กคพ.มีมติให้ดีเอสไอ รับดำเนินคดีกฎหมายสำคัญหลายฉบับ รองรับสถานการณ์ที่พบความผิดทวีความรุนแรงขึ้น พร้อมเสนอ ครม.ออกกฎกระทรวง กำหนดคดีพิเศษเพิ่ม 3 เรื่อง สื่อลามกอนาจารเด็ก-ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา-ยาเสพติด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2564 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ครั้งที่ 1/2564 โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะรองประธานกรรมการคดีพิเศษ , คณะกรรมการคดีพิเศษ และ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการและเลขานุการ เข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมมีมติในเรื่องสำคัญ ดังนี้
1.รับทราบมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2564 แต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการคดีพิเศษ จำนวน 9 คน ประกอบด้วย (1) นายศรพล ตุลยะเสถียร ด้านเศรษฐศาสตร์ (2) นายสราวุธ เบญจกุล ด้านการเงินการธนาคาร (3) พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (4) นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ด้านกฎหมาย (5) นายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว ด้านกฎหมาย (6) พล.อ.ณรงค์ฤทธิ์ อิศรัตน์ ด้านความมั่นคงประเทศ (7) พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ด้านการสอบสวนคดีอาญา (8) พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ (9) นายมานะ นิมิตมงคล ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งเป็นการแต่งตั้งแทนคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ครบวาระ โดยผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. 2564 – 24 พ.ค. 2566
2.เห็นชอบให้ออกข้อบังคับ กคพ. ว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับคดีพิเศษ พ.ศ. 2564 เพื่อกำหนดผู้เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบที่มีอำนาจทำความเห็นทางคดีเมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้น ตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการกองจนถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามประเภทและความซับซ้อนของคดี รวมถึงหลักเกณฑ์การปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับคดีพิเศษ เพื่อให้การสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
3.เห็นชอบให้เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อออกกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติม ตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ (ฉบับที่ ... ) พ.ศ. .... เพื่อเพิ่มเติมกฎหมายจำนวน 3 ฉบับ ประกอบด้วย (1) คดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก (2) คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา และ (3) คดีความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เนื่องจากคดีดังกล่าวปัจจุบันมีการกระทำความผิดโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือจึงทำให้เกิดการขยายตัวและมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น เป็นภัยต่อความมั่นคงประเทศและความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ
4.เห็นชอบให้นำกฎหมายที่เคยมีมติในการประชุม ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2561 ให้พ้นจากความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษกลับมาดำเนินการต่อไป จำนวน 5 ฉบับ ประกอบด้วย (1) คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค (2) คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (3) คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง (4) คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยยา และ (5) คดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปและความผิดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวทวีความรุนแรงขึ้น
5.เห็นชอบแนวทางการส่งสำนวนคดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด โดยให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อหารือประเด็นดังกล่าวต่อไป