‘ประยุทธ์’ นั่งหัวโต๊ะประชุมมาตรการคุมปืน-ยาเสพติด แจงมีคุยกันหลายเรื่องทั้งมาตรการทบทวนการออกใบอนุญาตและยึดคืนปืนกรณีมีปัญหาทางจิต มอบ ‘กฤษฎีกา’ ดูแก้กม.การครอบครองยาเสพติด เล็งดึงระบบจัดการด้านสุขภาพจิตลงลึกระดับโรงเรียน ก่อนขอประชาชนแจ้งเบาะแส
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 12 ตุลาคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม, พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.), นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะเลขานุการการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืนร่วมแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ
โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อกำหนดมาตรการสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและเรื่องที่เป็นปัญหาในปัจจุบันคือ เรื่องของอาวุธปืน ได้มีการหารือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมาตรการสำคัญที่ได้มีการหารือกันในครั้งนี้เพื่อให้เกิดการบูรณาการให้เป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาของอาวุธปืนและปัญหายาเสพติด
คุมออกใบอนุญาตปืน-ยึดคืนกรณีมีปัญหาทางจิต
โดยเรื่องแรกเกี่ยวกับอาวุธปืน จะมีการกวดขันการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุน อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องของการออกใบอนุญาตและการต่อใบอนุญาตและการพกพาทั้งหมด ในส่วนของผู้ยื่นขอใบอนุญาตนั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน มีการตรวจสอบและรับรองทางจิต ไม่วิกลจริต ฟั่นเฟือน มีการรับรองจากผู้บังคับบัญชา ชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งต้องไม่มีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสังคม ให้มีมาตรการตรวจสอบและทบทวน เพื่อพิจารณาคุณสมบัติในทุกๆรอบ ตามระยะเวลาที่เหมาะสม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการหารือในเรื่องการเพิกถอนใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน เมื่อพบปัญหาทางจิต พฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม การใช้ยาเสพติด กวาดล้างจับกุมอาวุธเถื่อนและการซื้อขายทางออนไลน์อย่างจริงจัง และจำเป็นจะต้องทบทวนกฎหมายบางฉบับ กฎกระทรวงบางเรื่องที่จำเป็นให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ในส่วนของเรื่องอาวุธปืนยังมีรายละเอียดอีกมากซึ่งได้มอบหมายไปแล้วว่าจะต้องมีการดำเนินการอย่างไรต่อไปเป็นเรื่องของคณะทำงานที่จะต้องเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น
กฤษฎีกา ดูแก้กม.การครอบครองยาเสพติด
นายกฯ กล่าวว่า ในเรื่องมาตรการการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด วันนี้เราทำอย่างเต็มที่ในเรื่องการควบคุมการนำเข้าและส่งออกสารเคมี การเร่งติดตามการสืบสวนและขยายผล ทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดและการยึดอายัดทรัพย์สิน การบูรณาการ การนำผู้เสพ เข้าสู่ระบบศูนย์ข้อมูล การทบทวนกรณีผู้เสพเป็นผู้ป่วย ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับ ประเด็นปริมาณการครอบครองเพื่อนำไปสู่การฟื้นฟู เรื่องนี้ต้องไปทบทวนและพิจารณาดู โดยวันเดียวกันนี้ในที่ประชุมได้มีการพูดถึงปริมาณ 5 เม็ด หรือ 15 เม็ด ถ้าจำเป็นต้องมีการปรับแก้กฎหมายเหล่านี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
เร่งตั้งศูนย์คัดกรองบำบัดยาระดับชุมชน
ส่วนเจ้าหน้าที่และข้าราชการ ที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการลงโทษอย่างเด็ดขาดในทุกกรณีในการเข้าไปเกี่ยวข้องโดยทันที สำหรับมาตรการการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดจำเป็นต้องเร่งค้นหาคัดกรองผู้ป่วยเข้าสู่สถานฟื้นฟูภาคีเครือข่าย เร่งจัดตั้งศูนย์คัดกรองให้ครบและครอบคลุมในทุกตำบล ทั้งกระทรวงสาธารณสุข ส่วนท้องถิ่น และสถานบำบัดรักษาให้เป็นไปตามมาตรฐานของสากล ซึ่งกระบวนการบำบัดให้ใช้ชุมชนเป็นฐานซึ่งวันนี้ต้องหาให้ได้ว่าในพื้นที่ ในท้องถิ่น ชุมชนหมู่บ้าน มีจำนวนผู้ติดยาเสพติดมากน้อยแค่ไหนอย่างไร เพราะมีการพูดกันไปมาว่าพื้นที่ตรงนั้นตรงนี้มีมากจึงต้องเข้าไปเอกซเรย์คัดคนพวกนี้ออกมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการเหล่านี้ให้ได้
เล็งนำระบบดูแลสุขภาพจิตลงสู่ระดับ ‘โรงเรียน’
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนของชุมชนถือเป็นส่วนสำคัญในการที่จะต้องช่วยกันกับทางรัฐและส่วนราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องที่ชอบความรุนแรง มีปัญหาส่วนตัวติดยาเสพติด ที่ประชุมได้มีข้อเสนอว่าจะต้องมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อติดตามดูแลคนเหล่านี้ เรื่องต่อไปคือการพัฒนาแก้ไขปัญหาในเรื่องของสุขภาพจิตวันนี้ได้เน้นย้ำให้ไปดูแลระบบสุขภาพจิตในโรงเรียน สถานศึกษาทุกแห่ง สถานประกอบการต่างๆ ที่มีพนักงานจำนวนมากและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาวุธร้ายแรงจะต้องหารือร่วมกันในส่วนของการบำบัดฟื้นฟูต้องดำเนินการโดยทันที ทั้งกลุ่มงานจิตเวชและการปราบปรามยาเสพติดในทุกอำเภอ มีการตั้งกองอำนวยการจิตเวชฉุกเฉินทุกอำเภอเพื่อที่จะได้ดูแลเบื้องต้นเรื่องจิตเวชในทุกโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล โดยใช้วิธีการชุมชนบำบัด มีสิทธิประโยชน์ต่างๆในการรักษาจิตเวชทางไกล เพื่อที่จะสามารถดูแลต่อเนื่องในชุมชน
“วันนี้มีการหารือในหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งความจริงแล้วรัฐบาลเข้มงวดกับเรื่องเหล่านี้มาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีปัญหาอยู่ อีกทั้งวันนี้มันเป็นปัญหาที่ซ้อนปัญหาไปในเรื่องของการใช้อาวุธปืน และเรื่องการก่อเหตุรุนแรง อีกทั้งมีพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากผู้ที่ติดยาเสพติดและผู้ที่ไม่ติดยา เป็นเรื่องที่ห่วงใยในฐานะของรัฐบาล พยายามจะทำให้ดีที่สุด ในที่ประชุมทั้งรองนายกฯ และรัฐมนตรีได้ให้ความกรุณาในการเสนอแนะข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง ได้มีการทบทวนและใช้เวลาในการดำเนินการ แต่อะไรที่ทำได้เราจะทำทันที จึงขอเตือนไว้ด้วยว่าทุกคนต้องช่วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์ระบุตอนหนึ่ง
ขอความร่วมมือประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า วันนี้มีการแจ้งข่าวในช่องทางพิเศษอยู่แล้ว ขอให้แจ้งกันมาในช่องทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการโดยทันที ยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลให้ความสำคัญอย่างที่สุดอย่างยิ่งยวด ซึ่งในการหารือกันยังได้พูดถึงอุปสงค์และอุปทานรวมทั้งการแก้ไขปัญหากับผู้เสพรายใหม่ การดูแลว่าจะต้องทำอย่างไรในชุมชน ทั้งหมดเป็นระบบทั้งในเรื่องของการป้องกันและป้องปราม การปราบปรามและการบำบัดรักษา จะต้องทำอย่างครบถ้วน ซึ่งต้องขอทางสื่อมวลชนช่วยทำความเข้าใจด้วยว่ารัฐบาลไม่เคยปิดกั้นใครในการรับข้อมูลก็ขอให้แจ้งเข้ามา จะได้นำไปสู่การแก้ปัญหาได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องมีการเร่งรัดการดำเนินการในสถานศึกษาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์เพียงแต่พยักหน้ารับ และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าในทันที ก่อนที่สื่อมวลชนจะถามย้ำว่าคณะกรรมการชุดนี้มีความแตกต่างจากคณะกรรมการชุดอื่นอย่างไร โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวสั้นๆเพียงว่า “เดี๋ยวให้เลขาฯเป็นผู้ชี้แจง”
ที่มา: ไทยโพสต์
ที่มาภาพ: สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล