‘วีระกร คำประกอบ’ ฟันธงดัน ‘บิ๊กป้อม’ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ‘พรรคพลังประชารัฐ’ คู่ ‘บิ๊กตู่’ ชี้เสนอคนเดียวเสี่ยงเกินไป เพราะเป็นได้อีกแค่ 2 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 1 ตุลาคม 2565 นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า แนวทางการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งสมัยหน้า ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การนับวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นได้ถึงปี2568 นั้น
การเสนอชื่อคนเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งรอบหน้า เชื่อว่า จะเสนอรายชื่อให้ครบทั้ง 3 คน ไม่เสนอแค่คนเดียว จะเสนอชื่อทั้งพล.อ. ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อีกคนกำลังพิจารณาอยู่ เพราะทั้งพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร ต่างเป็นที่ชื่นชอบของประชาชนจำนวนมาก ต้องดึงคะแนนนิยมแต่ละคนมาช่วยทำคะแนนให้พรรค แม้จะบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีคนไม่ชอบเยอะ แต่ก็มีแฟนประจำเยอะพอสมควร ส่วนการหาเสียง ถ้าชาวบ้านถามว่า จะเสนอใครเป็นนายกฯจะบอกว่า อยู่ใน 3 คนที่เสนอชื่อมา พรรคเพื่อไทยรอบที่แล้วก็เสนอชื่อ 3 คน ก็ไม่มีใครถามจะเอาใครเป็นนายกฯ
นายวีระกร กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเมื่อถึงตอนเสนอชื่อนายกฯเพื่อโหวตในสภาฯนั้น คงต้องเสนอชื่อพล.อ.ประวิตร เพราะพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อได้แค่ 2 ปี อาจให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นรองนายกฯ หรือรมว. กลาโหม ยืนยันการเลือกตั้งรอบหน้า 3ป. ยังไปด้วยกัน เพราะพล.อ.ประยุทธ์ เล่นการเมืองไม่เป็น คนเล่นการเมืองคือ พล.อ.ประวิตรคนเดียว ส่วนพล.อ.ประยุทธ์เป็นฝ่ายบริหาร ไม่เล่นการเมือง ไม่สุงสิงกับส.ส. ปราศรัยไม่เป็น พรรครวมไทยสร้างชาติที่คิดว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะมาอยู่ด้วย คงจะแห้ว พล.อ.ประยุทธ์ไม่มาร่วมหัวจมท้ายด้วยแน่ เพราะเป็นนายกฯได้อีกแค่ 2 ปี จะมาชูพล อ.ประยุทธ์ได้อย่างไร
“สมัยหน้าเป็นรถเมล์เที่ยวสุดท้ายที่จะมีส.ว.มาช่วยสนับสนุน ดังนั้นต้องดันลุงป้อมเป็นนายกฯ ส่วนลุงตู่ไปเป็นรองนายกฯ หรือรมว.กลาโหม หรือโยกเป็นรมว.มหาดไทย ก็ได้ ถึงลุงตู่เคยเป็นนายกฯมาแล้ว จะมาเป็นรองนายกฯก็ไม่เป็นไร เพราะ3คนพี่น้องแน่นเเฟ้นกันเหนียวแน่น มองบ้านเมืองเป็นหลัก” นายวีระกรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อได้อีก 2 ปี จะมีส.ส.อยู่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐมากขึ้นหรือไม่ นายวีระกรตอบว่า มั่นใจพรรคพลังประชารัฐยังมีโอกาสสูงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเที่ยวหน้า เพราะมีส.ว.250 คน สนับสนุนการโหวต จึงมีแรงดึงดูดให้ ส.ส.อยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อไป ส่วนการปรับ ครม. ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่มีใครปรับ เพราะคนที่ไม่ได้ก็ไม่พอใจ ยังดีที่พรรคพลังประชารัฐส่วนใหญ่เป็นเด็กรุ่นใหม่ ยังไม่เขี้ยวที่จะมาบีบบังคับกดดันกัน (ที่มา: แนวหน้า)