เครือข่ายประชาชนตะวันออก 3 จังหวัด ยื่นฟ้องบอร์ดอีอีซี - ครม. ขอให้ศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนแผนผังการใช้ที่ดิน หลังจากที่ผ่นามาชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยมีส่วนร่วม จนภาคอุตสาหกรรมรุกพื้นที่แหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 16 ก.ค. 63 ประชาชน 3 จังหวัดภาคตะวันออก ประกอบด้วย ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา มอบอำนาจให้ทนายความมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (Enlaw) ยื่นคำฟ้องคณะกรรมการนโยบายเขตเศรฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในฐานะที่ออกประกาศผังการใช้ประโยชน์ที่ดินฯ และ คณะรัฐมนตรีในฐานะที่อนุมัติแผนผังดังกล่าว ต่อศาลปกครองสูงสุด พร้อมขอให้ศาลเพิกถอนประกาศ เรื่องแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2562 โดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง ดำเนินการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) และให้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นประชาชน ก่อนจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน และแผนผังที่เกี่ยวข้อง
โดยเห็นว่าที่ผ่านมาประชาชนไม่ได้รับการมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างแผนผัง เพื่อประกาศใช้พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 ทำให้พื้นที่ถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นพื้นที่เขตอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยบอร์ดอีอีซีได้ออกประกาศ แผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2562 กำหนดแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินขึ้นใหม่ มายกเลิกและบังคับใช้แทนแผนผังเดิมทุกฉบับ
นายจร เนาวโอภาส ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมหนองแหน จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า แผนผังใหม่นี้ที่มาจากบอร์ดอีอีซี และไม่มีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในพื้นที่ของตนมีการสร้างโรงกำจัดขยะและลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมจำนวนมาก เป็นปัญหามายาวนาน ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาเลย แผนผังใหม่มีการปรับเปลี่ยนจากพื้นที่สีเขียว เขตที่อยู่อาศัย ชุมชน พื้นที่เกษตรกรรมก็โดนปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับเป็นพื้นทีอุตสาหกรรม หรือโรงบำบัดกากอุตสาหกรรม ทำให้ต้องรวมตัวกันมาฟ้อง ดังนั้นถ้ารัฐอยากจะทำอะไรให้ฟังเสียงของพวกเราบ้าง
นายสมนึก จงมีวศิน นักวิชาการเครือข่ายภาคตะวันออก กล่าวว่า การฟ้องร้องในครั้งนี้เป็นการแสดงออกของประชาชน ว่าที่ผ่านมาไม่มีส่วนร่วมในการจัดทำผังพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก มีกระบวนการจัดทำที่ประชาชนไม่ได้สะท้อนความคิดเห็น ความเป็นจริงของพื้นที่ และขอให้ศาลกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง ดำเนินการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) เพื่อรับฟังเสียงของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ก่อนที่จะมีการจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินพื้นที่ภาคตะวันออก
ด้าน นายสุทธิเกียรติ คชโส ทนายความผู้รับมอบอำนาจ เปิดเผยว่า ในการฟ้องร้องครั้งนี้ เกิดจากรวมตัวของประชาชนที่เห็นว่า กระบวนการรับฟังความคิดเห็นมีการจัดเวทีที่ไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่รับฟังปัญหาของประชาชน จากการประกาศใช้ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก 2561 ทำให้พื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าว ที่เดิมเป็นพื้นที่เกษตรกรรม หรือพื้นที่ชนบท ถูกปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่สีเหลืองอ่อน และสีม่วง คือเป็นพื้นที่ให้รองรับอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น สามารถประกอบกิจการโรงงานได้ เช่น โรงงานกำจัดขยะของเสียอันตราย โรงไฟฟ้า ฟ้องร้องเพื่อให้กลับไปเริ่มกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนใหม่ ให้ประชาชนในพื้นที่ได้กำหนดการพัฒนาใช้ประโยชน์ที่ดิน ดำเนินการตามผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางยุทธศาสตร์ (SEA)
ขณะที่บรรยากาศบริเวณหน้าศาลปกครองฯ กลุ่มประชาชน 3 จังหวัดภาคตะวันออก ได้มีการชูป้ายข้อความถึงคัดค้านการใช้ประโยชน์ที่ดินอีอีซี โดยขาดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ โดยมีการนำอาหารทะเลและพืชผัก มาวางไว้บริเวณข้างศาลปกครองฯ เพื่อแสดงออกถึงความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่ ที่กำลังถูกเบียดเบียนด้วยการสร้างเขตพื้นที่อุตสาหกรรม
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/