สธ.แถลง สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ระบุ เราต้องอยู่กับโรคนี้ไปสักระยะหนึ่ง ชี้นอกจากภาครัฐแล้ว ขอประชาชน ชุมชน สังคมเตรียมความพร้อมป้องกันการติดโรค ยันหากร่วมกันคนละไม้คนละมือ เชื่อสามารถลดการแพร่โรคได้
วันที่ 8 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธนรักษ์ ผลิรัตน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประจำวันที่ 8 มีนาคม 2563 ว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสม 50 ราย ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ มีผู้ป่วยรักษาหายและออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านแล้ว 33 คน เสียชีวิต 1 คน มีผู้ป่วยอาการภาวะวิกฤต 1 คน
สำหรับผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค รวมจำนวน 4,366 คน เพิ่มจากเดิมประมาณ 130 คน สามารถกลับบ้านแล้ว 2,629 คน
นพ.ธนรักษ์ กล่าวถึงสถานการณ์ในต่างประเทศ ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเกิน 1 แสน ขณะที่จีนผู้ป่วยรายใหม่เริ่มชะลอตัว ส่วนประเทศอื่นๆ ทวีความรุนแรง พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้เป็นแรงกดดันให้ประเทศไทยเจอผู้เดินทางเข้ามาประเทศและมีโรคติดมาเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีมาตรการตามความเหมาะสมต่อไป
"ภาครัฐพยายามชะลอการระบาดของโรคนี้ในประเทศไทย ทั้งการจัดการผู้เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เฝ้าระวังคนไทยด้วยกัน ในกลุ่มอาชีพเสี่ยงติดโรค ทำงานใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยว รวมถึงพยายามเตรียมสถานพยาบาลให้พร้อม หากเกิดการระบาดในประเทศ เวลาที่เราซื้อมาได้จากระยะการแพร่ระบาด ถือเป็นเวลาที่มีค่ามากเพื่อให้ระบบสาธารณสุขเราเตรียมความพร้อมรับมือ" นพ.ธนรักษ์ กล่าว และว่า นอกจากภาครัฐแล้ว คนอื่นๆ ก็ต้องเตรียมความพร้อมด้วย ประชาชนต้องเตรียมความพร้อมด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะการป้องกันการติดโรค รวมถึงระดับชุมชน และสังคม บริษัทห้างร้านต่างๆ ได้ออกมาตรการที่เหมาะสมแล้วหรือไม่ เพื่อป้องกันการติดโรค เชื่อว่า หากร่วมกันคนละไม้คนละมือจะสามารถลดการแพร่โรคได้ และสังคมไทยจะมีภูมิคุ้มกันโรคตามมา
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการตีตรา การรังเกียจผู้ป่วย เริ่มมีความรุนแรง จึงอยากให้สังคมเข้าใจธรรมชาติของโรค เราจะป้องกันโรคนี้ได้อย่างไร ดีกว่าการไปตั้งแง่หรือตีตราผู้ป่วย ความเข้าอกเข้าใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจจะทำให้เราผ่านความยากลำบากการระบาดของโรคนี้ไปได้
"นี่เป็นการจัดการปัญหาระยะยาว เราต้องอยู่กับโรคนี้ไปสักระยะหนึ่ง ฉะนั้น ความเชื่อใจจะทำให้เราผ่านเวลาที่ยากลำบากไปด้วยกัน"
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวด้วยว่า โรคไวรัสโควิด-19 ส่วนใหญ่รักษาหายได้ และกลับบ้านได้ และผู้ป่วยใช้ยาต้านไวรัสน้อยมาก แปลว่า โรคนี้รักษาหายได้เอง โดยไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัสเลย และสถิติทั่วโลกก็พบว่า ผู้ป่วย 80-90% หายได้เอง เพศชายและหญิงไม่มีใครเสี่ยงสูงกว่ากัน
ขณะที่นายแพทย์สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 กล่าวถึงกรณีแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 7 – จนถึงเวลา 02.45 น.ของวันที่ 8 มีนาคม 2563 ได้ทำการตรวจเฝ้าระวังเที่ยวบินจากเกาหลีรวม 4 เที่ยวบิน มีผู้เดินทางทั้งหมด 537 คน เป็นแรงงานไทยจากเกาหลีใต้ 133 คน ในจำนวนนี้พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง 6 ราย ส่งรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐเรียบร้อยแล้ว มีผู้เดินทางจากเมืองแทกูและคยองซังเหนือส่งไปสังเกตอาการที่ฐานทัพเรือสัตหีบเป็นเวลา 14 วัน จำนวน 60 คน เป็นชาย 27 คน หญิง 33 คน ส่วนที่เหลือ 67 คนส่งไปสถานที่รับไว้สังเกตอาการตามภูมิลำเนา ภายใต้การกำกับสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเวลา 14 วัน
ส่วนการแก้ปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ กระทรวงพาณิชย์ ได้แจ้งว่า ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตหน้ากากอนามัยชนิด Surgical Mask ในประเทศ สามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้วันละ 1.2 ล้านชิ้น/วัน โดยได้จัดสรรให้กับบุคลากรสาธารณสุขในสถานพยาบาล จำนวน 700,000 แสนชิ้น/วัน ให้กับโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 400,000 ชิ้น/วัน โรงพยาบาลนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 30,000 ชิ้น/วัน โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย/คณะทันตแพทย์/โรงพยาบาลและคลินิกเอกชน/ โรงพยาบาลสังกัด กทม. 270,000 ชิ้น/วัน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/