‘ไผ่ ลิกค์’ โพสต์โต้ ‘สมศักดิ์ พันธ์เกษม’ หลังร่อนจดหมายขอ ‘บิ๊กป้อม’ ทบทวนมติขับ 21 ส.ส. ถามประชุมเกือบ 5 ชม. บอกไม่รู้เรื่องหรือกลับลำหลังไปพบใครมาหรือไม่ พร้อมย้อนถามว่าสุดท้ายแล้วจะอยู่พรรคไหน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 1 ใน 21 ส.ส.ที่พรรคมีมติขับพ้นสมาชิกพรรค โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ... ตอบโต้กรณีที่นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา พปชร. ทำหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ขอให้ทบทวนมติการขับ 21 ส.ส.พ้นสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า “วันนี้ ส.ส.เบี้ยว (ชื่อเล่นของนายสมศักดิ์) ออกมาบอกว่าไม่รู้เรื่องในทุกเรื่องที่เกิดขึ้น ในการโดนขับออกจากพรรค พปชร.
นายไผ่ กล่าวอีกว่า ตนเกิดความสงสัยขึ้นมากมาย ว่า พี่มาถึงประมาณบ่าย 4-5โมง มีเวลาถึงเกือบ 3 ทุ่ม ขั้นตอนในการประชุมมีหลายขั้นตอนมาก ไม่ว่าจะเรียกมาคุยกันก่อน ตามด้วยประชุมกับหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคประชุมกันเอง และมาประชุมร่วมกับสมาชิกพรรค ทุกขั้นตอนมีการหารืออย่างเผ็ดร้อน ในการประชุมทุกขั้นตอน
“พี่นั่งอยู่หลังผม พี่กลับบอกไม่รู้เรื่องด้วย ไม่รู้เรื่องมาก่อน และที่สำคัญตอนยกมือขอมติจากสมาชิกพรรค พี่ยกมือด้วย แต่พอผ่านไปสองวัน คนไม่รู้เรื่องกลายเป็นคนเก่งขึ้นมา ร่างจดหมายได้ยาวเหยียด หลักการครบทุกอย่าง ความจำดีจำทุกอย่างทุกขั้นตอนได้หมด ที่พี่จำได้อาจจะไม่ใช่ที่พี่จำได้แต่อาจจะเพราะพี่ไปพบใครมาหรือไม่” นายไผ่ กล่าว
นายไผ่ กล่าวอีกว่า สุดท้ายสงสารประชาชนมาก ที่มี ส.ส.แบบนี้ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ขนาดนั่งประชุมขนาดนี้ และที่โหวตๆ มารู้เรื่องบ้างหรือไม่ นี่ไม่รู้เรื่องขนาดโทรมาบอกว่า “ผมดีใจมาก ผมรอมานานแล้ว” ด้วย หรือพี่ได้ยาวิเศษอะไรเข้าไปเลยเปลี่ยนพี่ไปขนาดนี้ แล้วสุดท้ายพี่จะไปอยู่พรรคไหน #RIPครับพี่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ได้ยื่นหนังสือ 8 หน้า ถึง พล.อ.ประวิตร เพื่อขอให้ทบทวนมติเกี่ยวกับการขับพ้นสมาชิกภาพพรรค โดยอ้างว่า ไม่เคยทราบ และไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และอดีตเลขาธิการ พปชร.จะเสนอให้มีการปรับโครงสร้างขนานใหญ่ และไม่เคยเรียกร้อง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่มีส่วนร่วมใดๆ ในการเสนอข้อเรียกร้องให้มีการปรับโครงสร้าง
นายสมศักดิ์ ระบุอีกว่า ไม่ทราบว่าเหตุใดจึงมีชื่อตนเองต่อที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค และที่ประชุม ส.ส.เพื่อพิจารณาว่า ตนเอง และ ร.อ.ธรรมนัส และพวก รวม 21 คนเรียกร้องให้มีการปรับโครงสร้างพรรค
