"...โดยในส่วนรัฐมนตรีหน้าใหม่ 2 คน ที่อาจเข้ามาเติมเต็ม คอยซัพพอร์ตด้านเศรษฐกิจตอนนี้ เช่น ‘พิชัย ชุณหวชิร’ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (เศรษฐา ทวีสิน) และประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่อาจจะเข้ามารับหน้าที่ รมว.คลัง แทน ‘เศรษฐา’ คอยคอนโทรลเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต..."
ผ่านเทศกาลสงกรานต์มาไม่กี่วัน แต่ปรากฏบรรยากาศ ‘นักเลือกตั้ง’ กำลัง ‘วิ่งเต้น’ กันหัวหมุน แก้เกมการ ‘ปรับ ครม.’ ที่กำลังฝุ่นตลบ และยังไม่ลงตัว
โดยเฉพาะในช่วง 2-3 สัปดาห์ ตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. มีกระแสข่าวถูกปล่อยออกมาเรื่อย ๆ แต่เมื่อผสมรวมกันหลายแหล่งแล้ว มีเป้าชัดหมัดตรงไปยัง 2 กระทรวงใหญ่คือ กระทรวงกลาโหม ที่มี ‘บิ๊กทิน’ สุทิน คลังแสง นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี และกระทรวงสาธารณสุข ที่มี ‘หมอชลน่าน ศรีแก้ว’ เป็นเบอร์ 1
@ ชลน่าน ศรีแก้ว
@ สุทิน คลังแสง
ว่ากันว่าทั้ง ‘บิ๊กทิน-หมอชลน่าน’ ถูก ‘คนหลังบ้าน’ แทงข้างหลังหลายเรื่องด้วยกัน มีการชงข้อมูลถึง ‘ตึกไทยคู่ฟ้า’ และบางเรื่องเพ็ดทูลถึง ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ เลยทีเดียว ทำให้เก้าอี้ของทั้ง 2 คน ค่อนข้างสั่นคลอนเป็นอย่างมาก
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในช่วงจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง 2566 ‘หมอชลน่าน’ ที่สวมหัวโขนหัวหน้าพรรคเพื่อไทยขณะนั้น มีบทบาทอย่างมากในการ ‘รับหน้า’ แทน ‘นายใหญ่’ สกัด ‘ก้าวไกล’ ไม่ให้มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ
ส่งผลให้เกิดสูตร ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ อย่างที่เห็นและเป็นอยู่
ส่วน ‘สุทิน คลังแสง’ อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม (วิปฝ่ายค้าน) มีบทบาทอย่างมากในสภาฯชุดที่แล้ว ทำให้ได้รับความนิยมจากประชาชน โดยเฉพาะ ‘ด้อมแดง’ ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยกวาดเก้าอี้ สส.มาเป็นอันดับ 2
ทำให้ในช่วงจัดตั้งรัฐบาลใหม่เมื่อกลางปี 2566 ‘เพื่อไทย’ ปูนบำเหน็จรางวัลให้ทั้ง 2 คน นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ในลักษณะ ‘ต่างตอบแทน’ ผลงานที่ดำเนินการตั้งแต่ช่วงรัฐบาลที่แล้วจนถึงการเลือกตั้ง 2566 แต่ต้องไม่ลืมว่าทั้ง 2 คน แทบไม่มี ‘แบ็คอัพ’ คอยหนุนหลัง เซตเกม หรือแม้แต่ ‘สายตรง’ เข้านอกออกใน ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ แม้แต่น้อย
ทำให้การนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีครั้งนี้ขาค่อนข้างลอย สุ่มเสี่ยงจะถูก ‘ปลดฟ้าผ่า’ ตอนไหนก็ได้ ทั้ง 2 คนก็รู้ตัวดี แม้ในช่วงหลังจะออกอาการ ‘ตัดพ้อ’ แต่ต้องยอมรับชะตากรรมดังกล่าว
แตกต่างจากรัฐมนตรีคนอื่น ๆ ที่มี ‘นาย’ คอยแบ็คอัพเซตเกมอยู่หลังม่าน ทำให้กระแสข่าวปรับ ครม.ในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เริ่มมีความเคลื่อนไหวจากบรรดา ‘ซุ้ม-ก๊ก’ ต่าง ๆ ใน ‘เครือข่ายสีแดง’ วิ่งเข้านอกออกในเข้าพบ ‘นายใหญ่’ ในช่วงเดินสายหลายคน บางคนปรากฏตัว ‘เคียงข้าง’ บางคนถึงขั้นนั่งอยู่ร่วมโต๊ะรับประทานอาหารด้วย
โดยในส่วนรัฐมนตรีหน้าใหม่ 2 คน ที่อาจเข้ามาเติมเต็ม คอยซัพพอร์ตด้านเศรษฐกิจตอนนี้ เช่น ‘พิชัย ชุณหวชิร’ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (เศรษฐา ทวีสิน) และประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่อาจจะเข้ามารับหน้าที่ รมว.คลัง แทน ‘เศรษฐา’ คอยคอนโทรลเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต
เพราะเขาคือนักธุรกิจการเมืองชื่อดัง และมีบทบาทสำคัญในด้านการเป็นบอร์ดคุมรัฐวิสาหกิจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ตำแหน่ง นอกจากนี้ในช่วง ‘คดีจำนำข้าว’ ยังคุกรุ่น เขาถูก ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ นายกฯขณะนั้น ยื่นชื่อเขาเป็น ‘พยานปากสำคัญ’ เพื่อต่อสู้คดีด้วย
@ พิชัย ชุณหวชิร
อีกคนคือ ‘เผ่าภูมิ โรจนสกุล’ เลขานุการ รมว.คลัง หนึ่งใน ‘กลุ่มยังบลัด’ ในพรรคเพื่อไทย เด็กในคาถา ‘เสี่ยอ้วน’ ภูมิธรรม เวชยชัย อาจมีโอกาสได้นั่งเก้าอี้ รมช.คลัง แทน ‘กฤษฎา จีนะวิจารณะ’ ตัวแทนจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ยังไม่มีบทบาทมากพอในการขับเคลื่อนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งล่าช้ามาหลายเดือน
นั่นหมายความว่า หากการเปลี่ยนรัฐมนตรีในกระทรวงการคลังเกิดขึ้นตามนี้ จะทำให้ ‘เพื่อไทย’ คุม ‘คลัง’ อย่างเบ็ดเสร็จทุกเก้าอี้
ส่วนบรรดารัฐมนตรีเดิมที่อาจมีการสลับเก้าอี้ หรือส่อหลุด เริ่มกันที่ ‘กลุ่มวังบัวบาน’ นำโดย ‘เจ๊แดง’ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ที่ได้รับบทบาทให้มาคุม ‘นักเลือกตั้ง’ ครั้งนี้ หลังพ้นบ่วงคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ภาค 2
ว่ากันว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีคนในซุ้มนี้อย่างน้อย 2 คน ปรากฏตัวที่บ้าน และรับประทานอาหารกับ ‘นายใหญ่’ คือ เกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย และไชยพา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งแทบไม่มีผลงานในกระทรวง โดยอ้างว่าถูกเจ้ากระทรวงริบงานไปทำเบ็ดเสร็จ
ส่วนสาย ‘น้องปู’ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำโดย ‘เจ๊แจ๋น’ พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีข่าวเล็ดรอดมาว่า ‘เสี่ยนิด’ เศรษฐา ทวีสิน ไม่ค่อยชอบสไตล์การทำงาน แต่ยังมี ‘นารีขี่ม้าขาว’ คอยประคับประคอง แต่ต้องรอวัดพลังกับ ‘พิชิต ชื่นบาน’ มือกฎหมาย ผู้ได้รับความไว้วางใจอย่างมากจากคนตระกูลชินวัตร ที่กำลังถูกผลักดันให้เข้ามารับตำแหน่งนี้เช่นกัน
ขณะที่ ‘เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช’ ที่ไม่ถนัดงาน รมว.วัฒนธรรม จนมีข่าวปล่อยมาว่า เตรียมสลับไปนั่งเก้าอี้ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา แทน ‘สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล’ ลูกสาวสุดรัก ‘เสี่ยแป้งมัน’ วีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ที่แม้จะเป็นนายทุนใหญ่ในพรรคคอยเป็นแบ็คอัพ แต่อาจไม่เพียงพอ เพราะรัฐบาลต้องการคนที่มีประสบการณ์สูง มาขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่กำลังแย่ในตอนนี้
ตัดภาพมาที่พรรคร่วมรัฐบาล มีความเคลื่อนไหวในการปรับ ครม.อีกอย่างน้อย 2 พรรคคือ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มีความพยายาม ‘ยึดกระทรวงเกษตรฯ’ โดยก่อนหน้านี้ ‘ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า’ อยากผลักดันมือขวา ไผ่ ลิกค์’ สส.บ้านใหญ่กำแพงเพชร ให้นั่งเก้าอี้ รมช.พาณิชย์ แต่ถูกสกัดขา เนื่องจากหลายหน่วยงานเห็นว่า ‘ขาดคุณสมบัติ’ แม้จะมีความพยายามร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยกรณีดังกล่าว แต่ศาลมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้องนี้ เนื่องจากเห็นว่า การทูลเกล้าฯชื่อรัฐมนตรี เป็นอำนาจหน้าที่ของ ‘นายกฯ’
ดังนั้นจึงมีความพยายามหมายมั่นปั้นมือให้ ‘ไผ่ ลิกค์’ กลับมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีอีกครั้ง โดยคราวนี้จะอยู่ในตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้มาทำงานเคียงข้างกัน แต่หากพลาดหวังอาจดันชื่อ ‘อรรถกร ศิริลัทธยากร’ สส.ฉะเชิงเทรา โฆษก พปชร. มาเป็นรัฐมนตรีแทน โดย ‘ผู้กองธรรมนัส-ไผ่’ ให้การสนับสนุน
นอกจากนี้ยังมีความพยายามผลักดัน ‘ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์’ บ้านใหญ่สิงห์บุรี เด็กในคาถา ‘พี่ใหญ่’ พปชร. ให้กลับเข้ามานั่งเก้าอี้ รมช.เกษตรฯ เช่นกัน
@ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มีกระแสข่าวว่า ‘กฤษฎา’ รมช.คลัง รวมถึง ‘เสี่ยแฮงค์’ อนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรฯ ที่มีปัญหาเกาเหลากับเจ้ากระทรวง อาจถูกปรับออก แต่ที่เซอร์ไพรส์คืออาจมีชื่อ ‘สุชาติ ชมกลิ่น’ กลับเข้าไปนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีอีกครั้ง แต่ยังมิได้กำหนดกระทรวง นอกจากนี้อาจมีโควตาของ ‘กลุ่ม สส.ใต้’ ที่มีผลงานน่าประทับใจในการเลือกตั้ง 2566 ที่ผ่านมาอีก 1 ตำแหน่งด้วย
ทั้งหมดคือความเคลื่อนไหวจาก ‘นักเลือกตั้ง’ ที่พยายามวิ่งเต้นประคับประคองโควตากลุ่มตัวเอง เพื่อวางตัวคนเข้าไปกุมบังเหียนบริหารประเทศ ขับเคลื่อนนโยบายเพื่อหวังชนะใจประชาชนอีกครั้ง
สุดท้ายจะสำเร็จเห็นผลเป็นรูปธรรมหรือไม่ ต้องติดตาม!