ติดเชื้อใหม่ 23,021 ราย อาการหนัก 5,565 ราย รวมสะสม 863,189 ราย เสียชีวิตอีก 184 ราย ทั่วประเทศพบ 11 คลัสเตอร์ใหม่ กระจาย 9 จังหวัด ส่วนใหญ่เดินทางจาก กทม. ศบค.คาดไม่ล็อกดาวน์ จะพบผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 7 หมื่นรายต่อวัน ลุ้นจันทร์หน้า! ชงคลายล็อกเปิดธนาคาร-ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า
------------------------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) เผยแพร่สถานการณ์โควิดประจำวัน โดยพบผู้ติดป่วยรายใหม่ 23,418 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 23,021 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 17,642 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 5,379 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 388 ราย และอีก 9 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 863,189 ราย หายป่วยเพิ่ม 20,083 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล 212,179 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 5,565 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 1,111 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 184 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 7,032 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 184 ราย มาจาก กทม. 71 ราย ปริมณฑล 34 ราย ภาใต้ 13 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 ราย ภาคเหนืแ 16 ราย และภาคกลาง 32 ราย แบ่งเป็นชาย 100 ราย หญิง 84 ราย อายุระหว่าง 12-105 ปี โดยปัจจัยเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรค ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ไขมันในเลือดสูง โรคไต โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคปอด หลอดเลือดสมอง ติดเตียง ตั้งครรภ์ ส่วนปัจจัยเสี่ยงสูงสุดมาจาคนในอาศัยหรือไปพื้นที่ระบาด ครอบครัว เพื่อน คนรู้จัก
ส่วน 10 จังหวัดที่มีอันดับผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 5,140 รายสมุทรปราการ 1,936 ราย สมุทรสาคร 1,847 ราย ชลบุรี 1,408 ราย นนทบุรี 731 ราย อุบลราชธานี 537 ราย นครปฐม 532 ราย บุรีรัมย์ 530 ราย สระบุรี 485 ราย และพระนครศรีอยุธยา 484 ราย
ด้านผู้ป่วยรายใหม่ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 9 ราย ประกอบด้วย อิรัก 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2 ราย กมาเลเซีย 3 ราย เมียนมา 3 ราย และกัมพูชา 3 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 171,488 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 28,359 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 19,993 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 22,508,659 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 17,239,593 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 4,855,000 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 414,066 ราย
@ CCRT ลงพื้นที่เพิ่ม 27 ชุมชน ฉีดวัคซีนเพิ่ม 4,877ราย
สำหรับผลการดำเนินงานโดยกลุ่ม CCRT รวม 260 ทีมในพื้นที่ กทม. ลงพื้นที่เพิ่ม 68 ชุมชน รวมสะสม 2,824 ราย ตรวจหาเชื้อด้วย Antigen Test Kit เพิ่มอีกจำนวน 711 ราย พบเชื้อ 101 ราย รวมสะสม 3,823 ราย ส่งเข้าสู่ระบบการรักษาเรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ ฉีดวัคซีนเพิ่มอีก 4,877 ราย แบ่งเป็น ผู้สูงวัย 2,652 ราย สะสม 57,111 ราย ผู้บริโภคประจำตัว 2,211 ราย สะสม 50,124 ราย และหญิงตั้งครรภ์ 14 ราย สะสม 252 ราย รวมทั้งสิ้น 107,487 ราย
@ 11 คลัสเตอร์ใหม่ กระจาย 9 จังหวัด ส่วนใหญ่มาจาก กทม.
