พรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์หลังถูกกระแสโจมตีปมจับมือ ‘ชาติพัฒนากล้า’ โหวต ‘พิธา’ เป็นนายกรัฐมนตรี ขอโทษ Voter ที่ทำให้ผิดหวัง ชี้แนวการทำงานไปกันไม่ได้จริง เดินหน้าหา ส.ว. โหวตช่วยต่อไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 20 พฤษภาคม 2566 การรวบรวมเสียงในที่ประชุมร่วมรัฐสภาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพื่อจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ในฐานะพรรคที่ได้รับเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 ขณะนี้รวบรวมได้แล้ว 314 เสียงประกอบด้วย
พรรคก้าวไกล 152 ที่นั่ง, พรรคเพื่อไทย 141 ที่นั่ง, พรรคประชาชาติ 9 ที่นั่ง, พรรคไทยสร้างไทย 6 ที่นั่ง, พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 ที่นั่ง, พรรคเสรีรวมไทย 1 ที่นั่ง, พรรคเป็นธรรม 1 ที่นั่ง พรรคพลังสังคมใหม่ 1 ที่นั่ง และพรรคใหม่ 1 ที่นั่ง
ต่อมา ในช่วงเย็น วันที่ 19 พ.ค. 66 มีรายงานจากสื่อหลายสำนักระบุตรงกันว่า พรรคชาติพัฒนากล้าที่ได้จำนวน ส.ส. 2 ที่นั่งจะมาร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีด้วย ทำให้เสียงของฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลเพิ่มเป็น 316 เสียง
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีกระแสข่าวออกมา สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงพรรคก้าวไกลอย่างรุนแรงในโลกทวิตเตอร์ โดยติดแฮกแทค ‘มีกรณ์ไม่มีกู’ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์เป็นอันดับ 1
ล่าสุด พรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กเมื่อเวลา 23.33 น.ของวันที่ 19 พ.ค. 66 ความว่า
สืบเนื่องจากกรณีที่พรรคก้าวไกล ได้เจรจากับพรรคชาติพัฒนากล้า เพื่อตกลงโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี และเข้าร่วมรัฐบาล
กรณีดังกล่าว ได้ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวางจากประชาชน เจ้าหน้าที่พรรค คณะทำงานจังหวัด และสมาชิกพรรค ส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่าไม่สามารถยอมรับการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคชาติพัฒนากล้าได้ นอกจากนี้ ในที่ประชุมร่วมของว่าที่ผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ก็มีมติสอดคล้องกับประชาชนว่าไม่สามารถยอมรับได้เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ กรรมการบริหารพรรค จึงน้อมรับมติดังกล่าวมาปฏิบัติ พรรคจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคชาติพัฒนากล้า และจะเดินหน้าพูดคุยและทำความเข้าใจเพื่อขอเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้ได้เสียงพอในการโหวตนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด
พรรคก้าวไกลขอน้อมรับคำวิจารณ์ทั้งหมด และกราบขออภัยประชาชน ที่ทำให้ทุกท่านผิดหวัง พรรคก้าวไกลยืนยันว่าการจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล จะทำบนพื้นฐานจุดยืนทางการเมือง นโยบายหลักของพรรคตามที่ได้เคยหาเสียงไว้ รวมถึงขอโทษพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ต้องยุติการเจรจาครั้งนี้
และสุดท้ายนี้ ขอบคุณพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่พรรค และว่าที่ผู้แทนราษฎรก้าวไกลทุกคน ที่คอยตรวจสอบ ท้วงติงการทำงานของผู้บริหารพรรค เพื่อให้พรรคยืนหยัดในจุดยืน อุดมการณ์เดิมอย่างมั่นคง
พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค