ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติว่าด้วยวิธีการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่ใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2567 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติว่าด้วยวิธีการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่ใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชา หรือกัญชงของเด็กในลักษณะสารเสพติด พ.ศ. 2567
เพื่อให้การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและแก้ไขปัญหาการใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ทีมีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชา หรือกัญชงของเด็กในลักษณะสารเสพติด และเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กนำพืชกระท่อม กัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชา หรือกัญชงไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ว่าด้วยวิธีการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่ใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชาหรือกัญชงของเด็กในลักษณะสารเสพติด พ.ศ. 2567"
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ภายใต้บทบัญญัติระเบียบคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ว่าด้วยวิธีการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่เสียงต่อการกระทำผิด พ.ศ. 2555553 พนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา 24 พบเห็นหรือได้รับแจ้งหรือได้รับรายงานจากบุคคลที่พบเห็นเด็กที่เสียงต่อการกระทำผิดให้ปฏิบัติ ดังนี้
(1) กรณีการกระทำครั้งแรก ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเรียกเด็กและผู้ปกครองมาตักเตือนและชี้แจงให้เห็นถึงโทษของการใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชา หรือกัญชง และผลกระทบการออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท รวมทั้งการให้คำปรึกษา แนะแนะแนวทางในการเลิกใช้และหาวิธีการเพื่อให้เด็กเกิดความสามารถในการใช้วิธีการแก้ไขปัญหาทดแทนจากการใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชา หรือกัญชงอยู่ในลักษณะสารเสพติด
(2) กรณีการกระทำซ้ำซ้ำครั้งสองโดยยังไม่เคยได้รับการให้คำปรึกษาแนะแนวทางในการเลิกใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชา หรือกัญชงอยู่ในลักษณะสารเสพติดให้ดำเนินการตาม (1) ก่อน หากเคยรับการให้คำปรึกษาแนะแนวทางมาแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ค้นหาสาเหตุและเชิญผู้ปกครองมาร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือและกำหนดแผนในการแก้ไขป้องกันและบำบัดฟื้นฟูเด็ก รวมทั้งมีอำนาจทำหนังสือตักเตือนเด็กและให้ทำทัณฑ์บนแก่ผู้ปกครองโดยอาจวางข้อกำหนดให้ผู้ปกครองต้องปฏิบัติข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อตามมาตรา 44 วรรคสอง และอาจแต่งตั้งผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเพื่อติดตามกำกับดูแลเด็กระเบียบคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติว่าด้วยวิธีการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่ใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชา หรือกัญชงของเด็กในลักษณะสารเสพติด พ.ศ. 2567เพื่อให้การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและแก้ไขปัญหาการใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ ทีมีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชา หรือกัญชงของเด็กในลักษณะสารเสพติด และเพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก นำพืชกระท่อม กัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชา หรือกัญชงไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ว่าด้วยวิธีการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่ใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชา หรือกัญชงของเด็กในลักษณะสารเสพติด พ.ศ. 2567"
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 3 ภายใต้บทบัญญัติระเบียบคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ว่าด้วยวิธีการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่เสียงต่อการกระทำผิด พ.ศ. 2555553 พนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้มีหน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา 24 พบเห็นหรือได้รับแจ้งหรือได้รับรายงานจากบุคคลที่พบเห็นเด็กที่เสียงต่อการกระทำผิดให้ปฏิบัติ ดังนี้
(1) กรณีการกระทำครั้งแรก ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเรียกเด็กและผู้ปกครองมาตักเตือนและชี้แจงให้เห็นถึงโทษของการใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อมกัญชา หรือกัญชง และผลกระทบการออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท รวมทั้งการให้คำปรึกษา แนะแนะแนวทางในการเลิกใช้และหาวิธีการเพื่อให้เด็กเกิดความสามารถในการใช้วิธีการแก้ไขปัญหาทดแทนจากการใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชา หรือกัญชงอยู่ในลักษณะสารเสพติด
(2) กรณีการกระทำซ้ำซ้ำครั้งสองโดยยังไม่เคยได้รับการให้คำปรึกษาแนะแนวทางในการเลิกใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชา หรือกัญชงอยู่ในลักษณะสารเสพติดให้ดำเนินการตาม (1) ก่อน หากเคยรับการให้คำปรึกษาแนะแนวทางมาแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ค้นหาสาเหตุและเชิญผู้ปกครองมาร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือและกำหนดแผนในการแก้ไขป้องกันและบำบัดฟื้นฟูเด็ก รวมทั้งมีอำนาจทำหนังสือตักเตือนเด็กและให้ทำทัณฑ์บนแก่ผู้ปกครอง โดยอาจวางข้อกำหนดให้ผู้ปกครองต้องปฏิบัติข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อตามมาตรา 44 วรรคสอง และอาจแต่งตั้งผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเพื่อติดตามกำกับดูแลเด็ก
(3) กรณีการกระทำซ้ำซ้ำครั้งสาม พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจส่งตัวเด็กเข้ารับการบำบัดจากแพทย์ รวมทั้งแจ้งให้สถานศึกษาและพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจติดตามสอดส่องเฝ้าระวังพฤติกรรมของเด็กเพื่อป้องกันมิให้เด็กใช้พืชกระท่อม กัญชา กัญชงหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพืชกระท่อม กัญชา หรือกัญชงอยู่ในลักษณะสารเสพติด
ข้อ 4 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ให้การคุ้มครองสวัสดิภาพแก่เด็กซึ่งอยู่นอกเขตที่เด็กอาศัยอยู่สามารถติดตามและประสานงานกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตที่เด็กอาศัยอยู่ ร่วมกันดำเนินการตามข้อ 3 (1) (2) และ (3) แล้วแต่กรณี หรืออาจส่งต่อความรับผิดชอบแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตที่เด็กอาศัยอยู่ก็ได้ตามความเหมาะสม
ข้อ 5 ให้อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชนรักษาการตามระเบียบนี้ และมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดในกรณีที่มีปัญหาหรือข้อขัดแย้งเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
วราวุธ ศิลปอาชา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์