"เครือข่ายต้านน้ำเมา"จัดหนัก ขึ้นโรงพัก สน.ชนะสงคราม แจ้งความเอาผิด บ.เบียร์สิงห์ จัดเลี้ยงจ่ายแจกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ - โฆษณาส่งเสริมการขาย ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งที่กฎหมายห้ามขายห้ามดื่ม
วันที่ 20 ธันวาคม 2562 ที่สน.ชนะสงคราม นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา พร้อมด้วย นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ เดินทางมาแจ้งความ กับ ร.ต.ท. อรรถสิทธิ์ โสนุช รองสารวัตรสอบสวน สน.ชนะสงคราม เพื่อกล่าวโทษต่อบริษัทสิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด และสมาคมรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรณีจัดให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษา เนื่องจากมีการจัดซุ้ม จำหน่ายจ่ายแจกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้มาร่วมงาน ในความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแสดงโฆษณาตราสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อส่งเสริมการขาย โดยงานดังกล่าว จัดขึ้นที่สนามฟุตบอล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา
นายคำรณ กล่าวว่า เครือข่ายฯได้รับการร้องเรียนมาว่า มีการจัดงานเลี้ยงเกิดขึ้น ซึ่งการจัดงานไม่เป็นปัญหาเลยหากเจ้าของงานเท่าทันธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และตระหนักอยู่เสมอว่า สถานที่ราชการสถานศึกษา เป็นสถานที่ต้องปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมาย แม้จะมีข้อยกเว้นเรื่องการจัดเลี้ยงตามประเพณี แต่ในเรื่องข้อยกเว้นนี้ มีบทสรุปที่ชัดเจนแล้วจากสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ว่า ยกเว้นให้เฉพาะงานแต่งงานและพิธีการทางการทูตเท่านั้น กิจกรรมอื่นไม่ถือเป็นการจัดเลี้ยงตามประเพณี ซึ่งวันนี้เราจึงมาแจ้งข้อกล่าวหาบริษัทสิงห์ฯ คือ 1. จัดให้มีการแสดงโฆษณาตราสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อส่งเสริมการขาย ตามความผิดมาตรา 32 และ 2.ความผิดตามมาตรา 27ที่ห้ามจำหน่ายจ่ายแจกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษา นอกจากนี้ ยังได้แจ้งข้อกล่าวหากับสมาคมรัฐศาสตร์ฯ ในข้อหาจัดให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานศึกษา ตามมาตรา 31 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 รวมถึงอาจเข้าข่ายสนับสนุนให้มีการกระทำความผิดในมาตราอื่นๆด้วย
ด้านนายชูวิทย์ กล่าวว่า เหตุใดบริษัทจึงกล้าท้าทายกฎหมายกันแบบนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นสถานศึกษา เป็นสถานที่ราชการ ที่อยู่ภายใต้กฎหมายห้ามขายห้ามดื่มเหล้าเบียร์ชัดเจน เป็นที่รับรู้กันโดยกว้างขวางเพราะกฎหมายฉบับนี้บังคับใช้มานานนับสิบปีแล้ว ที่ผ่านมากรณีอื่นๆ ก่อนหน้านี้มักจะอ้างว่า เป็นการจัดเลี้ยงตามประเพณีโดยตีความกันเอาเองทั้งสิ้น ท้ายที่สุดพอเกิดเหตุเกิดความเสื่อมเสียขึ้นมาธุรกิจก็ไม่ได้รับผิดชอบอะไร แค่ยอมเปรียบเทียบปรับ แต่ผลเสียก็จะตกอยู่กับเจ้าของงานเจ้าของสถานที่แทบทั้งหมด สำหรับงานนี้ สาระที่เห็นทั้งหมดเป็นเรื่องที่ดีงามและน่าชื่นชม น่าสนับสนุน แต่ทำไมยอมปล่อยให้ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาละเมิดกฎหมายแบบนี้ได้ ไม่ควรอย่างยิ่ง และทราบว่าที่นี่กำลังจะมีงานใหญ่เร็วๆนี้ ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยและไม่ตกเป็นเครื่องมือของธุรกิจน้ำเมา