“ความเชื่อของ สส.นนท์ว่า โมเดลของมาเก๊าคือเกณฑ์มาตรฐานของอุตสาหกรรม เผยให้เห็นถึงความเข้าใจที่ผิดๆที่มีต่อภาคส่วนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เข้าใจว่ารัฐบาลกลางของจีนกำลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการพนันของมาเก๊าไปสู่รูปแบบที่ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น แบบเดียวกับรีสอร์ทแบบบูรณาการของประเทศสิงคโปร์” นายเฉิงกล่าว
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกรณีการอภิปรายเรื่องศูนย์รวมความรวมความบันเทิงที่รัฐสภาไทย แต่อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการพนันระดับโลกได้ออกมาวิจารณ์บนเว็บไซต์ AGB ที่รายงานข่าวสารเกี่ยวกับแวดวงคาสิโนว่าประเทศไทยนั้นยังขาดความเข้าใจเรื่องอุตสาหกรรมรีสอร์ทแบบบูรณาการ และรัฐบาลไทยก็ควรที่จะเสริมสร้างความเข้าใจในเรื่องนี้โดยเร็ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) จึงนำเอาบทวิจารณ์ดังกล่าวมานำเสนอมีรายละเอียดดังนี้
แผนการคาสิโนที่เสนอในประเทศไทยได้จุดประเด็นการถกเถียง โดยพรรคประชาชน ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านแสดงความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมรีสอร์ทแบบบูรณาการหรือ IR ขณะที่นายแดเนียล เฉิง (Daniel Cheng) ผู้เชี่ยวชาญ ในฐานะอดีตผู้บริหารบริษัทเกมพนันหลายแห่ง ซึ่งรวมทั้งบริษัท ฮาร์ด ร็อก อินเตอร์เนชั่นแนล (Hard Rock International) ตั้งข้อสังเกตว่าในขณะที่การอภิปรายในรัฐสภาส่งเสริมมุมมองที่หลากหลาย แต่ก็ยังเผยให้เห็นการขาดความเข้าใจในวงกว้างเกี่ยวกับอุตสาหกรรม IR ในหมู่นักการเมืองและกระทรวงของรัฐบาลไทย
จากการให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ AGB นายเฉิงแนะนำรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ว่าจําเป็นต้องใช้ความพยายามมากขึ้นเพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติ กระทรวง และชุมชนธุรกิจมีการวิจัยและข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการพนัน
สิงคโปร์ลงทุนในอุตสาหกรรมคาสิโน 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (อ้างอิงวิดีโอจาก TheRichest)
นายเฉิงกล่าวถึงแถลงการณ์ของนายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สส.พรรคประชาชน ฝ่ายค้านที่ให้ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับร่างกฎหมายคาสิโนไทยในระหว่างการประชุมรัฐสภา
นายนนท์เคยแนะนำให้ ฝ่ายบริหารของ น.ส.แพทองธารได้ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างรายได้โดยการนําธุรกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี รวมถึงการพัฒนาศูนย์รวมความบันเทิงที่มีคาสิโน ความคิดริเริ่มนี้ถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์ในการต่อสู้กับการพนันที่ผิดกฎหมายและเพิ่มรายได้ของประเทศ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังไม่ได้ชี้แจงว่าศูนย์รวมความบันเทิงจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่เทียบได้กับคาสิโนหรูของมาเก๊า หรือจะเป็นกิจการที่มีขนาดเล็กกว่าเช่นในประเทศเพื่อนบ้าน ในขณะเดียวกัน นายนนท์ยังเตือนว่าการทําให้คาสิโนถูกกฎหมายในประเทศอาจทำให้เกิดการติดต่อธุรกิจที่มีความไม่โปร่งใสอื่นๆ
นายเฉิงกล่าวว่าข้อเสนอของสมาชิกพรรคฝ่ายค้านไทยสอดรับกับความเห็นของ สส.ไทยคนอื่น ซึ่งจุดนี้เน้นย้ำให้เห็นเกี่ยวกับการขาดความเข้าใจในวงกว้างเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรม IR ในหมู่นักการเมืองไทยและในกระทรวงต่างๆ
“ข้อบกพร่องของพวกเขายังปรากฏให้เห็นเมื่อฝ่ายค้านไทยยกประเด็นที่เกี่ยวกับร่างกฎหมายหลายกระทรวง” นายเฉิงกล่าว
คอมเพล็กซ์คาสิโนที่มาเก๊า (อ้างอิงวิดีโอจากเอพี)
นายเฉิงตั้งข้อสังเกตว่ารายละเอียดสำคัญต่างๆเช่น สัดส่วนของพื้นที่คาสิโนภายในศูนย์รวมความบันเทิง อัตราภาษี และค่าธรรมเนียมแรกเข้าของผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น ยังไม่มีการระบุในร่างกฎหมาย โดยจะให้อํานาจดุลยพินิจในวงกว้างแก่คณะกรรมการนโยบายที่นําโดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดำเนินการในส่วนนี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านคาสิโนกล่าวย้ำว่าการกำหนดแนวทางดังกล่าวแม้จะสร้างความความยืดหยุ่นขึ้น แต่ความยืดหยุ่นนี้สามารถเปลี่ยนแปลงกรอบของศูนย์รวมความบันเทิงได้อย่างมีนัยสําคัญและอาจทําให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการละเมิดระเบียบอื่นๆที่เกี่ยวข้องก็เป็นได้
โดยร่างกฎหมายที่กำหนดสัดส่วนการลงทุนไว้ในรายละเอียดของศูนย์รวมความบันเทิง จึงมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลไทยอาจเลือกใช้การตีความแบบเสรีมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้อาจจะนำไปสู่การที่บริษัทในระดับท้องถิ่น มีความทะเยอทะยานน้อยลงมากในการจะเข้ามาลงทุนและสนับสนุนอุตสาหกรรมศูนย์รวมความบันเทิง ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีลักษณะคล้ายคลีงกับที่เคยเกิดขึ้นในประเทศในภูมิภาคอินโดจีนรายอื่นๆ
นายเฉิงกล่าวต่อถึงข้อเสนอแนะของ สส.พรรคภูมิใจไทยที่กล่าวว่าให้สร้างศูนย์รวมความบันเทิงของรัฐ และรับเอาข้อเสนอจากราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย เพื่อสร้างคอมเพล็กซ์รวมในกรุงเทพ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ ขณะที่ นายนนท์ สส.พรรคประชาชนได้ย้ำว่าประเทศอื่นๆ อาทิ สิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ต้องดิ้นรนเพื่อพยายามดึงความสนใจของนักท่องเที่ยวของคาสิโนในมาเก๊า แล้วไทยจะมีความจุดเด่นในการดึงนักท่องเที่ยวได้เท่าประเทศอื่นหรือไม่
ผู้เชี่ยวชาญด้านคาสิโนกล่าวว่าจากการถกเถียงและการเสนอแนะของนักการเมืองไทยที่ยกตัวอย่างไปแล้ว แสดงให้เห็นว่านักการเมืองไทยไปมุ่งให้ความสนใจกับตัวเลขผู้ที่จะมาเยี่ยมเยียนเพียงอย่างเดียว ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นปัญหา เพราะว่าการไปเปรียบเทียบประเทศไทยในทางที่เสียเปรียบเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆอย่างเช่นสิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ จะทำให้มองข้ามบริบทที่กว้างขึ้นก็เป็นได้
“ความเชื่อของ สส.นนท์ว่า โมเดลของมาเก๊าคือเกณฑ์มาตรฐานของอุตสาหกรรม เผยให้เห็นถึงความเข้าใจที่ผิดๆที่มีต่อภาคส่วนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เข้าใจว่ารัฐบาลกลางของจีนกำลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการพนันของมาเก๊าไปสู่รูปแบบที่ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น แบบเดียวกับรีสอร์ทแบบบูรณาการของประเทศสิงคโปร์” นายเฉิงกล่าว
นายเฉิงกล่าวว่าจากที่ตัวเขาเห็นถึงข้อเสนอแนะทั้งหมดที่มาจากรัฐสภา นี่เน้นย้ำว่ารัฐบาล น.ส.แพทองธาร จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเดินหน้าวิจัยเพื่อให้มีข้อมูลในอุตสาหกรรมให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และนำเอาข้อมูลการวิจัยดังกล่าวไปให้กับทั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติ,กระทรวง และผู้นำธุรกิจต่างๆ ได้รับรู้โดยทั่วกัน
ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ รัฐบาลไทยยังไม่ได้จ้างที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรมระดับโลกเพื่อช่วยในการกําหนดแผน ซึ่งส่งผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเข้าใจผิดอย่างกว้างขวางและมีช่องว่างที่สําคัญในร่างกฎหมาย
นายเฉิงกล่าวสรุปว่า “คนไทยจะประเมินศักยภาพของตัวเองต่ำจนเกินไป ถ้าหากพวกเขามอบใบอนุญาตบริหารพื้นที่อุตสาหกรรม IR ในสัดส่วนเกินกว่า 6 ใบอนุญาต ให้บริษัทต่างชาติซึ่งเป็นบริษัทด้านการพนันระดับโลกเข้ามาดำเนินการ โดยบริษัทในแต่ละแห่ง ควรจะได้รับหน้าที่ให้เป็นผู้พัฒนาให้เกิดศูนย์รวมความบันเทิงในระดับโลก เพื่อแข่งขันกับสถานที่ที่มีอยู่แล้วเช่นที่ลาสเวกัส หรือที่สิงคโปร์ มากกว่า”
หรือสรุปก็คือสัดส่วนระหว่างบริษัทไทยที่จะเข้าไปบริหารอุตสาหกรรม IR ไม่ควรที่จะน้อยเกินไปนั่นเอง
นายเฉิงเน้นย้ำประเด็นสำคัญว่าทั้งทางประเทศไทยควรต้องรับรู้ก่อนว่าผู้เล่นในอุตสาหกรรม IR ในระดับโลกนั้นมีใครบ้างอยู่ในอุตสาหกรรมนี้
“สําหรับเจ้าหน้าที่หรือนักการเมืองไทยที่ไม่คุ้นเคยกับบริษัทชั้นนําของอุตสาหกรรม IR บริษัทเหล่านี้ได้แก่ วินน์ รีสอร์ท, เอ็มจีเอ็ม, กาแล็กซี่ เอ็นเตอร์เทนเมนท์, เก็นติ้ง กรุ๊ป, ลาสเวกัส แซนด์ส, ฮาร์ดร็อค อินเตอร์เนชั่นแนล, ซีซาร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และ เมลโก้ รีสอร์ท (Wynn Resorts, MGM, Galaxy Entertainment, Genting Group, Las Vegas Sands, Hard Rock International, Caesars Entertainment, and Melco Resorts)” นายเฉิงกล่าวทิ้งท้าย
เรียบเรียงจาก: https://agbrief.com/intel/deep-dive/20/09/2024/gaming-expert-flags-lack-of-understanding-of-irs-among-thai-politicians/