สหภาพคนทำงานเครือข่ายแรงงาน แถลงจุดยืนประเด็นค่าแรงขั้นต่ำ ชี้แรงงานต้องได้ค่าจ้างมากกว่า 723 บาท/วัน เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามมาตรฐานสังคม ย้ำอยากเห็นนโยบายเพิ่มค่าแรงมากกว่า 600 บาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2565 เฟซบุ๊ก สหภาพคนทำงาน Workers' Union เผยแพร่แถลงการณ์แรงงานว่าด้วยประเด็นนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โดยมีสหภาพคนทำงาน, เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน, สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์หนังแห่งประเทศไทย และกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง แถลงจุดยืนร่วมขององค์กรต่อประเด็นค่าแรงขั้นต่ำ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราสรุปสาระสำคัญจากแถลงการณ์ข้างต้น 4 ประการ ดังนี้
1. จากการสำรวจความคิดเห็นสมาชิกสหภาพคนทำงานจำนวน 263 คน พบว่าสมาชิกส่วนมากมีความประสงค์ที่จะเห็นข้อเสนอการปรับค่าแรงขั้นต่ำที่ตั้งเป้าสูงกว่า 600 บาทต่อวัน มากกว่าข้อเสนอของพรรคการเมืองใดใด ณ เวลานี้
2. สหภาพคนทำงานและเครือข่ายไม่เห็นด้วยกับการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำที่อ้างอิงกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศเป็นหลัก ที่มักจะมองผลประโยชน์ของธุรกิจมาก่อนแรงงานเสมอ อีกทั้งมาตรการค่าแรงขั้นต่ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อกลุ่มคนเปราะบางและคนชายขอบ
3. สหภาพคนทำงานและเครือข่ายสนับสนุนหลักการ 'ค่าจ้างเพื่อชีวิต' ซึ่งผลการศึกษาระบุว่าในปัจจุบันแรงงานต้องได้ค่าจ้างมากกว่า 723 บาทต่อวัน จึงจะสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้
4. สหภาพคนทำงานและเครือข่ายต้องการเสรีภาพในการรวมกลุ่มเป็นสหภาพแรงงานและใช้อำนาจต่อรองตามเนื้อหาในอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 87 และ 98
มีรายละเอียดแถลงการณ์ฉบับเต็ม ดังนี้
สหภาพคนทำงาน, เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน, สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์หนังแห่งประเทศไทย และกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง ขอแถลงจุดยืนร่วมขององค์กรว่าด้วยค่าแรงขั้นต่ำ ดังนี้
เนื่องในวันที่ 7 ธ.ค. 65 ทางพรรคเพื่อไทยได้มีการจัดการแถลงหลากหลายนโยบายของพรรคในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ หนึ่งในนโยบายที่ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนผู้ใช้แรงงานรอบข้างเป็นอย่างมากคือนโยบาย 'ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท' (หรือในบางแถลงจะให้รายละเอียดเพิ่มว่า 600–700 บาทต่อวัน ภายในปี 2570) ซึ่งแน่นอนว่าได้กลายเป็นที่ถกเถียงในวงกว้าง พวกเรา สหภาพคนทำงาน เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน สหพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอ การตัดเย็บเสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์หนัง แห่งประเทศไทย กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง จึงขอใช้โอกาสนี้แสดงจุดยืน ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะว่าด้วยการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 3 ข้อดังนี้
1. จากการสำรวจความคิดเห็นสมาชิกโดยคร่าวในกลุ่มสมาชิกสหภาพคนทำงานในวันที่ 7 ธ.ค. 2565 พบว่า 70% จากผู้แสดงความเห็น 263 คน เห็นด้วยกับข้อความว่า '(ค่าแรงขั้นต่ำ) ต้องสูงกว่า 600 บาทต่อวันได้แล้ว' และ 19% จากผู้แสดงความเห็น 263 คน เห็นด้วยกับข้อความว่า '(ค่าแรงขั้นต่ำ) 600 บาทต่อวันดีแล้ว' และที่ส่วนเหลือเห็นด้วยกับข้อความต่าง ๆ เช่น 'ผลักดันวันละ 450 บาท ให้ผู้ประกอบการยอมรับให้ได้ก่อน', 'ตามกลไกตลาด ประสิทธิภาพ ผลผลิตของผู้รับจ้าง' และ '1,000 บาทต่อวันเท่านั้น' เป็นต้น ซึ่งสรุปได้ว่าสมาชิกจำนวนมากของสหภาพคนทำงานมีความประสงค์ที่จะเห็นข้อเสนอการปรับค่าแรงขั้นต่ำที่ตั้งเป้าสูงกว่า 600 บาทต่อวัน มากกว่าข้อเสนอของพรรคใดใดในสภา ณ เวลานี้
2. เราไม่เห็นด้วยกับหลักการการกำหนดค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานที่อ้างอิงกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศเป็นหลัก ซึ่งมักจะทำให้เกิดการมองผลประโยชน์ของธุรกิจมาก่อนแรงงานเสมอ ในวันที่เศรษฐกิจซบเซาลง หรือประเทศประสบวิกฤติต่าง ๆ อาทิเช่นวิกฤติโรคระบาดโควิด 19 ความมั่นคงในการจ้างงานและรายได้ของแรงงานมักถูกบั่นทอนก่อนเพื่อลดภาระภาคส่วนอื่น ๆ สำหรับนโยบายที่ควรมีจุดมุ่งหมายเป็นการคุ้มครองสิทธิแรงงานขั้นต่ำอย่างนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ ความสำคัญของแรงงานต้องมาก่อนและตลาดแรงงานต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน เราไม่หวังพึ่งให้คนส่วนใหญ่ผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจต้องใช้สิทธินี้ แต่เนื่องจากผู้คนที่ต้องใช้สิทธินี้มักเป็นกลุ่มเปราะบาง คนหาเช้ากินค่ำและคนชายขอบ สังคมจึงต้องมีกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำเอาไว้รักษาความปลอดภัยพื้นฐานของการดำรงชีวิต
3. เราขอเสนอและให้การสนับสนุนหลักการ 'ค่าจ้างเพื่อชีวิต' หรือ Living Wage ซึ่งมีนิยามว่า 'ค่าตอบแทนสำหรับการทำงานตามเวลาปกติ ที่ทำให้แรงงานเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว ด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายด้านอาหาร น้ำ ที่อยู่อาศัย การศึกษา การรักษาพยาบาล การเดินทาง เครื่องนุ่งห่ม และสิ่งจำเป็นอื่น ๆ ในการใช้ชีวิตตามมาตรฐานของสังคม ตลอดจนการเตรียมตัวรับมือกรณีฉุกเฉิน' ซึ่งในบริบทของสังคมไทยนั้น ดร.กฤษฎา ธีระโกศลพงศ์ หัวหน้าคณะทำงานพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาค่าจ้างแรงงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้กับรัฐสภา ได้เผยแพร่ผลสำรวจล่าสุดในปีนี้ว่ารายได้ของครัวเรือนที่ไม่มีสมาชิกพึ่งพิงจะต้องไม่น้อยกว่า 723–789 บาทต่อวัน และรายได้ของครัวเรือนที่มีสมาชิกพึ่งพิง (2–3 คน) ต้องไม่น้อยกว่า 1,003–1,070 บาทต่อวัน ซึ่งเรามองเห็นว่าสอดคล้องกับเป็นความเป็นธรรมทางสังคมที่แรงงาน คนส่วนใหญ่ของสังคม พึงได้รับจากการร่วมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งหมดขึ้นมา
สุดท้ายนี้ พวกเราประชาชนผู้ใช้แรงงาน มุ่งหวังไม่เพียงแค่ค่าแรงที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตอย่างอิสระ หรือรัฐสวัสดิการที่จะเพิ่มพูนโอกาสทางสังคม แต่เราต้องการเสรีภาพในการรวมกลุ่มเป็นสหภาพแรงงานและใช้อำนาจต่อรองตามเนื้อหาในอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 87 และ 98 ด้วย ทั้งนี้เพื่อใช้สิทธิของเราในระบบไตรภาคีอย่างเต็มที่และร่วมเสนอแนะการแก้ไขปัญหาประเด็นปากท้องของพวกเราด้วยปากเสียงของพวกเราเอง
เอกสารเพิ่มเติม: