รัฐสภาเริ่มพิจารณา ร่าง รธน.ฉบับประชาชน 'พริษฐ์' ชี้ไทยป่วยเจอไวรัส 'ระบอบประยุทธ์' แก้ รธน. 4 ประเด็น คือวัคซีนเข็มแรก ยกเลิก ส.ว. - ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ขณะที่ 'ปิยบุตร' เสนอปฏิรูปศาล รธน. – ยกเลิก ม.279 เพื่อลงโทษคนทำรัฐประหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ได้พิจารณาเรื่องด่วน ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช ... โดยจะส่งผลให้มีการยกเลิกมาตรา 65 แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 7 มาตรา 159 วรรคแรก เพิ่มมาตรา 193/1 มาตรา 193/2 แก้ไขเพิ่มเติมหมวด 11 หมวด 12 มาตรา 256 หมวด 16 ยกเลิกมาตรา 269 มาตรา 270 มาตรา 271 มาตรา 272 และมาตรา 279 ที่เสนอโดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 135,247 คน ร่วมกันลงชื่อเสนอ หรือที่เรียกว่า ร่าง รธน.ฉบับประชาชน
สำหรับกรอบการพิจารณาร่างแก้ไขร่าง รธน.มีเวลาอภิปราย 18 ชั่วโมง โดยให้ผู้เสนอร่างอภิปราย 3 ชั่วโมง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ฝ่ายรัฐบาล , ส.ส.ฝ่ายค้าน และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ฝ่ายละ 5 ชั่วโมง โดยจะอภิปรายตั้งแต่ 09.00 – 03.00 น. และลงมติวาระรับหลักการโดยการขานชื่อรายบุคคลในเวลา 10.00 น.วันที่ 17 พ.ย.
แก้ รธน.วัคซีนเข็มแรกหยุดเครื่องมือสืบทอดอำนาจ
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ แกนนำกลุ่ม Re-Solution ในฐานะผู้ร่วมเสนอร่างแก้ไข รธน. กล่าวว่า รธน.เป็นกฎกติกาสูงสุดของประเทศ การอธิบายหลักการและเหตุผลจำเป็นที่จะต้องเริ่มต้นจากการอธิบายภาพรวมปัญหาของประเทศ และสะท้อนให้เห็นว่า รธน.ฉบับปัจจุบัน เป็นอุปสรรคอย่างไร ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เรามีผู้ป่วยชื่อประเทศไทย ทุกคนอยากรักษาให้หายดี แม้ว่าผู้ป่วยจะฟื้นฟูจากโควิด แต่ยังต้องเผชิญอีก 3 โรคร้าย คือ 1.โรคเศรษฐกิจอ่อนแอ 2.โรคเหลื่อมล้ำเรื้อรัง 3.โรคประชาธิปไตยหลอกลวง ที่เป็นประชาธิปไตยเพียงแค่ในนามแต่ไม่ใช่ในทางปฏิบัติ คำถามสำคัญคือ เราจะร่วมกันรักษาผู้ป่วยคนนี้อย่างไร
ที่ผ่านมาหลายฝ่ายพยายามเสนอยามารักษา 3 โรคนี้ แต่ไม่ว่าจะเป็นยาที่ชื่อว่าปฏิรูประบบราชการ สร้างรัฐสวัสดิการ หรือ การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เสนอไปทีไร ยาเหล่านี้ก็ถูกปฏิเสธ เพราะร่างกายถูกครอบงำด้วยไวรัสตัวหนึ่งอย่างเบ็ดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ประชาชนทั่วประเทศเริ่มหันมาสังเกตว่าอาการของผู้ป่วยที่ชื่อว่าประเทศมีการทรุดหนักในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่คณะรัฐประหารได้ยึดครองอำนาจประเทศปี 2557
