพิพาทออกโฉนดที่ดิน 8,000 ไร่ ชอบกม.หรือไม่ เผยผลกมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อพิพาทยังไม่สรุปใครผิดใครถูก แต่ทำหนังสือแจ้ง รมว.มท. ชี้แจงประเด็นที่ขาดตกบกพร่องเพิ่มเติมแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณีได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่สาธารณประโยชน์ป่าโคกตาด ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ว่า กำลังถูกขับไล่ออกจากพื้นที่โดยไม่ได้รับความเป็นธรรม และเมื่อไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เนื่องจากเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และศาลปกครองพิษณุโลกมีคำพิพากษาให้อำเภอเมืองเพชรบูรณ์และองค์การบริหารส่วนตำบลป่าเลา ดำเนินการกับผู้บุกรุกพื้นที่สาธารณะประโยชน์ป่าโคกตาด ให้ออกจากพื้นที่และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ แล้ว
(อ่านประกอบ : ใครผิดใครถูก? ข้อพิพาทที่ดินสาธารณประโยชน์ รัฐขับไล่ชาวบ้านบุกรุกป่าโคกตาด 1.9 พันไร่)
ล่าสุด นางสุรภา เมฆอรุณ ตัวแทนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่สาธารณประโยชน์ป่าโคกตาด ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2563 ตนและชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) เพื่อขอให้มีการตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินมากกว่า 8,000 ไร่ ว่า ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากพื้นที่ 8,000 ไร่ ที่มีการออกโฉนดอยู่ในเขตพื้นที่ที่ขึ้นทะเบียนเป็นที่ดินสาธารณะซึ่งครอบคลุมอาณาเขตกว่า 10,000 ไร่ แต่กลับมีการออกโฉนดไปถึง 8,000 ไร่ ขณะที่ผู้บริหารท้องถิ่น อบต. ป่าเลา ก็เคยยอมรับกับชาวบ้านว่า พื้นที่ดังกล่าว จากทั้งหมดหมื่นไร่ มีการออกโฉนดไปแล้ว 8 พันกว่าไร่ ดังนั้น ในบริเวณดังกล่าว ยังเหลือพื้นที่อยู่อีกหนึ่งพันกว่าไร่ที่ยังไม่มีการออกโฉนด
“เราต้องการจะชี้ให้เห็นว่าที่ของหลวงหมื่นไร่ หายไปไหน 8 พันไร่ แล้วทำไมถึงได้มาจับชาวบ้านที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพื้นที่ในส่วนหมื่นไร่นี้ ประเด็นในหนังสือ ก็จะมีการระบุถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน รวมถึงหน่วยงานของ อบต. ป่าเลาและอบต.นางั่ว ว่าทำอย่างถูกต้องหรือไม่”
เมื่อสอบถามถึงความคืบหน้า ภายหลังจากคณะกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศของสภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่รับฟังประเด็นปัญหา นางสุรภาตอบว่า ทาง กมธ. ยังไม่สรุปว่าใครผิดใครถูกนางสุรภากล่าวด้วยว่า ในการลงพื้นที่ดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จังหวัดและ อบต. ไม่ได้พาคณะ กมธ. ไปดูพื้นที่ซึ่งเป็นที่สาธารณะเลย แต่กลับพาไปดูบ้านชาวบ้าน และไปดูบริเวณหลักรั้วที่มีการทำรังวัดขึ้นมาใหม่
“หน่วยงานทางจังหวัด ไม่ได้นำคณะ กมธ ไปดูที่สาธารณะเลย พาไปดูแค่หลักรั้วที่เขารังวัดขึ้นมาใหม่ แม้จะบอก อบต.แล้ว แต่ อบต.ก็ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นำคณะ กมธ.ไปดูแค่หลักรั้วที่เขาทำการรังวัดใหม่ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ และพาไปดูบ้านบางหลังรวมทั้งกล่าวหาว่าเป็นรีสอร์ท เป็นนายทุน แต่การพูดคุยหารือก็เป็นไปด้วยดี” นางสุรภาระบุ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต. สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองประธานคณะกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศของสภาผู้แทนราษฎร เคยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา ว่า กมธ.ได้ลงพื้นที่ ณ บริเวณที่มีกรณีพิพาทและได้พบกับกลุ่มชาวบ้านที่ร้องเรียน มานำเสนอข้อมูลจากภาพถ่ายทางอากาศ จากกรมแผนที่ทหารซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าแผนที่ดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นถึง การคำนวณ การคาดการณ์ หรือการใช้พื้นที่ผิดพลาดของเจ้าหน้าที่รัฐในพิกัดตาม นสล.ที่ พช.159 โดยทาง กมธ.ก็รับฟัง และไปดูยังจุดพิพาท และมีการเชิญหน่วยงาน ผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลมากกว่าสิบหน่วยงาน แต่ผลการประชุมยังไม่มีการสรุป โดย กมธ.จะนำการพูดคุยจากทั้งสองฝ่ายไปพูดคุยในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป รวมทั้งจะมีการเรียกเจ้าหน้าที่ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เช่นทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้อธิบาย ชี้แจงในประเด็นที่ยังขาดตกบกพร่อง
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage