กรุงเทพมหานคร ออกประกาศ ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ทั้งใน นอกห้างสรรพสินค้า ไม่เว้นแม้แต่ร้านโชห่วย ให้เปิดได้ตั้งแต่เวลา ตี 5- เที่ยงคืน สวนสาธารณะปิดทั้งหมด หลังพบยังรวมกลุ่มทำกิจกรรม
วันที่ 1 เมษายน ร้อยตำรวจเอก พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงมาตรการของกรุงเทพมหานคร ในการเปิดและปิดบางสถานที่ ว่า จากการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อฯ มีผลสรุปว่า กทม.จะออกประกาศฉบับที่ 5 เรื่องการควบคุมเวลาเปิด อนุญาตให้เปิดตั้งแต่เวลา 05.01 น.- 24.00 น. ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ทั้งในห้างสรรพสินค้าและนอกห้างสรรพสินค้า รวมถึงร้านโชห่วย
ส่วน ร้านอาหาร หรือเครื่องดื่มที่อยู่ในคูหา รถเข็น แผงลอย ก็เปิด ตั้งแต่เวลา 05.01 น.- 24.00 น. เช่นเดียว เพื่อให้ร้านเหล่านี้มีการทำความสะอาดอย่างเคร่งครัด
โฆษกกทม.กล่าวว่า กทม.ยังไม่ได้ล็อกดาวน์ วันนี้เราพยายามลดกิจกรรมนอกบ้านให้มากที่สุด ร้านสะดวกซื้อยังเปิดเหมือนเดิม แต่ให้ปิดบางช่วงเวลา
พื้นที่สวนสาธารณะ ในกทม.ทั้งของรัฐและอกชน โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า มีประกาศให้ปิด ที่ผ่านมามีอนุโลมให้เปิดอยู่ แต่หลังจากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น กลายเป็นแหล่งรวมพล รวมกินข้าว ทำกิจกรรม ออกกำลังกายใกล้ชิดกัน กทม.จะปิดสวนสาธารณะเหล่านี้ก่อน ทั้งสวนชุมชน และสวนในหมู่บ้านด้วย ประกาศทั้งหมดมีผลวันที่ 2 -30 เมษายน
ร้อยตำรวจเอก พงศกร กล่าวถึงตลาดภายใต้การดูแลของกทม. หลังประกาศปิดสถานที่ และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน กทม.พิจารณายกเว้นค่าแผง เช่าพื้นที่สุขา และที่จอดรถ จำนวน 10 แห่ง เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ปกติ รวมถึงตลาดนัดจตุจักร ที่กทม.ดูแล กทม.เตรียมทำหนังสือไปยังการรถไฟฯ ขอยกเว้นค่าเช่า เป็นระยะเวลา 6 เดือน
สำหรับ 50 สำนักงานเขต ของกรุงเทพมหานคร ได้ปรับแนวทางให้บริการงานทะเบียน ลดความหนาแน่นของประชาชน ดังนี้
วันราชการ (จันทร์-ศุกร์) เวลา 08.00-16.00 น.
งานทะเบียนราษฎร์ ให้บริการเฉพาะการรับแจ้งเกิด-ตาย การตรวจ คัดและรับรองสำเนารายการทะเบียนราษฎร
งานบัตรประจำตัวประชาชน ให้บริการเฉพาะขอตรวจคัดและรับรองสำเนาเกี่ยวกับบัตรประจำตัวประชาชน
งานทะเบียนทั่วไป ให้บริการเฉพาะจดทะเบียนสมรส-หย่า และคัดรับรองเอกสารเกี่ยวกับงานทะเบียนทั่วไป
สำหรับวันหยุดราชการ (เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 08.00-16.00 น.
ให้บริการเฉพาะรับแจ้งเกิด-ตาย
ในกรณีที่ประชาชนมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องใช้เอกสารหลักฐานการทะเบียน ให้สำนักงานเขตพิจารณาดำเนินการเป็นกรณีๆ ไป ทั้งนี้ จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จะคลี่คลาย
