เปิดเอกสารข้อเสนอ 'คลัง' ชง ‘ครม.’ จ่ายเงิน 10,000 บาท ให้ผู้สูงอายุ 4 ล้านคน ก่อนขอ 'ถอนวาระ' ออกไปก่อน คาดกระตุ้นจีดีพีอีก 0.07-0.1%
....................................
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2567 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่ได้พิจารณาโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ หรือโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 4 ล้านคน วงเงิน 40,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เนื่องจากกระทรวงการคลังได้ขอถอนวาระดังกล่าวออกไปก่อน เพราะยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน นั้น (อ่านประกอบ : 'คลัง'ถอน'แจกเงินหมื่น'ผู้สูงอายุ 4 ล้านคน-'แพทองธาร'เผยติดข้อกฎหมาย)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้เผยแพร่เอกสารข้อเสนอและรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ ที่กระทรวงการคลังนำเสนอเพื่อประกอบการพิจารณาของ ครม. พร้อมทั้งประเมินผลกระทบของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุว่า จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.07-0.1% ต่อปี เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการฯ
สำหรับเอกสารข้อเสนอและรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ มีดังนี้
โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ มีรายละเอียด ดังนี้
วัตถุประสงค์ : เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของผู้สูงอายุ ให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จำเป็นในการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มการบริโภคที่จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ
กลุ่มเป้าหมาย :
-ผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ Digital Wallet ผ่านแอปฟลิเคชัน “ทางรัฐ” สำเร็จ และ
-เป็นผู้ที่ผ่านคุณสมบัติโครงการ Digital Wallet โดยมีรายละเอียดคุณสมบัติ ได้แก่ 1.กลุ่มประชากรที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน 2.สัญชาติไทย 3.มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน 4.ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566 5.ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท 6.ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
7.ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิ์หรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการหรือโครงการอื่นๆ ของรัฐ และ 8.ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการหรือโครงการอื่นๆของรัฐ
-เป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ 15 ก.ย.2567 (เกิดก่อนหรือในวันที่ 16 ก.ย.2507) และ
-ไม่เป็นผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ณ วันที่ 31 ส.ค.2567
ทั้งนี้ ประมาณการจำนวนกลุ่มเป้าหมาย จำนวนไม่เกิน 4 ล้านราย
ขั้นตอนการดำเนินการ
-การตรวจสอบคุณสมบัติของกลุ่มเป้าหมาย
1.สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. ในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) ของโครงการ Digital Wallet ดำเนินการนำส่งข้อมูลของผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ Digital Wallet ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”
2.สพร. ดำเนินการนำส่งข้อมูลให้กรมการปกครองเพื่อตรวจสอบผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และนำส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลางเพื่อตรวจสอบความซ้ำช้อนกับกลุ่มเป้าหมายตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ
3.เมื่อมีการตรวจสอบสิทธิโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ให้ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุแล้ว และให้ สพร. ประมวลผลและประกาศผลผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับเงินตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และให้นำส่งข้อมูลที่ได้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติกลุ่มเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว และมีคุณสมบัติที่จะได้รับเงินให้กรมบัญชีกลางเพื่อเตรียมจ่ายเงินต่อไป
การจ่ายเงิน
-กรมบัญชีกลางนำข้อมูลที่ได้รับจาก สพร. มาดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติกลุ่มเป้าหมายว่า เป็นผู้มีสถานะการมีชีวิต ตามฐานข้อมูลของกรมการปกครอง ณ สิ้นวันก่อนหน้า (T-1) ของวันที่กรมบัญชีกลางส่งข้อมูลไปตรวจสอบ (T) เพื่อตัดสิทธิ์บุคคลที่เสียชีวิตหรือถูกจำหน่ายออกจากฐานข้อมูลทะเบียนกลาง ก่อนจัดทำข้อมูลสำหรับการจ่ายเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุก่อนการจ่ายเงินในแต่ละรอบ
-กรมบัญชีกลางจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 10,000 บาทต่อคน โดยจะเริ่มทยอยจ่ายเงินครั้งแรกภายในเดือน ม.ค.2568 ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของกลุ่มเป้าหมาย
-ในกรณีที่กรมบัญชีกลางจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรกให้ดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวจำนวน 3 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 ภายในเดือน ก.พ.2568 , ครั้งที่ 2 ภายในเดือนมี.ค.2568 และครั้งที่ 3 ภายในเดือน เม.ย.2568 ทั้งนี้ เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว รัฐจะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ
-ในกรณีที่กลุ่มเป้าหมายได้รับเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุแล้ว แต่มีความประสงค์จะคืนเงินโดยสมัครใจ ให้ติดต่อขอรับเอกสารที่ใช้สำหรับการคืนเงินได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดหรือกรมบัญชีกลาง และนำเงินไปคืนได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ กรณีมีการดำเนินโครงการ Digital Wallet ในระยะต่อไป ควรพิจารณาดำเนินการ โดยไม่ซ้ำช้อนกับกลุ่มเป้าหมายตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ
ประโยชน์และผลกระทบ
การดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ โดยจะช่วยกระต้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เนื่องจากผู้สูงอายุที่ผ่านคุณสมบัติโครงการ Digital Wallet ถือเป็นผู้ที่ค่อนข้างมีความเปราะบางที่มีความโน้มเอียงหน่วยสุดท้ายในการบริโภค (Marginal Propensity to Consume: MPC) สูงกว่ากลุ่มประชากรที่มีรายได้สูงทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้จ่ายเงินหมดทั้งจำนวน อีกทั้งเนื่องจากผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”
อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายในโครงการ Digital Wallet จะใช้จ่ายกับร้านค้าผ่านแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่คุ้นชิน ดังนั้น การให้เป็นสดแก่ผู้สูงอายุโดยจ่ายผ่านบัญชีพร้อมเพย์ จึงมีความเหมาะสมในการทยอยสร้างความพร้อมและความคุ้นชิ้นชินให้แก่ผู้สูงอายุในระยะเปลี่ยนผ่านการเข้าสู่ระบบการเงินดิจิทัลในอนาคต
ทั้งนี้ คาดว่าการดำเนินโครงการจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.07-0.1 เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ
ค่าใช้จ่ายและแหล่งที่มา หรือการสูญเสียรายได้
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ จำนวนไม่เกิน 40,000 ล้านบาท โดยจัดสรรให้แก่สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง (สป.กค.) และให้นำเงินเหลือจ่ายดังกล่าวส่งคืนสำนักงบประมาณต่อไป