ครม.เห็นชอบโครงการ ‘สนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตฯ’ วงเงิน 2.99 หมื่นล้านบาท ช่วยเหลือค่าปุ๋ยให้ชาวนา 4.68 ล้านราย รายละไม่เกิน 1 หมื่นบาท เผยใช้เงิน ‘ธ.ก.ส.’ สำรองจ่ายไปก่อน และจัดสรรงบคืนต่อไป
.......................................
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ภายใต้มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2567/68 กรอบวงเงิน 29,980.17 ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ โดยโครงการฯนี้ มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือชาวนาจำนวน 4.68 ล้านราย
สำหรับโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนฯ หรือโครงการ ‘ปุ๋ยคนละครึ่ง’ นั้น รัฐบาลจะช่วยเหลือค่าปุ๋ยให้กับชาวนาในอัตราไร่ละไม่เกิน 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่/ราย เริ่มต้นโครงการฯตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.2567 และสิ้นสุดโครงการฯในวันที่ 31 พ.ค.2568
“รัฐบาลจะช่วยเหลือค่าปุ๋ยตามที่เกษตรกรจ่ายจริง แต่ไม่เกินครึ่งหนึ่ง เช่น สมมติว่าเกษตรกรไปซื้อปุ๋ยในราคาสูงสุด 20,000 บาท เกษตรกรจ่าย 10,000 บาท และรัฐช่วย 10,000 บาท แต่ถ้าเกษตรกรซื้อปุ๋ย 15,000 บาท รัฐก็ช่วย 7,500 บาท คือ ช่วยไม่เกินครึ่งหนึ่ง และช่วยไร่ละไม่เกิน 500 บาท จำนวนไม่เกิน 20 ไร่” นายชัย กล่าว
นายชัย กล่าวต่อว่า ในทางปฏิบัตินั้น โครงการฯจะเปิดให้ร้านค้าปุ๋ยในพื้นที่ต่างๆเข้ามาลงทะเบียน จากนั้นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสหกรณ์ในพื้นที่ต่างๆ จะร่วมกันคัดเลือกร้านค้าปุ๋ยที่จะเข้าร่วมโครงการฯ โดยปุ๋ยที่จะนำมาจำหน่ายให้เกษตรกรนั้น ต้องเป็นปุ๋ยและชีวภัณฑ์ที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องแล้ว ซึ่งมีทั้งหมด 15 สูตร และราคาปุ๋ยดังกล่าวต้องถูกกว่าราคาทั่วไปในท้องตลาด
ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุม ครม. ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวฯ ไม่เกินครัวเรือนละ 500 บาทต่อไร่ และไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 10,000 บาทต่อราคาปุ๋ยที่จ่ายจริง โดยให้ ธ.ก.ส. สำรองจ่ายไปก่อน และรัฐบาลจะจัดสรรงบชดเชยให้กับธนาคาร ธ.ก.ส. พร้อมอัตราต้นทุนทางการเงิน ส่วนโครงการเดิมให้ความช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท นั้น จะไม่มีการดำเนินการอีกต่อไป