ศปถ.สรุป 7 วันหยุดยาวสงกรานต์ ตายสะสม 278 ราย มากสุดที่ กทม. อุบัติเหตุสะสม 1,917 ครั้ง บาดเจ็บ 1,869 ราย สาเหตุหลักขับรถเร็ว 36.67%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2565 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจ ด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ในฐานะประธานการประชุม คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) เปิดเผยว่า วันที่เจ็ดของการรณรงค์ ‘ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ’ เกิดอุบัติเหตุ 188 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 171 คน ผู้เสียชีวิต 31 ราย
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 40.69 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 21.81 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.11 รถปิกอัพ 7.37 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 47.34 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 27.66 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 85.64 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 17.01 – 18.00 น. ร้อยละ 11.17 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20 – 29 ปี และช่วงอายุ 50 – 59 ปี ร้อยละ 17.33
โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา เชียงราย และเพชรบุรี (จังหวัดละ 8 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เพชรบุรี (9 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กำแพงเพชร พระนครศรีอยุทธยา ราชบุรี ร้อยเอ็ด ลำปาง สงขลา และสุพรรณบุรี (จังหวัดละ 2 ราย)
เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,895 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 56,134 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 372,032 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 59,049 รายมีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 16,503 ราย ไม่มีใบขับขี่ 15,366 ราย
สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 7 วัน (วันที่ 11 – 17 เม.ย.2565) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,917 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,869 คน ผู้เสียชีวิต 278 ราย
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (66 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (63 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (13 ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตรวม 6 จังหวัด ได้แก่ นครพนม ปัตตานี ยะลา ระนอง สมุทรสาคร และสิงห์บุรี
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 พบว่า จำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและจำนวนผู้บาดเจ็บลดลงจากปีที่ผ่านมา แต่มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
โดยสถิติผู้เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุมีอัตราที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการขับรถด้วยความเร็วสูง ทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิต ซึ่งในช่วงสงกรานต์ปีนี้
จำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลค่าเฉลี่ยสถิติอุบัติเหตุทางถนนย้อนหลัง 3 ปี
สำหรับสาเหตุหลักของอุบัติเหตุทางถนนยังคงเกิดจากการขับรถเร็วและดื่มแล้วขับ รวมถึงจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด ซึ่ง ศปถ.ประสานจังหวัดบูรณาการสร้างความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยกำชับจังหวัดตรวจสอบข้อมูลสถิติ
อุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 เพื่อนำมาวิเคราะห์และถอดบทเรียนการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนในเชิงลึก รวมถึงค้นหาปัญหาอุปสรรคและปัจจัยความสำเร็จ มุ่งเน้นการสร้างความปลอดภัยทางถนนในมิติเชิงพื้นที่ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา สถานการณ์ และปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งคน รถ ถนน และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงานและติดตามประเมินผล การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ให้บรรลุเป้าหมายใหญ่ของประเทศ
สำหรับการดำเนินงานลดอุบัติทางถนนในภาพรวม ศปถ.จะได้รวบรวม ข้อเสนอแนะของทุกภาคส่วนไปจัดทำข้อเสนอ เชิงนโยบายให้รัฐบาลกำหนดเป็นกรอบแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพ การสร้างความปลอดภัยทางถนนของประเทศอย่างรอบด้าน เพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายระดับประเทศในการลดอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 12 คน ต่อประชากรแสนคนภายในปี พ.ศ.2570 ท้ายนี้ ขอเชิญชวนประชาชนคนไทยทุกคนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน การลดอัตราจำนวนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายเพื่อร่วมสร้างการสัญจรอย่างปลอดภัยของประเทศให้ยั่งยืน
ข่าวประกอบ :
- สถิติวันแรก เฝ้าระวังอันตรายช่วงสงกรานต์ ตาย 26 ส่วนใหญ่เกิดขับรถเร็ว-ดื่มแล้วขับ
- 2 วันสงกรานต์ ตาย 73 มากสุดที่นครราชสีมา-อยุธยา บาดเจ็บสะสม 530 ราย
- วันที่สาม 7 วันหยุดยาวสงกรานต์ ตายสะสม 113 ราย 'สมทุรสาคร' มากสุด
- วันที่ 4 ช่วงหยุดยาวสงกรานต์ ตายเพิ่ม 41 สะสม 157 มากสุดที่ 'ลำปาง'
- วันที่ 5 หยุดยาวสงกรานต์ ตายสะสม 204 เจ็บ 1,452 'เชียงใหม่' มากสุดทุกรายการ
- วันที่ 6 หยุดยาวสงกรานต์ ตายสะสม 237 กทม.มากสุด ศปถ.สั่งคุมเข้มขับรถเร็ว-ง่วงแล้วขับ