อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เผยได้รับรายงานผลชันสูตรผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายมาเรียม พะยูนน้อย มาจากการช๊อค พบเศษพลาสติกเล็กๆ หลายชิ้นขวางลำไส้ ย้ำชัด ถ้าจะอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากให้คงอยู่ทุกภาคส่วน ทุกคน ต้องช่วยกันเรื่องขยะทะเล
วันที่ 17 สิงหาคม 2562 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยถึงอาการของมาเรียมหลังจากได้รับรายงานผลการชันสูตรการผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายของมาเรียมจากทีมสัตวแพทย์ว่าพบสาเหตุุการตายมาจากการช็อค นอกจากนี้ยังพบเศษพลาสติกเล็กๆ หลายชิ้นขวางลำไส้ จนมีอาการอุดตันบางส่วนและอักเสบ ทำให้มีแก๊สสะสมอยู่เต็มทางเดินอาหาร มีการติดเชื้อในกระแสเลือด ปอดเป็นหนอง ตามมา
โดยในช่วงแรกของการรักษา สามารถลดการติดเชื้อในระบบหายใจลงได้บางส่วน แต่ในทางเดินอาหารที่มีขยะพลาสติกนั้น ไม่สามารถรักษาได้ จึงลุกลามไปจนช็อค และทำให้เสียชีวิตในที่สุด รอยโรคอีกส่วนหนึ่งที่พบคือ มีรอยช้ำเลือดในกล้ามเนื้อและผนังช่องท้องด้านใน ซึ่งอาจเกิดจากการกระแทกกับของแข็ง เช่น ถูกพะยูนตัวใหญ่พุ่งชน หรือชนหินขณะที่เกยที่ตื้น ทุกคนเศร้าเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ แต่สิ่งที่ตอกย้ำให้ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ถ้าจะอนุรักษ์ให้สัตว์ทะเลหายากยังคงอยู่กับเราต่อไป ทุกภาคส่วน ทุกคน ต้องช่วยกันเรื่องขยะทะเล
นายจตุพร อธิบดี ทช. กล่าวว่า มาเรียมจากไปเมื่อคืนของวันที่ 16 สิงหาคม 2562 แต่ความหวังในการอนุรักษ์พะยูนไทยไม่ได้จากไปด้วย การมาถึงของมาเรียมได้พิสูจน์แล้วว่า คนไทยรักและให้ความสำคัญกับพะยูนและสัตว์ทะเลหายากขนาดไหน ความพยายามทุ่มเทในการดูแลของนักวิชาการ ชาวบ้าน อาสาสมัคร การทำงานแบบไม่แบ่งแยกองค์กร ทุกฝ่ายต่างร่วมมือกันเพื่อความหวังเดียวคือให้ชีวิตใหม่แก่สัตว์ทะเลหายากในท้องทะเลไทย
"มาเรียมได้ทำหน้าที่เป็นทูตสันถวไมตรีที่ช่วยให้มนุษย์ได้มีโอกาสใกล้ชิดและเข้าใจความต้องการของสัตว์ทะเลหายากอย่างพะยูนมากยิ่งขึ้น มาเรียมจึงเป็นเหมือนคนในครอบครัว และสมาชิกของชุมชน เป็นความผูกพันระหว่างพะยูนและคนไทยอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หวังว่า โชคชะตาที่ไม่อาจกำหนดได้ของดุหยงน้อยมาเรียม จะเป็นการจุดประกายครั้งสำคัญให้เกิดการจัดการอนุรักษ์แหล่งหญ้าทะเลอันเป็นบ้านของพะยูนฝูงใหญ่ที่สุดในประเทศที่เหลืออยู่อย่างเข้มแข็งจริงจัง เพื่อให้ชุมชนและสัตว์ทะเลหายากได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ "นายจตุพร กล่าวว่าทิ้งท้าย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/