จังหวัดสมุทรสาคร พื้นที่เมืองสมุทรสาคร บริษัทผลิตกระป๋อง ติดเชื้อ 16 ราย พื้นที่เมืองสมุทรสาคร บริษัทเฟอร์นิเจอร์ ติดเชื้อ 14 ราย พื้นที่กระทุ่มแบน โรงงานทอผ้า ติดเชื้อ 9 ราย จังหวัดชลบุรี พื้นที่บ้านบึง บริษัทผลิตภัณฑ์อาหาร ติดเชื้อ 21 ราย จังหวัดนนทบุรี พื้นที่บางใหญ่ บริษัทเสื้อผ้า ติดเชื้อ 58 ราย จังหวัดนครปฐม พื้นที่สามพราน บริษัทเครื่องกีฬา ติดเชื้อ 10 ราย จังหวัดระยอง พื้นที่แกลง โรงงานอาหารทะเล ติดเชื้อ 16 ราย จังหวัดสุพรรณบุรี พื้นที่บางปลาม้า โรงงานน้ าแข็ง ติดเชื้อ 17 ราย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่กุยบุรี โรงงานผลไม้กระป๋อง ติดเชื้อ 14 ราย จังหวัดตาก พื้นที่พบพระ หอพักนักเรียน ติดเชื้อ 13 ราย และจังหวัดจันทบุรี พื้นที่เมืองจันทบุรี ค่ายตากสิน ติดเชื้อ 19 ราย รวมติดเชื้อรวม 207 ราย
นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่า หลายๆ กรณีเกิดจากการเดินทางจาก กทม. และติดกันเองในพื้นที่ โดยเมื่อพบเชื้อแล้วต้องทำในลักษณะบับเบิลแอนด์ซีล ต้องแยกคนป่วยออกมาโดยเร็วที่สุด ไม่ให้คนปกติป่วย และเพื่อให้โรงงานดำเนินการผลิตต่อไปได้ สำหับวัยทำงานจะติดเชื้อได้ง่าย แต่หายเร็ว ไม่เหมือนกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง
@ คาดไม่ล็อกดาวน์ จะพบผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 7 หมื่นรายต่อวัน
นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.ได้รับทราบการคาดการณ์การติดเชื้อ พบว่า
จากสถานการณ์การระบาด หาไม่มีมาตราการล็อกดาวน์ จะเกิดการติดเชื้อในช่วงปลายเดือน ส.ค.- ต้น ก.ย. ประมาณ 60,000-70,000 ราย แค่ถ้าล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 20% จะพบผู้ติดเชื้อเกือบ 45,000 ราย ในต้นเดือน - กลางเดือน ก.ย. และถ้ามีการล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 25% นาน 2 เดือน และเร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงถึงเป้าหมาย คือ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ ภายใน 1-2 เดือน จะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลงเหลอ 20,000 กว่ารายต่อวัน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงการคาดการณ์ผู้เสียชีวิตว่า หากไม่มีการล็อกดาวน์ จะพบว่ามีผู้เสียชีวิต สูงถึง 800 คน ในเดือนก.ย.นี้ แต่ถ้าล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 20% จะพบผู้เสียชีวิต 500 คนในเดือน ก.ย.นี้ และหากล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 25% นาน 2 เดือน บวกกับการเร่งฉีดวัคซีนโควิด จะทำให้ลดอัตราผู้เสียชีวิตเหลือต่ำกว่า 100 รายต่อวัน
"ในสภาพปัจจุบัน บางจังหวัดของต่างจังหวัดหลายๆ ที่มีการไม่ได้ร่วมมือกัน จะเห็นภาพการดื่ม การเล่น การเสพ ซึ่งเข้าใจว่าเป็นภาพที่เกิดขึ้นรายวัน ขอความร่วมมือทุกท่านร่วมแรงร่วมใจกัน การสู้กับโรคระบาดต้องร่วมมือกันทั้งประเทศ" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
@ หญิงตั้งครรภ์ ติดโควิดกว่า 180 เสียชีวิตแล้ว 29 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงสถานการณ์หญิงตั้งครรภ์ที่ป่วยและเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด ระหว่างวันที่ 1 เม.ย. - 11 ส.ค.2564 พบผู้ติดเชื้อ 185 ราย คิดเป็น 0.02% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดที่รับรายงาน แบ่งเป็น สมุทรปราการ 52 ราย ชลบุรี 22 ราย กทม. 11 ราย มหาสารคาม 9 ราย สระแก้ว 7 ราย โดยค่ากลางอายุผู้ติดเชื้ออยู่ที 28 ปี โดยเป็นสัญชาติไทย 73%
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า สำหรับญิงตังรรภ์เสียชีวิต 29 ราย คิดเป็น 0.43% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดที่รับรายงาน แบ่งเป็น กทม. 8 ราย สมุทรสาคร 3 ราย ปทุมธานี 2 ราย พระนครศรีอยุธยา 2 ราย ยะลา 2 ราย และสมุทรปราการ 2 ราย โดยพบว่าไม่มีประวัติได้รับวัคซีน เพียง 1 คน และได้รับวัคซีน 1 เข็ม ส่วนผู้เสียชีวิตค่ากลางอายุ 33 ปี และเป็นสัญชาติไทย 83%
@ ขนส่งสาธารณะดับแล้ว 104 ราย ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. - 12 ส.ค. 2564 มีผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะ ประกอบด้วย คนขับแท็กซี่ ขับรถโดยสารประจำทาง และรถตู้ พบว่าติดเชื้อทั้งหมด 353 ราย และเสียชีวิตแล้ว 104 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ กทม. โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อายุระหว่าง 19 ปี – 60 ปีขึ้นไป มีโรคประจำตัว 72 ราย ไม่มีโรคประจำตัว 34 ราย และไม่ระบุโรค 247 ราย โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีน มีรับวัคซีนเข็มแรกไปแล้วเพียง 34 คน และครบ 2 เข็มแล้ว 8 คน จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงผู้เสียชีวิตที่ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะว่า ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ รถจักรยานยนต์รับจ้าง โดยมีโรคประจำตัวมากถึง 72 ราย เป็นการพบเชื้อหลังเสียชีวิต 99 ราย และเสียชีวิตในโรงพยาบาล 100 ราย ขณะเดียวกันผู้เสียชีวิต 70 รายจากยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
@ เตรียมชงคลายล็อกเปิดธนาคาร-ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ตอบข้อซักถามถึงกรณีที่สมาคมศูนย์การค้าไทย (TSCA) เสนอภาครัฐให้ทบทวนมาตรการ ขอผ่อนปรนให้ 4 ธุรกิจหลักที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของประชาชน สามารถเปิดให้บริการได้ในศูนย์การค้า ได้แก่ 1.ธนาคาร สถาบันการเงิน 2.ธุรกิจสื่อสาร ไอที 3.ร้านเบ็ดเตล็ด 4.ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็น ว่าผอ.ศบค. รับทราบเรื่องราวต่างๆ ที่มีการยื่นร้องเรียนเข้ามาทางอีโอซี กระทรวงสาธารณสุขแล้ว และจะต้องพิจารณาว่ามีผลในเรื่องการป้องกันควบคุมโรคโควิดอย่างไร ในกลุ่มเฉพาะต่างๆ ที่จะขอผ่อนคลาย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มาตรการขณะนี้ เข้มที่สุดแล้ว แต่ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ แต่ทั้งนี้ได้รับทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชนในแต่ละกลุ่ม แต่ละสถานที่อยู่เสมอ และต้องนำมามองในภาพรวมและภาพย่อย จึงตัดสินใจ โดยในวันจันทร์ที่ 16 ส.ค.จะประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในช่วงบ่าย ดังนั้น จะได้ข้อสรุปกันในวันนั้นและหากมีผลการประชุมเป็นอย่างไร จะเรียนแจ้งให้ทราบ
@ ทั่วโลกป่วย 712,227 ราย สะสม 206.23 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 712,227 ราย รวม 206,236,180 ราย อาการหนัก 102,730 ราย หายป่วย 185,078,157 ราย เสียชีวิต 4,347,999 ราย โดยสหรัฐอเมริกา พบผู้ป่วยเพิ่ม 143,537 ราย รวม 37,203,649 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 660 ราย รวม 636,298 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 636,298 ราย รวม 32,117,052 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 583 ราย รวม 430,285 ราย บราซิล พบเพิ่ม 430,285 ราย รวม 20,285,067 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 975 ราย รวม 566,988 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 35 ของโลก
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage