แบงก์ชาติชี้สงครามการค้าระหว่างประเทศยืดเยื้อ ผู้ประกอบการควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
วันที่ 26 สิงหาคม นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศมีแนวโน้มยืดเยื้อและทวีความรุนแรงขึ้น หลังสหรัฐฯ ประกาศตอบโต้รัฐบาลจีนที่ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ รวมมูลค่ากว่า 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในจำนวนนี้ครอบคลุมสินค้าทางการเกษตร เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ และรถยนต์ ทำให้สถาน การณ์การค้าระหว่างประเทศมีความเปราะบางมากขึ้น
"ประเทศไทยเป็นประเทศเล็กที่มีเศรษฐกิจเปิด คงหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อการส่งออกได้ยาก ทั้งนี้ ภาครัฐได้ช่วยประคองเศรษฐกิจในด้านการใช้จ่ายในประเทศ ทั้งการบริโภคและการลงทุนซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ หากเทียบกับประเทศในภูมิภาค การส่งออกของไทยนับว่ายังกระจายตัว ทั้งในด้านประเทศคู่ค้าและด้านสินค้าที่ส่งออก ทำให้การลดลงของการส่งออกไทยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาน้อยกว่าหลายๆ ประเทศ เช่น กลุ่มที่ส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์"
(ภาพ Asian Export Performance)
นางจันทวรรณ กล่าวถึงด้านตลาดการเงินและอัตราแลกเปลี่ยน มีแนวโน้มผันผวนสูงและอ่อนไหวต่อข่าวสารที่เกิดขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดย ธปท. พร้อมร่วมมือกับกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมไทย และธนาคารพาณิชย์ ในการให้ความรู้เรื่องเครื่องมือต่างๆ แก่สมาชิกในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน