"...ความเคลื่อนไหวของแกนนำพรรคส้ม เริ่มทยอยหา ‘ยานพาหนะใหม่’ เพื่อพาลูกทีมขับเคลื่อนเส้นทางการเมืองต่อแล้ว โดยคาดว่าพรรคใหม่ดังกล่าว คือพรรคขนาดเล็ก ที่เป็น ‘พรรคร่วมฝ่ายค้าน’ ในปัจจุบัน โดยเตรียมชื่อไว้แล้วว่า ‘พรรคก้าวใหม่’..."
จบลงแล้วสำหรับศึกอภิปรายทั่วไปของ สว.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 เป็นไปอย่างจืดชืด-เงียบเหงา ถัดมาถึงคิว ‘พรรคร่วมฝ่ายค้าน’ ลุยซักฟอกรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในลักษณะ ‘ให้ข้อแนะนำ-ติติงนโยบาย’ ในวันที่ 3-5 เม.ย.ที่จะถึงนี้
นอกเกมในสภาฯแล้ว สิ่งที่น่าสนใจคือความเคลื่อนไหวของ ‘ก้าวไกล’ ในฐานะพรรคที่ สส.ลำดับ 1 สภาฯ แต่กลายเป็น ‘แกนนำฝ่ายค้าน’ ปัจจุบันเริ่มมีการส่งสัญญาณ ‘ยุบพรรค’ กรณีกล่าวหาว่าล้มล้างการปกครอง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพิ่งส่งเอกสารประกอบเพิ่มเติมให้ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องดังกล่าวหรือไม่ไปแล้ว
สัญญาณดังกล่าวเริ่มทยอยชัดขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้จากท่าทีของ ‘บิ๊กเนมสีส้ม’ เริ่มจาก ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ประธานคณะก้าวหน้า ปลอบใจในวันประชุม สส.ก้าวไกล ว่า พรรคค่อนข้างน่าจะถูกยุบแน่ ขอให้กรรมการบริหารพรรคที่เหลือย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ เพื่อประคับประคอง สส.ในพรรคต่อไป
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของแกนนำพรรคส้ม เริ่มทยอยหา ‘ยานพาหนะใหม่’ เพื่อพาลูกทีมขับเคลื่อนเส้นทางการเมืองต่อแล้ว โดยคาดว่าพรรคใหม่ดังกล่าว คือพรรคขนาดเล็ก ที่เป็น ‘พรรคร่วมฝ่ายค้าน’ ในปัจจุบัน โดยเตรียมชื่อไว้แล้วว่า ‘พรรคก้าวใหม่’
สุดท้ายหากเกิดการยุบพรรคก้าวไกลขึ้นจริง พรรคสำรองก็เตรียมห้องหับไว้พร้อมสรรพเพื่อลุยงานการเมืองต่อ เผลอ ๆ อาจมีการ ‘รีแบรนด์ดิ้งพรรค’ สลัดภาพ ‘พรรคล้มล้างการปกครอง’ ออกไป ใช้วิธีการแบบใหม่ในการรณรงค์ ‘ปักธงความคิด’ หวังสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่าง ‘ค่อยเป็นค่อยไป’ ป้องกันการถูกยุบพรรคซ้ำเป็นครั้งที่ 3 ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่า บทบาทของ ‘พรรคส้ม’ หากโดนยุบพรรคจริง อาจเงียบหายไปสักพัก ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
แต่ถ้าพรรครอดถูกยุบอย่างปาฏิหาริย์ แน่นอนว่าการปรับโครงสร้างพรรคที่จะเกิดขึ้นในเดือน เม.ย.นี้ จะมีการวางคนเพื่อบริหารแบบ ‘จัดเต็ม’ คาดว่าจะเชิญ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ คัมแบ็กมานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคอย่างแน่นอน เพื่อเตรียมสู้ศึกทางการเมืองต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการซักฟอกรัฐบาลแบบลงมติ และการส่งคนชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ต้นปี 2568
@ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
โดยฉากทัศน์ทางการเมืองใหม่ของ ‘ก้าวไกล’ นี้ สอดรับไปกับความเคลื่อนไหวของ ‘คณะก้าวหน้า’ ที่นำโดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เดิมคณะก้าวหน้า ถูกแบ่งงานให้ลุยเรื่อง ‘ท้องถิ่น’ แต่ปัจจุบัน ‘ก้าวไกล’ รับงานดังกล่าวมาดำเนินการเอง โดยเตรียมส่งคนชิงเก้าอี้นายก อบจ. ต้นปี 2568 โดยเบนเข็ม ‘คณะก้าวหน้า’ ไปจัดเตรียมบุคลากรลงชิงเก้าอี้ สว.ที่จะเกิดขึ้นกลางปี 2567 แทน
สำหรับ สว.ถือว่าเป็น ‘ฟันเฟือง’ ชิ้นสำคัญขับเคลื่อนงานการเมืองไทย เพราะมีบทบาทชี้ขาดการผ่านร่างกฎหมายในสภาฯ รวมถึงเป้าหมายสำคัญของ ‘พรรคส้ม’ คือการชิงธงนำแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยใช้ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้ง 100% นอกจากนี้เตรียมรื้อโครงสร้างองค์กรอิสระใหม่ทั้งหมด ยกเครื่องให้มีที่ทางยึดโยงกับประชาชน
ว่ากันว่า เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนแกนนำ ‘คณะก้าวหน้า’ ร่วมกับ ‘โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน’ (ไอลอว์) ได้นัดประชุมกันเพื่อหารือถึงการส่งคนชิงเก้าอี้ สว.ทั่วประเทศ ภายหลัง สว.สรรหา ยุค คสช.หมดอำนาจลง 10 พ.ค.นี้ เพื่อสกัด ‘ฝ่ายอำนาจเก่า’ ที่จะส่งคนชิงเก้าอี้ ‘สภาสูง’ เช่นกัน หวังรวบอำนาจกลับไปไว้ที่เดิม เบื้องต้นมีเครือข่ายนักวิชาการ-นักกฎหมาย-สื่อมวลชน เตรียมลงสมัครไว้แล้วราว 30 คน จากเป้าหมายส่งคนลงสมัครประมาณ 100 คน โดยในจำนวนนี้มีชื่อของ ‘พนัส ทัศนียานนท์’ อดีตอัยการและอดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เป็นแกนนำ
ไม่นานนัก เมื่อ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา มี ‘พนัส ทัศนียานนท์’ พร้อมด้วยกลุ่มนักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายสาขาวิชาชีพ ทั้งนักกฎหมาย อดีตแกนนำภาคประชาสังคม เกษตรกร อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโส อดีตข้าราชการ เป็นต้น รวม 29 คน เปิดตัวลงสมัคร สว. โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และรื้อโครงสร้างองค์กรอิสระ
ดังนั้น ในช่วงเวลานี้ ‘พรรคส้ม’ กำลังเผชิญหน้า 2 ศึกใหญ่ ศึกแรก มรสุมข้อกล่าวหา ‘ยุบพรรคก้าวไกล’ ที่มีการเตรียมแผนรองรับไว้เรียบร้อย อีกศึกคือการส่งคนชิงเก้าอี้ สว.สกัดขา ‘ขั้วอำนาจเก่า’ ที่ตอนนี้เปิดตัวไปแล้วราว 30 คน
ทั้ง 2 ศึกดังกล่าวต้องจับตาว่า จะลิ่วได้ชัยชนะทั้ง 2 ศึก หรืออาจแพ้ 1 ชนะ 1 หรือสุดท้ายพ่ายแพ้ร่วงทั้ง 2 ศึก
ในอนาคตอันใกล้ได้รู้ผล!
ภาพปก จาก https://www.voathai.com/