ศบค.แถลงตัวเลขผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 111 ราย รวมสะสม 2,369 ราย รักษาหายป่วย 888 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 คน เป็นชาวต่างประเทศทั้งสิ้น - ภูเก็ต นำโด่งกลายเป็นจังหวัดเสี่ยงสุด ป่วยต่อแสนประชากร
วันที่ 8 เมษายน นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประชุมครม. ให้สถานการณ์โรคโควิดเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมออกมาตรการต่างๆ มากมาย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงสถานการณ์ตัวเลขผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 111 ราย รวมผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 2,369 ราย รักษาหายป่วย 888 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 คน ( เป็นชาวต่างประเทศทั้งสิ้น ) สะสมรวม 30 คน เราต้องเชื่อมโยงกับคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
"เห็นแล้วไหมล่ะ ว่าแล้วไหมล่ะ ตัวเลข 3 หลักเราไม่อยากเจอแต่ก็ต้องเจอ วิเคราะห์แล้วพบว่า กลุ่มก้อนใหญ่ สัมผ้สกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ โดย 42 ราย ยืนยันมีเชื้อโควิด-19 มาจากอินโดนีเซีย แม้จะใบรับรองแพทย์มาแล้วก็ตาม มีการกระจุกการเดินทาง รวมอยู่กับคนหมู่มาก อย่างไรก็ตาม ผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศเมื่อวันที่ 7 เมษายน ลงเครื่องจากเกาหลีใต้ ก็พบว่า ไม่ผ่านการคัดกรอง 8 คน " โฆษก ศบค. กล่าว และว่า ฉะนั้นกลุ่มก้อนนี้ ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ จะเป็นกลุ่มก้อนใหม่ที่ประเทศไทยต้องเฝ้าระวัง และกำลังมีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน สตูลเมืองแตก ทำให้เหลือ 10 จังหวัดที่ไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อ "ไม่เป็นไรป่วยก็ต้องรักษา เป็นเรื่องปกติ"
ส่วนอัตราการป่วยโรคโควิด ต่อประชากรแสนคน จำแนกตามจังหวัดที่รับการรักษา พบว่า ภูเก็ต กลายเป็นจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูง รองลงมา ได้แก่ กรุงเทพ ยะลา นนทบุรี สมุทรปราการ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงปัจจัยเสี่ยงผู้ติดติดเชื้อ จากการวิเคราะห์ พบว่า ส่วนใหญ่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว แรกๆ จะเป็นคนจีน ต่อมาเป็น สหรัฐ เบลเยี่ยม ปากีสถาน ขณะที่ผู้ป่วยชาวไทย ก็มีประวัติกลับมาจากต่างประเทศเช่นกัน ฉะนั้น จะไปว่าใครไม่ได้แล้ว เหมือนกันคือ กลับมาจากต่างประเทศ บางรายบินเข้ามา บางรายเดินเข้ามาผ่านแดน เราล้วนมีความเสี่ยง
"ศึกภายใน ก็มีสถานบันเทิง สนามมวย ศึกภายนอกก็มีทั้งสิ้น ดังนั้น เชื้อโรคไม่มีพรมแดน ไม่มีเวลาทำงาน"