บอร์ดอาชีพ บอร์ดมวย เห็นชอบเยียวยากลุ่มกีฬาอาชีพ และกีฬามวย คาดเริ่มเบิกจ่ายได้ภายใน มิ.ย.นี้ รวมเป็นเงิน 182 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกีฬาอาชีพ ครั้งที่ 3/2563 โดยมี นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ และกรรมการที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
สาระสำคัญของการประชุมวันนี้ คือการพิจารณางบประมาณในการช่วยเหลือกลุ่มกีฬาอาชีพ โดยหลังจากคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มกีฬาอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิค-19) ได้เรียกประชุมรับฟังข้อมูลผลกระทบ ความเดือดร้อน เมื่อวันที่ 22-24 เม.ย.ที่ผ่านมา จาก 13 ชนิดกีฬาและผู้มีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือ ทั้ง 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.นักกีฬาอาชีพ,2.บุคลากรกีฬาอาชีพ,3.สมาคมกีฬาอาชีพ 4.สโมสรกีฬาอาชีพ,และ5.ผู้จัดการแข่งขัน และได้ส่งรายชื่อนักกีฬาและบุคคลากรกีฬาอาชีพที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตาม พ.ร.บ.กีฬาอาชีพ ให้กระทรวงการคลังตรวจสอบสิทธ์ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนเรียบร้อยแล้ว
ที่ประชุมพิจารณาอนุมัติงบประมาณให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ฯ กลุ่มกีฬาอาชีพ จำนวนทั้งสิ้น 182,200,000 บาท โดยอนุมัติปรับแผนงบประมาณที่กองทุนสนับสนุนมาก่อนหน้านั้น จำนวน 75,592,584 บาท และเห็นชอบเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ อีกจำนวน 106,607,416 บาท ต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบปรับปรุงคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการกีฬาอาชีพ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน จาก 8 คณะ เหลือ 4 คณะ ดังนี้
1.คณะอนุกรรมการกฎหมายกีฬาอาชีพ 2.คณะอนุกรรมการนโยบายส่งเสริมและพัฒนากีฬาอาชีพ 3.คณะอนุกรรมการกลั่นกลองเพื่อพิจารณาให้การคุ้มครอง การช่วยเหลือ การส่งเสริม และการสนับสนุนกีฬาอาชีพ และ 4.คณะอนุกรรมการกำกับ ติดตาม เร่งรัด และประเมินผลการดำเนินงานกีฬาอาชีพ
เวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการกีฬามวย ครั้งที่ 3/2563 พิจารณาอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือ เยียวยา บุคคลในวงการกีฬามวยที่ลงขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ทั้ง 7 กลุ่ม ได้แก่
1.นักมวย อายุ 15-17 ปี และนักมวย 18 ปีขึ้นไป
2.ผู้ฝึกสอน
3.ผู้ตัดสิน
4.หัวหน้าค่ายมวย
5.ผู้จัดการนักมวย
6.ผู้จัดรายการแข่งขัน
และ 7.นายสนามมวย
ที่ประชุมอนุมัติกรอบวงเงินทั้งสิ้น จำนวน 79,150,000 บาท โดยอนุมัติปรับแผนงบประมาณจำนวน 25,642,000 บาท และเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ อีกจำนวน 53,508,000 บาท ต่อไป ทั้งนี้ในการเบิกจ่ายต้องเป็นไปตามคุณสมบัติที่ระเบียบให้ความช่วยเหลือฯ กำหนด
รมต. ว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยหลังการประชุมว่า ที่ประชุมพิจารณาเรื่องช่วยเหลือเยียวยาบุคลากรกีฬาอาชีพโดยเอาเงินส่วนที่ กกท. มีอยู่แล้ว ประมาณ 75 ล้านบาทเศษ และจะขอจากกองทุนอีก 106 ล้านบาทเศษ รวมเป็นเงิน 182 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเยียวยาขั้นต้น ทางกระทรวงจะนำเรื่องเสนอในการประชุมคณะกรรมการกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ เพื่อจะขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการประชุมคราวต่อไป ในส่วนของสมาคม สโมสร เราจะช่วยเหลือสมาคมหรือสโมสรละไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งมีจำนวนประมาณ 110 สโมสร รวมเป็นเงิน 55 ล้านบาท ซึ่งทางกระทรวงจะนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อขอเงินจากกองทุนฯ และในส่วนของนักกีฬาจะได้รับคนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งหลังจากนี้ถ้ายังไม่มีการแข่งขันหลังจาก 3 เดือน ก็ต้องรอนโยบายจากรัฐบาลต่อไปว่าจะมีการเยียวยาเพิ่มเติมหรือไม่ ถ้าหากทางรัฐบาลมีการเยียวยาเพิ่มเติมจำนวนเท่าไหร่ ทางกระทรวงก็จะทำเรื่องเยียวยาให้กับนักกีฬาเทียบเคียงไปกับทางรัฐบาล โดยจะเริ่มจ่ายเงินในเดือนมิถุนายนทั้งหมด คาดว่าจะจ่ายครั้งเดียวรวมของทั้ง 3 เดือนเลย เป็นเงิน 15,000 บาท/คน
รมต.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเพิ่มเติ่มว่า สำหรับการประชุมคณะกรรมการกีฬามวย โดยนักกีฬามวยกลุ่มอายุ ไม่ถึง 18 ปี ซึ่งไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินเยียวยาจากทางรัฐบาล ตรงนี้ก็เป็นกลุ่มแรกที่เราจะให้การเยียวยา และในกลุ่มที่มีอายุเกิน 18 ปี จะเอารายชื่อไปหารือกับกระทรวงการคลังว่ามีรายชื่อซ้ำซ้อนกับที่ได้รับจากทางกระทรวงการคลังหรือไม่ ถ้าหากมีรายชื่อซ้ำซ้อนก็จะไม่ได้รับการเยียวยาจากเรา โดยที่ประชุมอนุมัติใช้เงินทั้งหมดโดยประมาณ 79 ล้านบาทเศษ โดยจะทำการเยียวยาให้เร็วที่สุด เมื่อได้รับเงินจากกองทุนฯมา ทาง กกท. จะให้การเยียวยารวมครั้งเดียวเลยเป็นเวลา 3 เดือน ถ้าหากยังไม่ได้รับการเยียวยาตั้งแต่ต้น ก็จะได้รับเงิน 15,000 บาท ทีเดียวเลย ลักษณะเดียวกับกีฬาอาชีพ แต่ตรงนี้เรามีต่อเนื่องไปว่านอกจากนักมวยแล้วยังมีครูมวย และบุคลากรทางกีฬามวย หัวหน้าค่ายมวยและโปรโมเตอร์ด้วย ซึ่งเราจะดูความเหมาะสมว่าวงเงินที่ได้รับจากกองทุนกีฬาเท่าไหร่ เราก็จะดูตามความสำคัญแต่นักมวยเราจะให้ความสำคัญลำดับที่1 ครูมวยลำดับที่2 แล้วก็ลดลงมาตามวงเงินที่ได้รับ แต่คาดว่าเงินที่เราขอทางกองทุนน่าจะได้รับตามที่ขอไป
ที่มาภาพ:https://www.thaigov.go.th