สธ.แถลง ไทบพบป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 188 อาการหนักมีอยู่ 7 ราย ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด วอนอย่าเดินทางเคลื่อนย้ายไปตจว.หลังพบกราฟติดเชื้อในส่วนภูมิภาคเพิ่มรวดเร็ว
วันที่ 22 มีนาคม นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 10 และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 22 มีนาคม 2563 พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร เป็นวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน อาการเล็กน้อย ทำให้ไปมีกิจกรรมทางสังคม จนเป็นที่มาของการแพร่เชื้อ
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวถึงผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายใหม่วันนี้พบเพิ่มอีก 188 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 599 ราย (อันดับที่ 412 -599 ) แบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้
กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 65 ราย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย 21 ราย ,กลุ่มสถานบันเทิง 5 ราย ,กลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว 37 ราย และกลุ่มที่เข้าร่วมพิธีทางศาสนาในประเทศมาเลเซีย 2 ราย
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 15 ราย ได้แก่ กลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศ/ชาวต่างชาติ 8 ราย (ใน จำนวนนี้มีหลายรายที่มีประวัติเดินทางกลับจากเที่ยวผับปอยเปต ที่ประเทศกัมพูชา สัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้) ,กลุ่มผู้ทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 7ราย
กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ได้รับผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อแต่อยู่ระหว่างรอสอบสวนโรค 108 ราย
"การที่เรามีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเท่าตัว เราจึงให้ท่านอยู่บ้าน"
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผู้ป่วยอาการหนักมี 7 ราย จาก สถาบันบำราศนราดูร โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาลบาลเอกชน ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยสรุปมีผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 45 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 553 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมสะสม 599 ราย
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า จากคำสั่งของกทม.อาจทำให้มีการเคลื่อนย้ายคนและเคลื่อนย้ายตัวโรคนี้ไปด้วย โดย นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ขอความร่วมมือ แผนปฏิบัติการค้นหา เฝ้าระวัง และป้องกันโรค ระดับอำเภอ และหมู่บ้าน กรณีผู้เดินทางกลับจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ดังนั้นขอให้ท่านอยู่บ้าน อย่าเดินทางกลับต่างจังหวัดเด็ดขาด สำคัญอย่างยิ่ง เพราะทางรัฐบาลมีมาตรการตรงนี้เพื่อต้องการหยุดการเคลื่อนย้าย ดีที่สุดหยุดงานแล้วพักอยู่บ้านอย่ากลับไปภูมิลำเนาเด็ดขาด ผู้สูงอายุ และเด็กจะเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการรับเชื้อ (อ่านประกอบ:อธิบดีกรมควบคุมโรค ออกหนังสือด่วนถึงผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เฝ้าระวังคนกรุง เดินทางกลับภูมิลำเนา)
สำหรับเหตุผลที่ไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายไปต่างจังหวัด พบว่า โรงพยาบาลในกทม.มีความพร้อม หากป่วยโอกาสรักษาหาย และไม่เสียชีวิตมีสูงกว่า การออกไปต่างจังหวัดไม่ควรทำ ขณะที่กรมอนามัย ระบุว่า สถานการณ์โรคแพร่กระจายไปภูมิภาคแล้ว ดังนั้นอนามัยส่วนบุคคล ลดสัมผัส ล้างมือ เข้าที่ชุมชนสวมหน้ากากผ้า และล่าสุดรณรงค์ มาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม social distancing งดออกนอกบ้าน ออกเมื่อจำเป็นจริงๆ เพื่อให้โรคนี้ขึ้นอย่างช้าๆ มีแพทย์ และเตียงเพียงพอ เพื่อรอวัคซีนและยาที่กำลังคิดค้นขึ้น
ส่วนนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวถึงกราฟผู้ป่วย พบว่า เดิมที่ผู้ป่วยจะอยู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ขณะนี้ตัวเลขผู้ป่วยในต่างจังหวัดกำลังเพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงสั่งให้หยุด คือ ให้หยุดอยู่บ้าน ไม่แพร่เชื้อไปให้คนอื่น ดังนั้น ช่วงเวลาสำคัญให้กรุงเทพปลอดเชื้อ แต่หากใครเดินทางไปอยู่กับคนจำนวนมากจะเป็นการเพิ่มเชื้อ
"หากรักพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ อย่าเดินทางกลับ ให้กักตัวอยู่บ้าน 14 วัน"