‘จุรินทร์’ เผย ‘บิ๊กตู่’ ซบ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ไม่มีปัญหากับการทำงานในรัฐบาล ส่วนจะได้ไปต่อหรือไม่ให้ประชาชนตัดสิน พร้อมเผยความพร้อมศึกเลือกตั้ง เตรียมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.อีกลอตใหญ่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 7 มกราคม 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม. ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายชนินทร์ รุ่งแสง ผู้สมัคร ส.ส. พร้อมด้วยอดีตผู้สมัคร ส.ก. และสมาชิกพรรค ไปพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนที่ศูนย์ฝึกอาชีพ กทม. วัดสุทธาวาส เขตบางกอกน้อย
โดยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงการวางตัวผู้สมัคร กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ใน 33 เขต ว่า ขณะนี้ขาด 3 เขต เพราะยังไม่ทราบว่าสุดท้ายการแบ่งเขตเพิ่มขึ้นมาอีก 3 เขตนั้นจะอยู่ตรงไหนบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอ กกต. เพราะการเลือกตั้งเที่ยวหน้า กทม. จะมี 33 เขต แต่ 30 เขต ประชาธิปัตย์มีผู้สมัครครบแล้ว
เมื่อถามว่า ประชาธิปัตย์จะมีนโยบายสำหรับกรุงเทพมหานครอย่างไรบ้าง นายจุรินทร์ กล่าวว่า คงจะเป็นนโยบายภาพรวม และอาจจะมีนโยบายเฉพาะกรุงเทพมหานครในแต่ละส่วน ซึ่งเรื่องนี้นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ จะเป็นผู้ดำเนินการต่อไป ขณะนี้ก็ได้มีการประชุมพูดคุยแล้ว และจะเปิดเผยเมื่อถึงเวลา
@เตรียมเปิดตัวส.ส.อีกลอตใหญ่
ส่วนที่ผู้สื่อข่าวระบุว่า ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ เปิดตัวในวันที่ 9 ม.ค.2566 ส.ส. ที่สังกัดพรรคต่างๆ ต้องแสดงความชัดเจนทางการเมืองภายในวันที่ 7 ม.ค. นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องการเลือกตั้งมันชัดเจนในตัวมันมานานแล้ว ถ้าจะยุบสภาก็ต้องยุบก่อนวันที่ 23 มี.ค. 2566 เพราะหลังจากนั้นยุบไม่ได้แล้ว สภาหมดวาระแล้ว อันนี้ไม่มีอะไรใหม่ ประชาธิปัตย์ก็เตรียมการมาตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้สมัคร นโยบาย ยุทธศาสตร์ในการหาเสียงเลือกตั้งก็มีพร้อมทั้งหมด เพียงแต่ยังไม่เปิดเผยทั้งหมดเพราะมันเป็นเรื่องที่ต้องรอระยะเวลาที่มีความเหมาะสมด้วย กรุงเทพมหานครผู้สมัครก็เกือบครบแล้ว ภาคอีสาน เมื่อวาน (6 ม.ค.66) ตนได้ประชุมทีมงานภาคอีสาน มีทั้งคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช นายไชยยศ จิรเมธากร และอีกหลายท่าน และได้เคาะผู้สมัครอีสานไปอีก 90 เขต ซึ่งจะได้ทยอยเปิดตัวต่อไป
“เที่ยวหน้าการเปิดตัวแต่ละภาค จะเป็นแบบล็อตใหญ่ๆ จะไม่เปิดตัวทีละ 2-3 คนแล้ว อย่างอีสานก็คงจะเปิดล็อตใหญ่ ภาคเหนือก็จะเปิดล็อตใหญ่ต่อไป กรุงเทพมหานครก็รอความเหมาะสม และเที่ยวนี้เราได้บุคลากรที่มีศักยภาพเข้ามาช่วยเยอะ นอกจากผู้สมัครในเขตนี้ คุณชนินทร์ รุ่งแสง ยังมีท่านองอาจ คล้ามไพบูลย์ มี ดร.เอ้ สุชัชวีร์ มีมาดามเดียร์ มีคุณตั๊น จิตภัสร์ มี ดร.รัชดา และใครต่อใครอีกเยอะที่จะเข้ามาช่วย ผมมั่นใจว่าเที่ยวนี้ทีมกรุงเทพฯ เราแข็ง แข็งที่จะสู้กับทุกพรรคการเมืองได้” นายจุรินทร์ กล่าว
@บิ๊กตู่ สังกัดพรรคไม่เป็นปัญหากับการทำงาน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปสังกัดพรรคการเมือง มองว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และจะได้กลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เรื่องนี้ตนตอบไม่ได้ว่าท่านจะได้กลับหรือไม่ได้กลับ แล้วมันไกลเกินกว่าที่จะไปวิเคราะห์ได้ แต่ถ้าท่านสังกัดพรรคการเมืองชัดเจน สถานภาพก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้ว
ต่อไปนี้ก็ถือว่าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหนึ่งแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคแกนนำรัฐบาลปัจจุบันก็ถือว่าเป็นคนละพรรคกัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นศัตรูกัน หรือจะเป็นปัญหาในการทำงานร่วมกันในฐานะรัฐบาล อันนั้นก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะเป็นไปตามกลไกระบบรัฐสภา และก็ต้องถือว่าท่านก็มีพรรคสังกัด จะเป็นอย่างไรนั้นเราตอบแทนไม่ได้หรอก ทั้งหมดก็ต้องอยู่ที่ว่าประชาชนจะตัดสินใจเลือกพรรคไหนมากน้อยแค่ไหนอย่างไร
เมื่อถามอีกว่า การที่ขั้วฝ่ายค้านมองว่าจะเป็นคำตอบสำหรับประเทศไทย หากขั้วรัฐบาลจะไปร่วมด้วยนั้นก็จะไม่เอา หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เป็นเรื่องของนโยบายพรรคท่าน ตนไม่ไปก้าวก่าย และไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ ตนตอบแทนพรรคร่วมไม่ได้ แต่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น ตนเคยตอบแล้ว และมีจุดยืนชัดเจนว่า เราต้องให้ประชาชนเป็นผู้ให้คำตอบก่อน ประชาชนคือคนแรกที่จะเป็นคนบอกว่ารัฐบาลชุดใหม่หน้าตาเป็นอย่างไร ใครจะเป็นฝ่ายค้าน ใครจะเป็นรัฐบาล
@ตั้น ลุยพื้นที่กทม.ฝั่งธน
ด้านนางสาวจิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะรองเลขาธิการพรรค เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ให้ดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี ซึ่งมีทั้งหมด 15 เขต โดยในการเลือกตั้งปี 2554 พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้งส.ส.ทั้งหมด ที่ผ่านมาอดีตส.ส.และ ส.ก.ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่เขตบางกอกน้อย - บางพลัด นายชนินทร์ รุ่งแสง ได้ทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผ่านทั้ง “โครงการบ้านฟ้าใส่ใจอาสา” ที่ซ่อมแซมบ้านผู้สูงอายุ “โครงการไถ่เติมสุข” ช่วยชาวบ้านในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง “โครงการถุงเติมสุขจากใจไปถึงบ้าน” โครงการตั้งบริการฉีดวัคซีนในชุมชน “บางพลัด บางกอกน้อย 100% ห่างไกลโควิด” ขณะนี้พรรคเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ทั้งด้านนโยบาย และตัวบุคคลที่จะขออาสาเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน มั่นใจว่า พรรคประชาธิปัตย์มีศักยภาพเพียงพอสำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ และจะกลับมาได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชางกรุงเทพฯอีกครั้งในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้