สถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พบเพิ่มอีก 29 ราย รักษาหายกลับบ้าน 1,593 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,077 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 2,672 ราย ใน 68 จังหวัด เสียชีวิตเพิ่ม 3 คน รวมเสียชีวิตสะสม 46 คน
วันที่ 16 เมษายน 2563 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลถึงสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พบเพิ่มอีก 29 ราย รักษาหายกลับบ้าน 1,593 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,077 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 2,672 ราย ใน 68 จังหวัด เสียชีวิตเพิ่ม 3 คน (ชายชาวมาเลเซีย -หญิงไทยอายุ 35 ปี และชายไทยอายุ 37 ปี ) รวมเสียชีวิตสะสม 46 คน
"วันนี้ผู้เสียชีวิตอายุต่ำกว่า 60 ปี ทั้งสิ้น และเป็นการเจ็บไข้ได้ป่วยตั้งแต่เดือนมีนาคม ส่วนรายใหม่ 29 รายนั้น 14 รายสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ และคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ ทำงานในสถานที่แออัด สัมผัสคนต่างชาติ"
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อของไทยดีขึ้น พบว่า เป็นผลมาจากการประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่วันที่ 3- 16 เมษายน ซึ่งเรายังกังวลไม่อยากให้ผ่อนคลายเร็วไปนัก
"จังหวัดที่ปลอดเชื้อ ไม่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในช่วง 14 วัน (2-15 เมษายน) มีจำนวน 25 จังหวัด และมี 9 จังหวัดคงเดิมไม่มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อโควิดมาก่อน"
โฆษก ศบค. กล่าวถึงจำนวนผู้ป่วยรายใหม่กรุงเทพ และนนทบุรี แม้ดูดีกว่าแต่ก่อน แต่ 2-3 วันนี้มีจำนวนผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้น
ส่วนสถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 2 ล้านคนแล้ว เสียชีวิต 1.34 แสนคน รักษาหาย 5.09 แสนคน ซึ่งตัวเลขนี้ระยะเวลา 3 เดือนกว่าเท่านั้นเอง
ประเด็นนโยบายที่น่าสนใจของต่างประเทศ นายแพทย์ทวีศิลป์ กตัวอย่างการดำเนินนโยบายของประเทศเกาหลีใต้ ควบคุมโดยใช้ 4 มาตรการ 1. เปิดเผยข้อมูลความเป็นจริง ผู้ติดเชื้อ 2.การกักกันเชื้อ และการชะลอการแพร่ระบาด 3.ระบบการตรวจโรคและการรักษา 4.การคัดกรองอย่างกว้างขวาง และระบบติดตามผู้ป่วยสงสัย อีกทั้งมีนโยบายเสริมเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาทางโบสถ์ออนไลน์ เป็นต้น
ขณะที่จีน ยังพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากไม่มีอาการเลยและยังสามารถแพร่เชื้อได้ จึงเป็นความท้าทายสำหรับการควบคุมสถานการณ์ ญี่ปุ่น สถานการณ์ทรุดหนัก อาจติดเชื้อเพิ่มอีกหลายแสนคน หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด อาจทำให้มีผู้ติดเชื้อสูงถึง 8.5 แสนคน
"การ์ดอย่าตก เกิดขึ้นแล้วในประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่างญี่ปุ่น สิงคโปร์ หากเราเรียนรู้ สิ่งที่เราเรียกร้องอยากจะผ่อนคลาย ดูจากประเทศที่ทำมาก่อนผลออกมาเป็นอย่างไร ท่านจะเลือกอย่างไร ในจังหวัดต่างๆ ประเทศไทยได้เห็นการกระจายอำนาจอย่างชัดเจน ก็คือการติดเชื้อไวรัสโคโรนา ที่สามารถจัดการเรื่องของตัวเองได้ บนข้อมูลที่มีอยู่"
ช่วงท้าย นายแพทย์ทวีศิลป์ ตอบคำถามถึงมาตรการการผ่อนคลายหรือไม่ผ่อนคลาย วันนี้เป็นเรื่องยากมาก และมีความยุ่งยาก เช่น การเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากตลอดเวลา เรายอมรับกันได้หรือไม่ เราเห็นประเทศที่เขาปล่อยปละละเลย ถึงมีจำนวนผู้เสียชีวิตมาก และมีผู้คนป่วยหนัก การถูกจำกัดบ้าง กระทบเศรษฐกิจบ้าง จึงยังมีความสำคัญอยู่ การทำให้ลดโรคโควิดลงได้ ประชาชน 90% ต้องร่วมมือ มีวินัยด้วย ฉะนั้นการจะตัดสินใจอะไรจึงยากมากๆ
"เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ เกิดขึ้น 3 เดือน ผ่อนคลายเร็วสุดคือจีน ประเทศอื่นๆ ตัวแดงยังเกิดขึ้นทั้งโลก จะผ่อนคลายตามจึงเป็นเรื่องยาก เราทำตัวเลข 2 หลัก ประเทศข้างบ้าน 3 หลัก ท่านคิดหรือว่า จะปลอดภัย เราต้องเข้าใจในสถานการณ์โรคระบาด"