สถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่เจออีก 30 ราย รักษาหายกลับบ้าน 1,497 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,103 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 2,643 ราย ใน 68 จังหวัด เสียชีวิตเพิ่ม 2 คน รวมเสียชีวิตสะสม 43 คน
วันที่ 15 เมษายน 2563 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลถึงสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พบเพิ่มอีก 30 ราย รักษาหายกลับบ้าน 1,497 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,103 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 2,643 ราย ใน 68 จังหวัด เสียชีวิตเพิ่ม 2 คน รวมเสียชีวิตสะสม 43 คน
"กลุ่มอายุ 30-39 ปี ถือเป็นกลุ่มที่ติดเชื้อมากสุด และเป็นผู้ชายมากกว่าหญิงเล็กน้อย ส่วนเสียชีวิต 2 คน คนที่ 42 เป็นหญิงไทยอายุ 65 ปี ขายอาหารที่ถนนคนเดิน มีโรคประจำตัว คนที่ 43 ชายไทยอายุ 60 ปี มีประวัติไปอินโดนีเซีย"
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ทุกรายที่เสียชีวิตล้วนแล้วแต่เป็นครูให้พวกเราได้รับทราบ ปัจจัยเสี่ยงคืออะไร เพราะโควิดเป็นโรคใหม่ เรารู้จักได้ไม่กี่เดือน ส่วนประวัติเสี่ยงผู้ติดเชื้อรายใหมา่ 30 รายนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยสัมผัสกับกลุ่มก้อนเดิม กลับจากต่างประเทศ ไปห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด และสถานที่ท่องเที่ยว นี่จึงเป็นเหตุที่รัฐบาลต้องมีมาตรการปิดร้านต่างๆ แต่หากคนไทยเห็นตัวเลขจะเข้าใจ เพราะอะไรจึงยังไม่ให้ดำรงชีวิตปกติ ไปในที่ชุมชนก็ติดแล้ว หรือ กรณีเดินทางไปต่างประเทศ กลับจากสหรัฐ ต่อเครื่องที่ญี่ปุ่น ประวัติการเดินทางทำให้ป่วย ได้
โฆษก ศบค. กล่าวว่า มี 9 จังหวัดยังไม่มีรายงานการรักษาผู้ป่วย ส่วนกรุงเทพ นนทบุรี เปรียบเทียบกับต่างจังหวัด มีแนวโน้มผู้ป่วยติดเชื้อในต่างจังหวัดลดลง ขณะที่ที่กักตัว State Quarantine ยังมีตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีการแยกกลุ่มดูแล
"เราจำเป็นต้องตรึง การ์ดอย่าตก ประเทศไทยได้ไม่มีตัวเลขขึ้นไป 3 หลัก" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว และว่า ระหว่างเดือนมีนาคม และเดือนเมษายน กรุงเทพ และปริมณฑล รูปแบบเดือนมีนาคม ติดเชื้อจากการเดินทางมาจากต่างประเทศ จนมาเดือนเมษายน รูปแบบการติดเชื้อ เปลี่ยนเป็นการติดเชื้อในบ้าน ติดเชื้อนอกบ้าน
ปัจจัยเสี่ยงที่จังหวัด ชลบุรี ผู้ป่วยติดเชื้อเป็นลักษณะนำเข้า กลุ่มชาวต่างชาติ ไปสถานบันเทิง จนทางการสั่งปิดห้างฯ ปิดหาด มาถึงระยะการแพร่โรคในครอบครัวและชุมชน จนถึงบุคลากรทางการแพทย์
ส่วนจำนวนผู้ป่วยรักษาหายต่อวันและรักษาหายสะสม ตั้งแต่ 15 มีนาคม - 15 เมษายน เพิ่มขึ้น ซึ่งภาพเช่นนี้ ทำให้ทรัพยากรของประเทศไทยมีเพียงพอรักษาผู้ป่วย
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดทั่วโลก พบติดเชื้อเกือบ 2 ล้านคนแล้ว รักษาหายแล้ว 4.7 แสนราย เสียชีวิต 1.2 แสนคน ขณะที่ประเทศอาเซียน โดยเฉพาะสิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อวันเดียวแซงหน้าไทย กราฟกำลังชันขึ้นไป รวมถึงประเทศญี่ปุ่น กราฟผู้ติดเชื้อก็เริ่มชันขึ้นเช่นกัน
"สิงคโปร์ติดเชื้อวันเดียวพุ่ง 300 กว่าราย พบว่า มาจากแรงงานชาวต่างชาติ รัฐบาลสิงคโปร์จึงมีการหาที่พักให้ มีการใช้เรือสำหรับที่พักพนักงาน ส่วนจีนอนุมัติให้นำวัคซีนทดสอบระดับคลินิกแล้ว เป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของจีนจดทะเบียนในตลาดนิวยอร์ก อินโดนีเซีย เพิ่งประกาศให้การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา เป็นภัยพิบัติแห่งชาติ " โฆษกศบค. กล่าว และว่า การเรียนรู้ในประเทศของเราไม่เพียงพอ ต้องเรียนรู้จากต่างประเทศด้วย
ช่วงท้าย โฆษกศบค. ตอบคำถามถึง กรณีคนไทยเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ว่า 15-18 เมษายน ทางกระทรวงการต่างประเทศเปิดให้คนไทยที่จะกลับประเทศ ใช้ระบบลงทะเบียนออนไลน์ ตัวเลขไม่น่าถึง 3 พันคน และแม้จะมีมากมายแค่ไหน ขอให้เข้ามาไม่เกินเที่ยวละ 200 คน ทยอยเข้ามา เชื่อว่า การกักตัวจะมีพื้นที่รองรับเพียงพอ ผู้อยู่ในพื้นที่ไม่เดือดร้อน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็จะไม่เหนื่อยล้าจนเกินไป