“หลายคนจึงสรุปว่าไวรัสนี้อาจชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แต่ผมและทีมคิดว่า สิ่งที่อันตรายกว่า พล.อ.ประยุทธ์ คือ ระบอบประยุทธ์ ไม่ใช่ตัวบุคคล แต่เป็นโครงสร้างและกลไก ที่มีการสร้างไว้ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าเกราะกายสิทธิ์ที่คุ้มครองที่ค้ำจุนให้อยู่ในอำนาจ ไม่ว่าจะบริหารประเทศจนป่วยแค่ไหน คือสิ่งที่เราเรียกว่า รธน.ฉบับ 2560 ที่เสนอให้มีการแก้ไข” นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราต้องการตอนนี้ไม่ได้ต้องการแค่ประเทศหายป่วย ผ่านการกำจัดไวรัสบางตัว สิ่งที่เราต้องการคือทำให้ประเทศแข็งแรง เดินสู่อนาคตผ่านการแก้ รธน.ที่เสมือนการฉีดวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกัน การเสนอแก้ไข รธน.ของเราเหมือนฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ของประเทศไทย เราพยายามปลดอาวุธ 4 อย่างที่ ระบอบประยุทธ์ใช้ในการสืบทอดอำนาจ
ข้อเสนอที่ 1 คือการยกเลิกวุฒิสภา ปรับเป็นระบบสภาเดียวที่มีแต่สภาผู้แทนราษฎร บันไดขั้นที่หนึ่ง คือ การยอมรับให้ตรงกันว่า วุฒิสภาที่เป็นอยู่ปัจจุบันขาดความชอบธรรมในเชิงประชาธิปไตย มีอำนาจล้นฟ้า แต่กลับมีที่มาไม่ยึดโยงกับประชาชน
ข้อเสนอที่ 2 คือการยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนปฏิรูปประเทศ และไม่ใช่ว่าเราไม่เห็นประโยชน์ในการบริหารประเทศแบบต่อเนื่องอย่างมายุทธศาสตร์ แต่การดำเนินการตามแผนนี้ เปรียบเสมือนการทำตามก็พัง ไม่ทำตามก็ผิด เนื่องจาก รธน.ฉบับ 2560 เปิดช่องให้ลงโทษรัฐบาลที่ไม่ทำตามยุทธศาสตร์ชาติ ถึงขั้นขับรัฐมนตรีออกจาตำแหน่งได้ เหมือนโซ่ตรวนล็อคคอประเทศ การยกเลิกจึงทำให้เกิดความยืดหยุ่น คืนอำนาจให้ประชาชน ตัดสินคุณภาพของนโยบายผ่านสนามเลือกตั้ง
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับร่าง รธน.ฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นมาก่อนที่จะมีการเสนอแก้ไขระบบเลือกตั้งให้มี ส.ส.เขต 400 คน และบัญชีรายชื่อ 100 คน จึงอยากให้รัฐสภาสบายใจได้ว่าไม่ได้มีเจตนาปรับระบบเลือกตั้ง ในเชิงหลักการเรายินดีที่จะแก้ไขระบบเลือกตั้งในวาระที่ 2 ในชั้นกรรมาธิการ
“ทั้ง 4 ข้อเสนอนี้เหมือนวัคซีนเข็มแรกที่จะแก้เรื่องเร่งด่วนที่สุดที่ทำให้ รธน.ฉบับ 2560 ถูกใช้เป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจของระบอบประยุทธ์ ผมอยากให้เปิดใจดูว่า เราไม่ได้โจมตีตัวบุคคล แต่ต้องการรื้อระบบที่ไม่เป็นธรรมในสังคม ไม่ต้องการทำให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบ ไม่ได้ตอบสนองฝ่ายซ้ายหรือฝ่ายขวา แต่ต้องการสร้างระบบการเมืองที่เป็นกลางกับทุกความฝัน ที่ทุกคนมี 1 สิทธิ์ 1 เสียงในการกำหนดอนาคตประเทศตัวเอง” นายพริษฐ์ กล่าว
ปฏิรูปศาล รธน. – ยกเลิก ม.279 เพื่อลงโทษคนทำรัฐประหาร
ขณะที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ร่วมเสนอร่างแก้ไข รธน.กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอที่ 3 การปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ที่ผ่านมาแม้จะอมพระมาพูดว่า ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระมีความเป็นกลาง พูดให้ตายประชาชนก็ไม่เชื่อ เพราะมีที่มาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) องค์กรเหล่านี้มีอำนาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนชี้ชะตานักการเมืองได้ ฝ่ายการเมืองอยากเข้ามาช่วงชิงองค์กรเหล่านี้ เพราะให้คุณให้โทษได้ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจึงเสนอปรับโครงสร้างศาลรัฐธรรมนูญให้มีที่มาโดยให้ ส.ส.รัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน และที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเสนอมาฝ่ายละ 6 คน รวมเป็น 18 คน ส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาคัดเลือกเหลือ 9 คน ใช้มติ 2ใน3 ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญมีความถ่วงดุล เพราะมาจากตัวแทนรัฐบาล ฝ่ายค้าน ศาลฎีกาฝ่ายละ 3 คน นอกจากนี้ให้แก้ไขเรื่องอำนาจศาลรัฐธรรมนูญให้เหลือเฉพาะพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ใดขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ การขัดแย้งระหว่างองค์กรเท่านั้น และให้ยกเลิกอำนาจการตรวจสอบเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ รวมถึงให้มีระบบถอดถอนศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระได้ แต่ไม่ใช่ให้ถอดถอนกันง่ายๆ มีกระบวนการพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ต้องกังวลว่า ส.ส.จะครอบงำศาลรัฐธรรมนูญ แต่ออกแบบให้มีการถ่วงดุล
นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า ข้อเสนอที่ 4 การล้มล้างผลพวงการรัฐประหาร โดยยกเลิกรัฐธรรมนูญ มาตรา 279 ที่รับรองคำสั่งและการกระทำของ คสช.ชอบด้วยรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่สร้างหลุมดำและความด่างพร้อยให้รัฐธรรมนูญ เราจะเขียนคุ้มครองแบบมาตรา 279 ไม่ได้ เพราะจะหมายความว่าถ้าทำรัฐประหารสำเร็จจะไม่ถูกลงโทษ ฉะนั้น ต้องยกเลิกมาตราดังกล่าว เพื่อให้การรัฐประหารเป็นโมฆะ ให้ผู้ที่ทำรัฐประหารถูกดำเนินคดี การเสนอเช่นนี้ไม่ได้คิดล้างแค้นใคร แต่เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้นายทหารกล้าทำรัฐประหารอีกต่อไป
“ประเด็นเหล่านี้ไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นการออกแบบสร้างกติกาเป็นกลาง ไม่ใช่เขียนกติกาเฉพาะคนชนะ กำราบฝ่ายแพ้ให้ราบคาบ ไม่เห็นเหตุผลที่สมาชิกรัฐสภาจะไม่เห็นชอบร่างแก้ไขฉบับประชาชน หากสมาชิกให้ความเห็นชอบวาระ 1 ความเห็นที่แตกต่างกันยังมีโอกาสปรับปรุงในวาระ 2 และถ้าผ่านวาระ 3 ไปได้ ก็ยังมีหนทางร้องศาลรัฐธรรมนูญและทำประชามติ ผมขอให้สมาชิกรัฐสภาให้ความเห็นชอบลงมติรับวาระหลักการไปก่อน เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ปิดประตูรับรับฟังร่างภาคประชาชน เพื่อให้ได้ศาลรัฐธรรมนูญที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ไม่มีการรับรองการทำรัฐประหาร จะได้ไม่มีคำวินิจฉัยของศาลแบบเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่ก่อวิกฤตการเมือง และมีองค์กรอิสระที่เป็นกลาง” นายปิยบุตร กล่าว
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage