ศบค.พบผู้ป่วยรายใหม่ 18,953 หายป่วย 13,962 เหลือกำลังรักษาตัวอยู่ 162,460 ตายเพิ่ม 30 คน ขณะที่ตัวเลข กทม.ยังนำ 2,690 เสียชีวิตมากสุด 9 ราย ส่วนอีก 47 จังหวัดติดเชื้อเกินร้อย สถานการณ์โควิดไทยลดลงตกอยู่อันดับที่ 32 ของโลก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 18,953 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 18,652 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 18,466 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 186 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 118 ราย อีก 183 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,712,315 ราย
หายป่วยเพิ่ม 13,962 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 162,460 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 747 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 189 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 30 ราย เป็นผู้สูงอายุ 22 ราย คิดเป็น 73% ป่วยเรื้อรัง 7 ราย คิดเป็น 23% รวม 96% เสียชีวิตสะสม 22,624 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 30 ราย โดยในจำนวนนี้ มาจาก กทม. 9 ราย สมุทรสาคร 5 ราย ปทุมธานี 1 ราย สมุทรปราการ 1 ราย กาฬสินธุ์ 1 ราย ขอนแก่น 1 ราย เชียงราย 1 ราย สุโขทัย 1 ราย พัทลุง 1 ราย ภูเก็ต 1 ราย ลพบุรี 2 ราย กาญจนบุรี 1 ราย จันทบุรี 1 ราย ฉะเชิงเทรา 1 ราย ปราจีนบุรี 1 ราย พระนครศรีอยุธยา สระแก้ว 1 ราย มีปัจจัยเสี่ยงมาจากโรคประจำตัว การอาศัยในพื้นที่ระบาด และการติดเชื้อจากคนใกล้ชิด
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 2,690 ราย สมุทรปราการ 975 ราย ชลบุรี 828 ราย นครศรีธรรมราช 810 ราย นนทบุรี 762 ราย ภูเก็ต 549 ราย สมุทรสาคร 507 ราย ราชบุรี 466 ราย บุรีรัมย์ 441 ราย และนครปฐม 432 ราย ส่วนอีก 47 จังหวัดป่วยใหม่เกิน 100 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 61,661 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 39,717 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 182,283 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 121,583,665 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 53,100,356 ราย คิดเป็น 76.3% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 49,458,760 ราย คิดเป็น 71.1% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 19,024,549 ราย คิดเป็น 27.4%
โดยมีผลการให้บริการวัคซีนโควิดกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป จากเป้าหมาย 12,711,943 ราย ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 10,508,486 ราย คิดเป็น 82.7% เข็มที่สอง 9,903,638 ราย คิดเป็น 78% เข็มที่สาม 3,518,378 ราย คิดเป็น 27.7% และกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี จากเป้าหมาย 5,150,082 ราย ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 376,280 ราย คิดเป็น 7.3% เข็มที่สอง 13,604 ราย คิดเป็น 0.2%
เดินทางเข้าไทย ติดเชื้อใหม่ 183 สะสมเดือนนี้ 3.36 พันราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 183 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 75 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 75 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 6 ราย และลักลอบ 27 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน ก.พ. สะสมรวม 3,360 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 793 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 2,339 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 228 ราย
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1.59 ล. รวมสะสม 423.80 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 1,590,061 ราย รวม 423,807,334 ราย อาการหนัก 82,601 ราย หายป่วย 348,798,206 ราย เสียชีวิต 5,901,228 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 41,443 ราย รวม 80,072,561 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 715 ราย รวม 959,130 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 18,488 ราย รวม 42,820,993 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 673 ราย รวม 511,935 ราย บราซิล พบเพิ่ม 103,363 ราย รวม 28,167,587 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 827 ราย รวม 643,938 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 32 ของโลก
โควิดวันนี้ ป่วยเพิ่ม 18,953 หายกลับบ้าน 13,962 ตาย 30 ราย
อนึ่งก่อนหน้านี้ เวลา 08.02 น. สำนักข่าวอิศรารายงานสถานการณ์โควิดประจำวันว่า 18,953 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 18,770 ราย ในเรือนจำ 118 ราย อีก 183 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ทำให้มีผู้ป่วยสะสมระลอก ม.ค. 488,880 ราย
ทั้งนี้ มีผู้หายป่วยกลับบ้านเพิ่มเติม 13,962 ราย สะสมรวมระลอก ม.ค. 358,737 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 162,460 ราย อาการหนัก 747 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 189 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 30 ราย
เป็นผู้ป่วยในพื้นที่ 8 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวเต็มพื้นที่ 5,673 ราย จากพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวอื่นๆ 4,815 ราย และจังหวัดอื่นๆ 8,164 ราย