สถานการณ์การติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 27 ราย รักษาหายกลับบ้าน 1,999 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 2,792 ราย ใน 68 จังหวัด ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมเสียชีวิตสะสม 47 คน
วันที่ 20 เมษายน 2563 เวลา 12.30 น.นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีก 27 ราย รักษาหายกลับบ้าน 1,999 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 2,792 ราย ใน 68 จังหวัด ไม่มีผู้เสียชีวิต รวมเสียชีวิตสะสม 47 คน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ไปในที่ชุมชน ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว และในสถานที่กักกัน
ส่วนการกระจายตัวของผู้ป่วย ยังเป็นภาพเดิม ๆ 10 จังหวัดพบผู้ป่วยสูงสุด และ 9 จังหวัดไม่มีรายงานการรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยเกือบครึ่งของประเทศ คือ 35 จังหวัดไม่มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 2.4 ราย เสียชีวิต 1.6 แสนคน หรือคิดเป็น 6.9% นับเป็นสถิติของผู้เสียชีวิตที่มากกว่าโรคไข้ไหวัดใหญ่ และโรคอื่น ๆ โดยสหรัฐฯ พบติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดในโลก รองลงมาเป็นสเปน อิตาลี ฝรั่งเศส ประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะเพื่อนบ้านไทย ยังพบติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
โฆษกศบค.กล่าวถึงการประชุมศูนย์โควิด-19 ว่า นายกรัฐมนตรีชื่นชมประชาชนที่ร่วมกันทำให้ตัวเลขการติดเชื้อลดลง เหลือตัวเลข 2 หลักมาระยะหนึ่ง รวมถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ในทุกระดับ พร้อมอยากให้ดูแลเรื่องเบี้ยเลี้ยง และค่าใชจ่ายที่เกิดขึ้น
"พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นายกฯ ระบุ ยังมีความจำเป็นในสถานการณ์นี้ โดยครม.จะหารือต่อไป โดยเฉพาะมาตรการผ่อนคลาย ต้องมีมาตรการออกมาก่อน ซึ่งได้ให้ส่วนราชการ ผู้ประกอบการเสนอขึ้นมาว่า จะมีมาตรการออกมาอย่างไร รวมถึงศึกษาจากต่างประเทศ เพื่อนำมาปรับใช้กับประเทศไทยด้วย นายกฯ ยังได้เน้นย้ำให้จัดสมดุลให้เหมาะสมระหว่างการติดเชื้อ กับปัญหาด้านเศรษฐฐกิจ เรื่องเศรษฐกิจใช้ชุดข้อมูลบิ๊กดาต้า นำมาใช้ให้เกิดขึ้นจริง ใช้ข้อมูลชุดเดียวกันนำมาแก้ไขปัญหา"