เสียชีวิตนิวไฮ 65! ไทยติดโควิดเพิ่ม 21,162 ราย อาการหนัก 1,148 ราย สะสม 3.04 ล. ส่วน ATK เป็นบวก 24,236 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อวันนี้อยู่ที่ 45,398 ราย ขณะที่หายป่วยเพิ่ม 23,159 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2565 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถาการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 21,162 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 20,986 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 20,784 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 202 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 74 ราย อีก 102 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 3,047,857 ราย
ส่วนผู้ป่วยเข้าข่ายจากการตรวจ ATK วันนี้อยู่ที่ 24,236 ราย ทำให้ไทยมีผู้ติดเชื้อรวมสูงถึง 45,398 ราย
หายป่วยเพิ่ม 23,159 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 230,459 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,148 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 375 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 65 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 23,300 ราย
ด้านผู้เสียชีวิต 65 ราย มาจาก กทม. 7 ราย ปริมณฑล 8 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 ราย ภาคเหนือ 6 ราย ภาคใต้ 17 ราย และภาคกลาง 15 ราย แบ่งเป็นชาย 34 ราย หญิง 31 ราย อายุระหว่าง 13-96 ปี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 คิดเป็น 97% จำแนกเป็น ผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี 55 ราย คิดเป็น 85% ป่วยเรื้อรัง 8 ราย คิดเป็น 12% และไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย คิดเป็น 3% สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ได้แก่ มีโรคประจำตัว โดยติดเชื้อจากคนรู้จัก ครอบครัว อยู่ในพื้นที่ระบาด และเรือนจำ
"การวิเคราะห์จำนวนผู้เสียชีวิตรายวัน 15 ก.พ. - 4 มี.ค. การระบาดของโอไมครอนเทียบเดลตา จำนวนเสียชีวิตน้อยกว่า ปัจจัยลดเสียชีวิตคือการรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ประเทศที่รับเข็มกระตุ้น 60% คือ อังกฤษ เยอรมนี และเกาหลีใต้ ทำให้การเสียชีวิตน้อย สอดคล้องกับข้อมูลของกรมควบคุมโรค คือ การรับวัคซีนเข็มกระตุ้นจะเสียชีวิตน้อยกว่าคนนับ 2 เข็ม 7 เท่า ลดการเสียชีวิต 41 เท่าเทียบกับคนไม่ได้รับวัคซีนเลย ซึ่งยังมีในไทย 2 ล้านกว่าราย" พญ.สุมนี กล่าว
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 2,803 ราย นครศรีธรรมราช 1,042 ราย สมุทรปราการ 872 ราย ชลบุรี 784 ราย นนทบุรี 723 ราย สมุทรสาคร 659 ราย นครราชสีมา 614 ราย ภูเก็ต 592 ราย นครปฐม 589 ราย และพระนครศรีอยุธยา 567 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ เมื่อวันที่ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 20,784 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 6,597 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 54,999 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 124,916,084 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 53,948,754 ราย คิดเป็น 77.6% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 49,864,844 ราย คิดเป็น 71.7% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 21,102,486 ราย คิดเป็น 30.3%
ส่วนสถานการณ์เตียงทั่วประเทศรวม 57.8% การระบาดของโอไมครอนเน้นรักษาอาการปานกลางถึงหนักหรือเตียงผู้ป่วยสีเหลืองและแดง โดยเตียงสีเหลืองระดับ 2.1 อยู่ที่ 25.1% เตียงสีเหลืองระดับ 2.2 อยู่ที่ 15.1% และเตียงสีแดง 25%
เดินทางเข้าไทยติดเชื้อใหม่ 102 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 102 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 60 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 37 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 3 ราย และลักลอบ 2 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน มี.ค. สะสมรวม 629 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 399 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 210 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 20 ราย
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1.15 ล. รวมสะสม 446.61 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1,158,152 ราย รวม 446,612,251 ราย อาการหนัก 71,228 ราย หายป่วย 379,629,953 ราย เสียชีวิต 6,019,441 ราย โดยประเทศที่พบผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยใหม่ใน 7 วัน 1,461,423 ราย สะสม 4,666,977 ราย เยอรมนี พบผู้ป่วยใหม่ใน 7 วัน 1,099,703 ราย สะสม 15,828,455 ราย เวียดนาม พบผู้ป่วยใหม่ใน 7 วัน 850,148 ราย สะสม 4,434,700 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 18 ของโลก
โควิดวันนี้ ตายพุ่ง 65 ยังรับวัคซีนไม่ครบ 46 ป่วยใหม่เพิ่ม 21,162 หายดี 23,159 ราย
อนึ่งเมื่อเวลา 08.18 น. สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2565 พบผู้ป่วยรายใหม่ 21,162 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21,060 ราย เดินทางกลับจากต่างประเทศ 102 ราย สะสมระลอก ม.ค. 824,422 ราย
เฉลี่ย 14 วัน มีผู้ติดเชื้อ จำนวน 22,619 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 22,469 ราย เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ 150 ราย
ทั้งนี้ มีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่มเติม 23,159 ราย สะสมรวมระลอก ม.ค. 625,604 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 230,459 ราย อาการหนัก 1,148 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 375 ราย
ขณะที่เสียชีวิตเพิ่ม 65 ราย เป็นผู้สูงอายุและกลุ่มโรคเรื้อรัง (กลุ่ม 608) จำนวน 63 ราย คิดเป็น 97% ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 2 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนไม่ครบ 46 ราย ได้รับวัคซีนสองเข็มครบ 19 ราย มีอาการติดเชื้อในปอดชัดเจน 41 ราย ไม่มีอาการติดเชื้อในปอด 6 ราย ที่เหลือข้อมูลไม่ชัดเจน